รักยาวให้บั่น-รักสั้นให้ต่อ!!!

ยังไม่ถึงกับเป็นอะไรที่...ชัดเจน!!! ว่าท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา ท่านคิดจะ อยู่ยาวว์ว์ว์ ไปอีก 4 ปี 5 ปี นับจากบัดนี้กันเลยหรือไม่? อย่างไร? เพราะเท่าที่ไปพูดๆ แถวปักษ์ใต้ แถวจังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะหร่าด ท่านเพียงแต่บอกเอาไว้แบบกว้างๆ หลวมๆ ประมาณว่า...ในอีกประมาณ 5 ปีข้างหน้า อะไรต่อมิอะไรที่ท่านทำเอาไว้ น่าจะส่งผลให้เห็นแบบแจ่มแจ้ง ชัดเจน อะไรทำนองนั้น...

คือพูดง่ายๆ...ยังไม่คงถึงกับต้อง กลั้นใจตาย กันไปซะก่อนล่วงหน้า เพราะแค่จะอยู่ให้ ครบเทอม หรืออยู่ไปประมาณเดือนมีนาคม ปีพุทธศักราช 2566 ตามกำหนดอายุของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ ก็น่าจะต้องหายใจทางปาก ทางเหงือก ไม่ก็ต้องต่อท่อออกซิเจนให้สูด ให้พ่น ประมาณนักดำน้ำ นักประดาน้ำ เอาเลยก็ไม่แน่ หรือถึงแม้บรรดา ขาเชียร์ ทั้งหลาย จะออกมายืนยัน นั่งยัน ว่ายังไงๆ ก็ไม่มี ยุบสภา ไม่มี เลือกตั้งใหม่ ก่อนกำหนดการที่ได้วางเอาไว้ แต่โดยลักษณะอาการ โดยรูปมวย ทางมวย โอกาสที่จะเต้นย็อกๆ แย็กๆ กลางเวทีต่อไปได้เรื่อยๆ จนถึงช่วงกรรมการรวบรวมคะแนน ช่วงหมดยก ครบยก ไปตามกฎ กติกานั้น ออกจะเป็นอะไรที่ ยากซ์ซ์ซ์ซ์ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...

เฉพาะแค่ผลสรุปของ นิด้าโพล เมื่อช่วงวันวานที่ผ่านมา...ก็ลำบากแล้ว!!! ไม่ว่าจะน่าเชื่อ-ไม่น่าเชื่อ มีงาน-ไม่มีงานก็แล้วแต่ แต่การสรุปรวมความว่า ผู้คนถึง 40.35 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าควร ยุบสภา กลับไปเลือกตั้งกันใหม่ได้แล้ว หรือ 30.05 เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าหลังแก้กฎหมายเลือกตั้งไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์แล้ว ก็น่าจะ ยุบสภา ให้สิ้นเรื่อง สิ้นราว กันไปซะที เมื่อนำมารวมๆ กันแล้ว ก็ปาเข้าไปถึงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย มีอยู่แค่ 22.12 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ที่อยากให้อยู่ยาวว์ว์ว์ตามแบบฉบับ เราจะทำตามสัญญา...ขอเวลาอีกไม่นาน ฮึ้มฮึม ฮึ้มหึ่ม ไปจนกว่าจะครบเทอม ครบวาระ ตามที่ ขาเชียร์ ปรารถนาและต้องการ...

คือคงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ภายใต้ความเป็นไทยๆ หรือภายใต้วาสนาและสันดาน ของบรรดาปวงชนชาวไทยทั้งหลาย ค่อนข้างไม่ค่อยจะเปิดโอกาสให้กับใครต่อใคร ได้ อยู่ยาวว์ว์ว์ แบบชนิดอีเหลนเป๋นมากมายเกินไปนัก หรือด้วยเหตุเพราะความเบื่อง่าย ความอยากได้ของใหม่ อยากลองของใหม่ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่ ขนาดอดีตรัฐบุรุษ และประธานองคมนตรี อย่าง ป๋าเปรม ของหมู่เฮา ยังต่อตั๋ว ต่ออายุ ได้เพียงแค่ 8 ปีเท่านั้นเอง จากนั้น...ก็ต้องถึงจังหวะ ถึงวาระที่ ผม...พอแล้ว ไม่คิดจะไปต่อ ณ ที่ไหนๆ อีกแล้ว ส่วนจะส่งผลให้เหตุการณ์บ้านเมือง เป็นไปในทิศไหนต่อทิศไหนค่อยไปว่า ค่อยไปแก้กันอีกที...

