'อินทรี ตร.' โดนปลด!

การแต่งตั้ง "สีกากี" แม้จะเข้าสู่เดือนกันยายน เดือนสุดท้ายตามปีงบประมาณที่จะมีผู้ครบเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 2567 โดยเฉพาะระดับ "แม่ทัพ" บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ก็ครบเกษียณอายุราชการ เช่นเดียวกับ รอง ผบ.ตร., ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผบช.ลงมาถึง ผบก.ก็มีหลายคนครบเกษียณอายุราชการ ในตำแหน่งสำคัญๆ มากมาย ซึ่งตามกฎ ตามเกณฑ์ ตามระเบียบ คำสั่งแต่งตั้ง "นายพล" ต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ปีนี้มีหลายปัจจัย มีหลายเงื่อนไข ทำให้ "โผตำรวจ" ยังนิ่งเงียบ ต่างจาก "โผทหาร" ปัจจัยแรกการแต่งตั้ง "ผบ.ตร." คนใหม่ ยังต้องรอการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็น "ประธาน ก.ตร." โดยตำแหน่ง ให้เสร็จสมบูรณ์ ก่อนถึงจะมา

นั่งหัวโต๊ะเคาะ 3 แคนดิเดต ผบ.ตร. ทั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. นรต.41 เกษียณอายุราชการปี 2569 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.39 เกษียณอายุราชการปี 2568 พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. นรต.42 เกษีณอายุราชการปี 2569 คาดกันว่าน่าจะเป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายเดือนกันยายนนี้ ๐

ส่วนระดับ รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึง ผบก.ทั่วประเทศ ติดเงื่อนไขกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 ให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 5 เม.ย. 2567 ซึ่งก็จะอยู่ราวๆ ต้นเดือนตุลาคม การแต่งตั้งระดับ รองผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปถึงระดับ ผบก. ก็เลยต้องร้องเพลงรอไปอีกระยะ ซึ่งตามคาด "โผนายพล" รอบนี้น่าจะไปจบปลายเดือนตุลาคม โดยหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 มาตรา 82 ภายใต้บังคับมาตรา 88 การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในแต่ละระดับตำแหน่ง ให้พิจารณา 1.ระดับ รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติลงมาถึงผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองจเรตำรวจแห่งชาติ ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถในบัญชีรายชื่อเรียงตามลำดับอาวุโส ส่วนระดับ ผบช.และจเรตำลงมาถึง ผบก. ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถในบัญชีรายชื่อและจัดเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนตำแหน่งว่างในแต่ละระดับ ดังนั้นกองเชียร์ บิ๊กจวบ-พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ไป รรท.รอง ผบ.ตร. นั่งตีพุงรอติดยศ พล.ต.อ. นั่งรอง ผบ.ตร.เต็มตัวได้เลย เพราะอยู่ลำดับอาวุโสสูงสุดในระนาบผู้ช่วย ผบ.ตร. ๐

นับถอยหลังเหลืออีกไม่ถึง 30 วัน "ตำรวจ" ที่ครบเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 2567 ก็ต้องโบกมืออำลาแล้ว ก็เลยได้เห็นหลายคนเริ่มให้ลูกน้องแพ็กของใช้ส่วนตัวลงกล่อง เช่นเดียวกับใน "กรมปทุมวัน" ช่วงเดือนตุลาคมปี 2566 มีการปรับฮวงจุ้ยหลายจุด โดยเฉพาะการนำ รูปปั้นนกอินทรี ขนาดความกว้างของปีกทั้ง 2 ข้างยาวประมาณ 1 เมตร ลำตัวสูงไม่ต่ำกว่า 80 เซนติเมตร มีขนสีเทาสลับสีขาว  กางปีกหันหน้าตระหง่านไปทางวัดปทุมวนาราม มาติดตั้งไว้บริเวณเทอร์เรซชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระรามที่ 1 ตอนนี้ "รูปปั้นนกอินทรี" ได้หายไปจากเทอร์เรซชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการเรียบร้อย เหมือนก่อนหน้านี้ที่ไฟประดับลายธงชาติไทยมูลค่าหลายแสนบาท ที่ติดห้อยลงมาขนานอาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดสว่างไสวยามค่ำคืน ก็ได้ถูกเก็บไปจากอาคาร 1 ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมแล้ว ๐

สัจธรรมแห่ง “โผทหาร” เมื่อมีการเปลี่ยน ผบ.เหล่าทัพ เนื่องจากเกษียณอายุราชการในทุกครั้ง ไม่เคยมีซักครั้งที่จะ “สมูท” หรือเป็นข่าวเพียงชื่อเดียวและเข้าสู่เส้นชัยแบบ “ม้วนเดียวจบ” ครั้งนี้ก็ไม่ต่างจากทุกครั้ง .. ในส่วนของตำแหน่ง “ผบ.ทบ.” กว่าที่ชื่อแรกที่ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.เสนอจะผ่านด่านคณะกรรมการปรับย้ายชั้นนายพลฯ ก็ยังต้องทำสงครามแบบปะดาบแล้วเลือดเดือดมาหลายยก และกว่าที่โผจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายก็ต้องเจอมรสุมอีกหลายลูก  ด้วยการงัดข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายที่คุมสภาพกองทัพไม่ได้แล้ว และจากการเมืองขั้วตรงข้าม ที่ต้องเปลี่ยนยุทธวิธีในการตีไปที่ตัวบุคคล เพื่อส่งต่อข้อมูลปลุกกระแสสังคมในการต้าน  แต่ยิ่งปล่อย “โผ" ทิ้งไว้นานเท่าไหร่ โดยยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ถวาย ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากโผเดิมหรือไม่ ๐

