สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังของประชาชนต่อ ครม.ชุดใหม่” ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,164 คน สำรวจผ่านทางออนไลน์และภาคสนาม พบว่า กลุ่มตัวอย่างอยากให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ชุดใหม่ควรต้องเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ร้อยละ 74.43 และคาดหวังว่าจะทำงานดีขึ้น กระทรวงต่างๆ ร่วมมือกันทำงานได้ดีขึ้น ร้อยละ 70.30
โดยมองว่า “ความซื่อสัตย์และจริยธรรม” ทางการเมืองเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการคัดเลือก ครม.ชุดใหม่ ร้อยละ 84.19 การปรับ ครม.ครั้งนี้คาดหวังว่าน่าจะส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลดีขึ้น ร้อยละ 46.39 สุดท้ายการปรับ ครม.จะส่งผลต่อสถานการณ์บ้านเมืองอย่างไรนั้น ยังคาดการณ์อะไรไม่ได้ ร้อยละ 30.50
นอกจากนี้ พรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ยังระบุว่า จากผลโพลไม่ว่าจะกี่ครั้งของรัฐบาลนี้ ประชาชนยังคงให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ค่าครองชีพ ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่กระทบต่อชีวิตประจำวัน โดยมีความหวังว่า ครม.ชุดใหม่จะทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซื่อสัตย์ โปร่งใส เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล แม้ประชาชนจะมีความหวัง แต่ก็ยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์บ้านเมืองจะไปในทิศทางใด เนื่องจากยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้
ขณะที่ เบญจพร พึงไชย ผู้ช่วยคณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาเรื้อรัง ถึงร้อยละ 74.43 และสิ่งที่ตามมาจากปัญหาเศรษฐกิจคือ ปัญหาปากท้องที่ส่งผลให้ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่รายรับกลับสวนทาง นอกจากนี้ ความซื่อสัตย์และจริยธรรมทางการเมืองเป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญ เพราะการเมืองไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาล้วนประสบกับปัญหานี้มาโดยตลอด ซึ่งส่งผลต่อความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาล หรือแม้กระทั่งฝ่ายค้านเอง
ด้านภาคเอกชนอย่าง สนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า ได้เข้าพบกับนายกฯ อุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตร นอกจากขอความชัดเจนเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาทแล้ว ยังเสนอ 3 เรื่องเร่งด่วน คือ 1.การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในระยะสั้น กลางและระยะยาว 2.การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน SME เพราะ 90% ของสมาชิกของเราเป็น SME ในจังหวัดต่างๆ และ 3.การวางยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศอยากเห็นยุทธศาสตร์ของประเทศไทยไปในลักษณะอย่างไร
เช่นเดียวกับ เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. มี 5 ข้อเสนอเร่งด่วน คือ 1.การปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากสินค้านำเข้าที่ไม่มีคุณภาพและการทุ่มตลาด แนวทางดำเนินการ 2.ส่งเสริมสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยและสินค้าที่ได้รับการรับรอง Made in Thailand (MiT) 3.การลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม 4.การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SME และ 5.การส่งเสริมการค้าชายแดนและพัฒนาระบบโลจิสติกส์
ส่วน ณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย-จีน ระบุว่า ปัจจุบันสินค้าจีนราคาถูกทุ่มตลาดไทย และมีการจำหน่ายสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่มีราคาถูก เช่น เทมู (Temu) รัฐบาลควรให้ความสนใจและพยายามแก้ไขปัญหาแรงกดดันทางการแข่งขันที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญภายใต้กลไกการตลาด ต้องกำกับดูแลเพื่อป้องกันการละเมิดกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเข้มงวด ด้านการดำเนินธุรกิจที่มิชอบด้วยกฎหมายโดยใช้นอมินี รัฐควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ภาคการเงินอย่าง ผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เห็นว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้น รัฐบาลต้องดึงเศรษฐกิจนอกระบบเข้าสู่ระบบ เติมเครื่องมือเพื่อช่วยให้ SMEs เพื่อให้ปรับตัวได้และเพิ่มการเข้าถึงสินเชื่อ, เร่งแก้หนี้ครัวเรือนและให้สินเชื่ออย่างยั่งยืน, เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการและก้าวทันกระแสโลก และเร่งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ด้วยการเร่งผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาค สร้างความต่อเนื่องของโครงการอีอีซี
อย่างไรก็ตาม คงต้องมาลุ้นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ ว่าจะสามารถหลุดพ้นจากวังวนของปัญหาจริยธรรมการเมืองได้หรือไม่ และฝีไม้ลายมือจะเป็นอย่างไร สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนได้แค่ไหน หรือเพียงแค่ขายผ้าเอาหน้ารอด แจก ลดสะบั้นเหมือนที่ผ่านๆ มา.
บุญช่วย ค้ายาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปี68สินเชื่อระบบแบงก์ไทยหืดจับ
ปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องจับตากับทิศทางของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งบวกและลบ ที่จะเข้ามามีผลกับภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานการณ์กดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน
แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’
อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ
เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี
เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม
แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน
การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ
ของขวัญรัฐบาล
อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว
ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