โลกกับบ้านเรา...ใคร 'เละ' กว่าใคร???

มันก็น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่ตามสมควรเหมือนกัน...ที่เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เกิดมีผู้นำประเทศมีนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้หญิง เป็น นารีขี่ม้าขาว อะไรต่อมิอะไรมันเลยมักจะเป็นไปตามคำพูด คำทำนาย ของพระอาจารย์ ฤาษีลิงดำ ที่เคยรจนาไว้เป็นบทกลอนตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ว่าหนีไม่พ้นต้องเจอ สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ ซะทุกทีไป ไม่ว่าจะเป็นท่านนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ จนถึงท่านนายกฯ คุณหลาน อุ๊งอิ๊ง ผู้ผัดข้าวผัดโดยไม่ต้องจุดไฟในทุกวันนี้...

ครั้งนายกฯ ปู นั้น...ถึงขั้นเชี่ยวหลั่งท่วมกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ ชนิดรถยนต์ของคุณน้อง แป้น-ปาริชาติ ที่อุตส่าห์เอาไปจอดทิ้งไว้ที่ ดอนเมือง ด้วยความเชื่อต่อคำพูดของ อธิบดีปลอก 

(ปลอดประสพ สุรัสวดี) ว่าด้วยความเป็น ดอน เป็นที่สูง น้ำย่อมท่วมไม่ถึงอยู่แล้วแน่ๆ แต่จนแล้วจนรอดยังถูกท่วมมิดหลังคาจนได้ หรือเล่นเอา อันตัวข้าพเจ้าเอง ต้องเผ่นเตลิดเปิดเปิง ไปตั้งหลักอยู่แถวๆ อ่างศิลา ชลบุรี ไปนั่งรับประทานกับแกล้มที่อาจารย์ แก้วสรร-ขวัญสรวง เป็นผู้ปรุง แบบต้องออกเรี่ยว ออกแรง ตั้งเตา จุดไฟ เหน็ดเหนื่อยกว่านายกฯ คุณหลาน อุ๊งอิ๊ง ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า โดยมีอาจารย์ ยักษ์-อภิชาติ คอยรินน้ำมังสวิรัติอยู่ข้างๆ...

แต่มาคราวนี้...สายน้ำท่านไปหลั่ง ไปเชี่ยวกรากอยู่แถวๆ ภาคเหนือ-ภาคใต้ ส่วน กทม.จะเป็นรายต่อไปหรือไม่? อย่างไร? ยังคงต้องรอลุ้นไปจนถึงช่วงตุลา. พฤศจิกา. โน่นเลย แต่โดยรวมๆ แล้ว ความหนักหนา-สาหัสต่อบรรดาผู้ประสบภัยน้ำท่วมไม่ว่าภาคไหนต่อภาคไหนก็แล้วแต่ มันคงไม่ถึงกับผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันมากมายซักเท่าไหร่ และทำให้ความเป็น นารีขี่ม้าขาว ค่อนข้างเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียว น่าขนหัวลุก ขนคอตั้ง เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้ามองลึก มองไกล ไปถึงองค์ประกอบอีกหลายส่วนของความเป็นผู้นำประเทศ เป็นนายกรัฐมนตรีเมืองไทย อย่างที่นักวิเคราะห์เจาะลึก นักฟันธง ทั้งหลาย ท่านได้หยิบมาฟันไป-ฟันมาแบบคนละด้าม-สองด้าม...

แต่เอาเป็นว่า...ไม่ว่าประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา จะเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวยิ่งเข้าไปเรื่อยๆ แต่เมื่อเทียบกับความเป็นไปของโลกทั้งโลกแล้ว อันนั้นนั่นแหละ...ที่น่าขนหัวลุก ขนคอตั้ง ซะยิ่งกว่าไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า เพราะไม่ว่าบรรดา นักการเมือง ในเมืองไทย ท่านจะเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก ไปถึงขั้นไหน ไม่ว่า บิ๊กป้อม จะตายในชายป่า เลือดแดงทาป่ารอยต่อฯ กันเลยหรือไม่? อย่างไร? ไม่ว่านักการเมืองในตำนานอย่าง พี่ชวน จะไม่ยอม พายเรือให้โจรนั่ง แต่ก็ไม่อาจเอาตีนราน้ำได้เลยแม้แต่น้อย หรือไม่ว่าท่านนายกฯ คุณหลาน อุ๊งอิ๊ง จะมีจุดจบแบบเดียวกับอดีตนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ คือต้องอาศัย ช่องทางธรรมชาติ เป็นทางออก-ทางไปในท้ายที่สุดก็ตามที แต่สุดท้าย...มันก็คงพอ อยู่ๆ กันไปได้ นั่นแหละทั่น!!! ไม่ถึงกับต้องตายโหง-ตายห่ากันไปซะทั้งหมด แม้แต่คุณน้อง เอกนัฐ ที่สามารถ รอดตาย ในช่วงการประท้วงของ กปปส. ไม่ถูกจรวดอาร์พีจีถล่มแบบใครต่อใครเขา ก็ยังพอมีโอกาสผงาดขึ้นเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรมกันจนได้...