อาถรรพ์เก้าอี้ "แม่ทัพน้ำ" ที่มักไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่นัก เพราะส่วนหนึ่งเกิดจากเป้าหมายในการวางคนของตัวเองไว้ปีต่อปี เนื่องจากประสบการณ์ในอดีตยุค "บิ๊กลือ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เป็น ผบ.ทร. ประกาศคัดคนแบบเลือกไข่ใส่ตะกร้า และคัดไข่ออกไปไว้นอกวง ทำให้ช่วงนั้นเกิดความระส่ำระสาย เพราะไข่นอกตะกร้าถูกคัดออกเป็นรุ่นๆ และยังเกิดปรากฏการณ์หลายเรื่องที่แปลกแปร่ง โดยเฉพาะเรื่องการยึดเรื่อง "ฮวงจุ้ย" มีการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์พื้นที่วังเดิมใหม่ มีการปลูกต้นไผ่หลายจุด แถมหน่วยในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการทำประตูหน่วยงานให้มีความยิ่งใหญ่ ออกแบบตกแต่งให้มีกลิ่นอายแบบเมืองจีน ๐

แต่เมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้าย ถ่ายเลือดกันหลายครั้ง ช่วงหลังจึงกลายเป็นยุคของเตรียมทหาร 20 คุมอำนาจกองทัพ “บิ๊กเฒ่า” พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกระทรวงกลาโหม จึงได้ข้ามห้วยกลับไปเป็น ผบ.ทร. จากนั้นมีการดึง  “บิ๊กจอร์จ” พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ กลับมาเป็น ผบ.ทร.ในปีถัดๆ มา อีกทั้งทีมที่เคยเจ็บหนักยุค “บิ๊กลือ” ก็ได้กลับมาอยู่ในไลน์ และได้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยในเส้นทางรับราชการ ไม่ว่าจะเป็น พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.คนปัจจุบัน “บิ๊กน้อย” พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสนาธิการทหารเรือ “บิ๊กเต๊ะ” พล.ร.อ.สุพพัต ยุทธวงศ์  รองปลัดกระทรวงกลาโหม หรือแม้กระทั่ง “บิ๊กแมว” พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. อดีตหัวหน้าฝ่ายเสธ.ของ “บิ๊กจอร์จ” ที่ “บิ๊กดุง” เสนอชื่อให้เป็น ผบ.ทร.ต่อจากตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าเรื่อง “คนของเรา-คนของเขา” จะจบ  เพราะดูจากโผโยกย้ายยังมีกลิ่นอายของ “คน” มากกว่า “องค์กร” ๐

สุดท้ายคือ ปรากฏการณ์ปิดประตู "บิ๊กลือ" โดย พล.ร.ต.วีรุดม ม่วงจีน โฆษก ทร. เปิดเผยว่า ทร.ได้ทำการลำเลียง “เรือ ต.99” ที่ได้ปลดระวางประจำการแล้ว มายังหน้าประตูใหญ่ กองบัญชาการกองเรือยุทธการ ถนนสุขุมวิท อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หลังจากได้ทำการปรับภูมิทัศน์ พร้อมทั้งจัดทำโครงสร้างรองรับเรือ ต.99 บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าไว้แล้ว สำหรับเรือ ต.99 เป็นเรือที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการพระราชทานพระราชดำริ และพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการต่อเรือ ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักการพึ่งพาตนเอง โดยเมื่อครั้งเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรการต่อเรือยนต์รักษาฝั่ง ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในปี พ.ศ. 2503 จึงทำให้ ทร.โดยกรมอู่ทหารเรือ รับสนองพระราชดำริ โดยการต่อเรือในชุดเรือ ต.91 (เรือ ต.91-เรือ ต.99) ๐

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จะทำให้ส้มชนะ

หลายคนเป็นห่วงประเทศไทยและตั้งคำถามว่าประเทศไทยของเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และหลายคนก็หวั่นไหวว่า ถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ เห็นทีเลือกตั้งคราวหน้าเราคงจะได้พรรคส้มเป็นรัฐบาลพรรคเดียว

ระยะอุบัติเหตุ-เรื่องร้ายใหญ่รอบนี้

ตามที่ได้ทำนายไว้ในไทยโพสต์และหลายสื่อตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว รวมทั้งล่าสุดในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ดำเนินรายการโดย ดร.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์

ฤๅประเทศไทยจะไร้ทางเลือก

เวรกรรมอะไรของประเทศไทย นักการเมืองไดโนเสาร์บางคนยังคงทำงานการเมืองแบบน้ำเน่า แย่งกันเป็นรัฐมนตรีโดยไม่สนใจความรู้ความสามารถของตน

โลกกับบ้านเรา...ใคร 'เละ' กว่าใคร???

มันก็น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่ตามสมควรเหมือนกัน...ที่เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เกิดมีผู้นำประเทศมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้หญิง

สัญญาใจเก้าอี้ ผบ.ทร.

มีข้อสงสัย มีข้อถกเถียง ว่าเก้าอี้ "ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ" หรือ "ประธาน ก.ตร." นั้น นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี