อุตฯฮาลาลยังเดินต่อ!

ต้องยอมรับว่า หนึ่งในอุตสาหกรรมที่เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการพูดถึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากการผลักดันที่จริงจังของ “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ตอนนั้นเพิ่งเข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใหม่ๆ และมีแพชชันที่จะผลักดันอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างจริงจัง เพราะเห็นถึงโอกาสการเติบโตในตลาดโลก และเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้อุตสาหกรรมฮาลาลขึ้นมาเป็นที่พูดถึงตลอดในช่วงที่ผ่านมา

แม้ในระยะอันใกล้นี้จะมีการปรับแผนโยกย้ายอะไรเกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลเวอร์ชันใหม่ ก็เชื่อว่าอุตสาหกรรมนี้จะยังคงเดินต่อไป แถมยังได้ความมั่นใจว่าจะเดินหน้าต่อแน่นอน เพราะล่าสุด “พิมพ์ภัทรา” ได้มอบหมายให้คณะผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย “วรวรรณ ชิตอรุณ” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)

พร้อมด้วยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ และสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมทั้งผู้ประกอบการไทย

เดินทางเยือนบรูไนดารุสซาราม ระหว่างวันที่ 25-28 ส.ค.2567 เพื่อดำเนินกิจกรรมการเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือในการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทย รวมถึงการจัดงาน Halal Thai Night เพื่อประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และขยายตลาดสินค้าฮาลาลไทย สืบเนื่องจากผลการประชุมคณะกรรมการฮาลาลแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2567 กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งขับเคลื่อนการดำเนินงานตาม (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทย ระยะที่ 1 (พ.ศ.2567-2570) ในระยะ 1 ปีแรก Quick Win ให้บรรลุเป้าหมาย

โดยเฉพาะกิจกรรมการเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือในการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทยกับกลุ่มประเทศเป้าหมาย ได้แก่ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 5-7 ส.ค.2567 กระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมฮาลาล ครั้งที่ 4 และการประชุมคณะทำงานผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล ครั้งที่ 18 ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ณ เมืองลังกาวี สหพันธรัฐมาเลเซีย

ทั้งนี้ในปี 2568 ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมด้านคณะทำงานผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล เพื่อร่วมแสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมฮาลาลไทยอีกด้วย สำหรับแผนงานต่อไปคือ การประชุมความร่วมมือทวิภาคี ไทย-บรูไนดารุสซาลาม เพื่อต่อยอดความร่วมมือด้านเศรษฐกิจตามผลการเยือนระดับผู้นำของทั้งสองฝ่าย และการเยือนบรูไนครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะเข้าพบหน่วยงานสำคัญด้านอุตสาหกรรมฮาลาลของบรูไน และกระทรวงการคลังและเศรษฐกิจบรูไน หน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างประเทศ

ซึ่งการเข้าพบเจรจาหารือขยายความร่วมมือนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลระหว่างไทยและบรูไน ส่งเสริมและพัฒนาฮาลาลทั้งในด้านอาหารและที่ไม่ใช่อาหาร เพื่อยกระดับมาตรฐานและเทคโนโลยี และสร้างความร่วมมือที่จะร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลของทั้งสองฝ่ายให้เติบโตยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้ (ร่าง) แผนปฏิบัติการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลไทยระยะ 5 ปี (พ.ศ.2567-2570)

ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและคณะผู้ประกอบการมีกำหนดการเข้าพบเจรจาหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่และนักลงทุนสาขาอุตสาหกรรมฮาลาลของบรูไน อาทิ บริษัท Ben Foods (B) Sdn Bhd ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าโภคภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ดำเนินธุรกิจคลังสินค้าขนาดใหญ่และทันสมัย อีกทั้งมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และ Barramundi Group Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลา โดยเน้นการเพาะเลี้ยงและจัดจำหน่ายปลาบารามันดีที่มีชื่อเสียงในด้านความสดใหม่และคุณภาพสูง ความมุ่งมั่นในการจัดการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นี่ก็คงเชื่อมั่นได้ว่า การเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือในการขยายตลาดสินค้าและบริการฮาลาลไทย-บรูไนครั้งนี้ จะเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับนโยบายที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมฮาลาลระหว่างไทยและบรูไน.

 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐตื่นสกัดสินค้าจีน

มีเสียงบ่นดังๆ มาจากผู้บริโภค ผู้ประกอบการไทย ที่พบว่าตอนนี้ทำการค้าขายได้ยากมากๆ เนื่องจากถูกสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดอย่างหนักหน่วง ซึ่งธุรกิจจีนที่เข้ามาก็มีทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ทั้งในรูปแบบเปิดร้านค้าขายในไทยอย่างชัดเจน และอีกส่วนก็เข้ามาค้าขายในแพลตฟอร์มออนไลน์

ปากท้อง เรื่องแรก

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ความคาดหวังของประชาชนต่อ ครม.ชุดใหม่” ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2567 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,164 คน

เร่งเครื่องดึงนักท่องเที่ยว

จากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วงเกือบ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ก.ค.2567 ทั้งสิ้น 20,335,107 คน

ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง

หลังจากนายกรัฐมนตรีหญิง แพรทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่งอย่างชัดเจน ทำให้ภาคเอกชนต่างก็ดีใจ เพราะไม่ทำให้ประเทศเป็นสุญญากาศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสิ่งแรกที่ภาคเอกชนอย่าง

แนะเจาะใจผู้บริโภคด้วย‘ความยั่งยืน’

คงต้องยอมรับว่าประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งจากผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัว

รัฐบาลงัดทุกทางพยุงตลาดหุ้น

หลังจากปล่อยให้ตลาดหุ้นซึมมาอย่างช้านาน จนปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 1,300 จุด เรียกได้ว่าสำหรับนักลงทุนถือเป็นความเจ็บปวด เพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ไปไหน