ดังนั้น...ถ้าหากท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ท่านคิดทำลายสถิติ แบบประเภท โนวัก ยอโควิช คิดจะแซงหน้า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หรือ ราฟาเอล นาดาล อะไรประมาณนั้น ถ้าว่ากันในแง่ ความคิด อาจพอคิดได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ แต่ในแง่ของ ความจริง หรือในแง่ ข้อเท็จจริง แล้ว ออกจะยากซ์ซ์ซ์ฉิบหาย ยากซ์ซ์ซ์ตายโหง และอาจนำมาซึ่งความยุ่งฉิบหาย ยุ่งตายห่า ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ คือแค่ต่อตั๋วยาวมาจนผ่าน 7 ปี ใกล้ๆ จะถึง 8 ปีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หรือในช่วงปีหน้า โดยลักษณะอาการก็น่าจะ กะรุ่งกะริ่ง พอสมควรแล้ว หรือน่าจะได้จังหวะ เวลา ที่ ผม...พอแล้ว ตามแบบฉบับ ป๋าเปรม โดยไม่คิดทำลายสถิติ ไม่คิดจะทาบรัศมี น่าจะเหมาะ น่าจะเข้าท่ากว่า ไม่ถึงกับเสียๆ หายๆ อะไรกันมากมาย...

แต่ถ้าหากยังคิดจะ เดินหน้า ยังคงทุรนทุราย กะจะให้ไปถึงช่วงครบเทอม หรือลากต่อไปอีก 4 ปี 5 ปี ไปจนกว่าจะถึงปีพุทธศักราช 2570 โน่นเลย โอกาสที่จะ ตาย...กับ...ตาย หรือ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต กลายเป็น ผัก นอนติดเตียงไปโดยตลอด ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ คือแค่เจอกับท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ดอกเดียว ก็น่าจะต้อง หยอดน้ำข้าวต้ม กันไปอีกตราบนานเท่านาน แถมยังต้องมาเจอกับ น้ำท่วม เข้าไปอีกดอก จะ บิ๊กตู่...ฉู้ฉู้ (สู้ๆ) กันไปอีกถึงขั้นไหน ต่อขั้นไหน ก็น่าจะมีแต่ลำบากยิ่งเข้าไปทุกที ยิ่งถ้าหากต้องเจอกับ คลื่นยักษ์สึนามิทางเศรษฐกิจ ที่กำลังจะอุบัติขึ้นมาภายในปีหน้าหรือไม่เกินไปกว่านี้มากมายนัก...เข้าไปอีกดอก ต่อให้อยากจะ ฉู้ฉู้ กันไปในแบบไหน อย่างไร สุดท้าย...ก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้อง ตาย...กับ...ตาย ลูกเดียวเท่านั้นเอง โอกาสเหลือรอด เหลือเศษ เหลือซาก ออกจะยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ...

 การรู้จักประมาณการ ประมาณตน รู้ถึงจังหวะและโอกาส ว่าอะไรเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร ย่อมถือเป็น คุณสมบัติ ที่สำคัญเอามากๆ ของบรรดาผู้ซึ่งมีอำนาจ หน้าที่ รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลาย คือไม่ว่าจะเก่ง-แสนเก่ง ฉลาด-แสนฉลาด ตื๊อ-แสนตื๊อ ทน-แสนทน ฯลฯ เพียงใดก็เถอะ แต่ถ้าหากจังหวะและโอกาสมันไม่เอื้ออำนวยให้ ความพยายามฉุดกระชากลากถูให้ตัวเองยังคงมี อำนาจ ต่อไป มันอาจส่งผลให้เกิดการฉุดกระชากลากถูประเทศชาติ ให้ต้อง กะรุ่งกะริ่ง ตามลักษณะอาการเดียวกันกับตัวเอง อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ และนั่นเองที่ทำให้คำพูดประโยคสั้นๆ ง่ายๆ คือคำว่า ผม...พอแล้ว จึงกลายเป็นคำอธิบายที่สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนัก สำนึก ต่ออำนาจ หน้าที่ และสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือ ความรับผิดชอบ ที่ผู้นำชาติบ้านเมืองในทุกๆ ราย พึงต้องตระหนัก และสำนึก เอาไว้อย่างเป็นที่สุด...

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้...จาก Anais Nin... “Life shrinks or expands in proportion to one’s courage. - ชีวิตจะหดสั้น หรือแผ่ขยายขอบเขต ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนแห่งจิตใจที่ห้าวหาญของคนเรา...”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!

เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย

ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”

หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น