เก้าอี้อยู่ไหน?

คณะกรรมการบริหารพรรคฯ ได้พิจารณาเรื่องเสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ ๑๗ (๑) (ฉ) และ ข้อ ๙๒ โดยที่ประชุมได้พิจารณาการที่พรรคพลังประชารัฐได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย

โดยได้มีการแถลงข่าวร่วมกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลอื่นๆ ไปเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๗ และในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๗ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐได้ลงมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๗

หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคไปให้นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน ๔ ท่าน ดังนี้

๑.พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

๒.ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

๓.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

๔.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยที่ประชุมได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบรายชื่อบุคคลดังกล่าวข้างต้น ให้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ทั้งนี้หากรายชื่อบุคคลที่เสนอไปข้างต้น ปรากฏว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลใหม่ และเสนอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทดแทน..."

"...แต่ปรากฏว่าเมื่อพรรคพลังประชารัฐสอบถามไปยังพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรคเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงทราบว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไม่ได้ติดต่อเพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้

ดังนั้นเพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐจึงมีหนังสือฉบับนี้เพื่อกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ท่านมีอำนาจในการสั่งการสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้โปรดมีบัญชาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับพลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ เพื่อที่พรรคพลังประชารัฐจะได้ดำเนินการให้มีการกรอกข้อมูลในแบบฯ และนำส่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป..."

เกมนี้เป็นความเก๋าของฝั่ง "ลุงป้อม" เพราะอย่างไรเสีย  ๒ ชื่อที่ส่งไปโดยฝั่ง "ธรรมนัส" นั่นมิได้ทำตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 

หากนายกฯ อุ๊งอิ๊งหยิบไปใช้ จะกลายเป็นคดีอย่างแน่นอน

แต่การชิงไหวชิงพริบ มันพลิกไปมา

เดิมทีคิดว่า ๔ ชื่อที่เสนอไปนั้น ชื่อของ "ธรรมนัส" ไม่น่าจะผ่าน ก็เป็นสิทธิ์ของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่อยู่ในการคอนโทรลของ "ลุงป้อม" จะหยิบชื่อใหม่ขึ้นมา

แต่ดันเจอเหตุการณ์ "ปิดสวิตช์วงษ์สุวรรณ" ซะงั้น

ก็ไปตรงกับข่าวสารก่อนหน้าว่า "ทักษิณ" สั่งใน ครม. ห้ามมี "คนบ้านป่า" อยู่เด็ดขาด

จึงเข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมาอีก ๑ กรณี

ตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ เพราะคนชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" คนเดียว มันทำให้พันกันไปหมด

ศรัทธาของประชาชนต่อนักการเมืองมันเริ่มลดลงเรื่อยๆ

ไม่เห็นอนาคตอะไรเลยครับว่า รัฐบาลอุ๊งอิ๊งจะเข้ามาแก้ปัญหาอะไรได้

โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ เพราะพ่อนายกฯ บอกว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่อทั้งๆ มีเสียงเตือนทุกวันนี้ระวังจะพาประเทศเข้าสู่หายนะ

แถมยังใช้สกิลเก่า เอาธุรกิจใต้ดินขึ้นบนดิน คิดแบบนายทุนหวังเพียงกำไรให้ผู้ถือหุ้นเท่านั้น ประเทศฉิบหายช่างมัน

มีคณิตศาสตร์การเมืองที่น่าสนใจมากครับ

พรรคพลังประชารัฐมี สส. ๔๐ คน

พรรครวมไทยสร้างชาติมี สส. ๓๖ คน

รวม ๗๖ คน

หาก ๒ พรรคนี้บอกว่าไม่อยากไปต่อแล้ว เพราะ "ทักษิณ" ศัตรูการเมืองเก่าเข้ามาจัดการทุกอย่าง ขอถอนตัวออกจากการตั้งรัฐบาล

เสียงรัฐบาลก็จะเหลือ ๒๓๘ เสียง ไม่ถึงครึ่ง รัฐบาลอยู่ไม่ได้

นายกฯ ต้องลาออก

หรือไม่ก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่

๒ พรรคนี้มีอำนาจต่อรองที่สูงมากนะครับ แต่ก็ดันหงอกับ อดีตนักโทษชาย ไปเสียฉิบ!

เชื่อเถอะครับพรรคประชาชนยังไม่อยากร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ เพราะกลิ่นเน่ามันโชยออกมาแล้ว

รอเลือกตั้งดีกว่า เพราะโอกาสแลนด์สไลด์มีสูงกว่า

สง่างามกว่ามาก

แต่หากพิเรนทร์ ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยดื้อๆ ก็เตรียมเปลี่ยนชื่อพรรคได้เลย

พรรคทรยศประชาชน

ครับ...นี่คือการตั้งรัฐบาล ไม่ว่าจะพลิกไปทางไหน อดีตนักโทษคดีคอร์รัปชันก็เข้ามาเกี่ยวข้องทุกประตู ทั้งที่เปิดเผย และที่ไม่เป็นข่าว

นี่แค่เริ่มต้นนะครับ ยังชัดขนาดนี้

ปล่อยไปสักพักบรรยากาศนายกฯ ๒ คน จะมาเต็ม

นายกฯ ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ จะเป็นหุ่นเชิดนายกฯ ที่ตั้งตนขึ้นมาเอง

ระวังจะถูกล้มกระดาน.