แต่สำหรับความเป็นไปของโลกนี่สิ!!!...ไปๆ-มาๆ มันชักจะไปไกลถึงขั้น นิวเคลียร์-ไม่นิวเคลียร์ กันแล้ว ไม่ว่ามหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกา ที่เริ่มหันมาปรับยุทธศาสตร์ข้อแนะนำการใช้อาวุธนิวเคลียร์ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ดังที่หนังสือพิมพ์ The New York Times เขารายงานไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ หรือมหาอำนาจคู่แข่งอย่างคุณน้ารัสเซียที่หันมาแก้ไขหลักนิยมการใช้อาวุธนิวเคลียร์ไปเมื่อเร็วๆ นี้ แถมยังเคยทดสอบการถล่มเป้าหมาย 32 แห่งในยุโรปด้วยอาวุธนิวเคลียร์มาแล้วก่อนหน้านี้ ส่วนมหาอำนาจคู่แข่งอีกรายอย่างคุณพี่จีนก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่า ชาตินิวเคลียร์ อื่นๆ เช่นกัน ที่ได้หันมาเพิ่มความสำคัญต่ออาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นเรื่อง-เป็นราวยิ่งเข้าไปทุกที นั่นยังไม่รวมไปถึงผู้ที่เต็มไปด้วยพลังขับดันจากต่อมแห่งความระแวง อย่างเกาหลีเหนือ ที่กำอาวุธนิวเคลียร์เอาไว้ในมือไม่รู้จะกี่ลูกต่อกี่ลูก...ฯลฯ...

อันนี้นี่แหละ...ที่มันอาจทำให้เกิดการตายโหง-ตายห่า ของผู้คนพลเมือง พลโลก แม้แต่ประเทศหญ้าแพรกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรต่อมิอะไรด้วยเลย แบบที่ พระคัมภีร์ไบเบิล ได้เคยระบุไว้ในบทวิวรณ์ ตามคำกล่าวของ จอห์นผู้เห็นภาพนิมิต (John the Revelator) เมื่อร้อยๆ พันๆ ปีมาแล้ว นั่นคือพลโลกทั้งหลาย อาจต้องเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ส่วน ขณะที่บรรดาทวยทหารจะจบชีวิตลงไปไม่น้อยกว่า 200 ล้านคน ด้วยเหตุนี้...ก็อย่าถึงกับต้องไปหมกมุ่นอยู่แต่เฉพาะเรื่องความเละเป็นขี้ เละเป็นโจ๊ก ในบ้านเราแต่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น คงต้องลองหาเวลาหันไปสำรวจ ตรวจสอบ ความเป็นไปของโลกควบคู่ไปด้วย เผลอๆ...อาจพอมองเห็น ทางออก-ทางไป ที่แม้จะเหลือช่องอยู่เพียงน้อยนิด แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย???.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมดปัญญา...เทวดาต้องรอด

เวลานี้ มีคนบางคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วปรากฏว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ไม่มีหน่วยงานใด ไม่มีกฎหมายมาตราใดจะเอาโทษเขาได้

ว่าด้วยความสำคัญของ 'จังหวะ' และ 'โอกาส'

อาทิตย์นี้...ก็ 22 ธันวา.เข้าไปแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงช่วงจังหวะ คริสต์มาส ที่คงมีโอกาสได้ยิน ได้ฟัง บทเพลงอันสุดจะซาบซึ้ง ตรึงใจ ไม่ว่าประเภท จงกระเบน-จงกระเบน (Jingle Bells)

ตั้ง'นายพล'ไปต่อ

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 นาย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร

นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง

'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!

คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน

'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม

ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง