สับสนอลหม่าน แพทองธาร...พาลแพแตก

เราเคยทำนายไว้ว่าเมื่อนายกรัฐมนตรีที่ชื่อเศรษฐาพ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และได้แพทองธารมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ถ้าหากสูตรการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีไม่เหมือนเดิม ความเป็นเอกภาพของรัฐบาลจะสั่นคลอน เพราะคนที่ต้องพ้นจากตำแหน่งไปจะไม่พอใจ ถ้าหากมีการปรับโควตา มีการเปลี่ยนกระทรวง มีการเปลี่ยนตัวบุคคล เรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าเรื่องใดก็จะสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลได้ทั้งนั้น และแล้ว บัดนี้ ฉากทัศน์ของการเมืองว่าด้วยการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ทำให้เอกภาพของรัฐบาลสั่นคลอน และประชาชนที่ติดตามโผ ครม. ก็รู้สึกสับสน เพราะโผของสื่อแต่ละสำนักก็ไม่ตรงกัน และโผก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ใช่เปลี่ยนรายวัน แต่เปลี่ยนกันเป็นรายชั่วโมง ไม่รู้ว่าในวันนี้ที่บทความนี้ตีพิมพ์ในไทยโพสต์ โผลงตัวแล้วยัง ตำแหน่งต่างๆ ลงตัวแล้วยัง คนที่ต้องออกไป คนใหม่ที่หวังจะได้ แต่ไม่ได้ มีอาการเป็นเช่นไร

พรรคที่ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นักวิเคราะห์วิแคะทั้งหลายต้องหยิบมาพูดถึงก็คือพรรคไทยสร้างไทยที่สร้างปรากฏการณ์งูเห่า ทั้งนี้เพราะพรรคไทยสร้างไทยอยู่ซีกพรรคฝ่ายค้าน แต่ปรากฏว่า สส.ของพรรคทั้ง 6 คนนั้นลงคะแนนเห็นด้วยให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี การกระทำดังกล่าวนั้นทำให้คุณหญิงสุดารัตน์ไม่พอใจ และได้ตำหนิ สส.ทั้ง 6 คนนั้นให้ปรากฏเป็นข่าวสาธารณะ และในขณะเดียวกันก็มี สส. 1 คนถูกขับออกจากพรรค เพราะมีท่าทีฝักใฝ่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ดังนั้นต้องดูกันต่อไปว่าบทบาทของ สส.ทั้ง 6 คนของพรรคไทยสร้างไทยที่ลงคะแนนเห็นชอบให้แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นจะเป็นเช่นไร และทางพรรคจะทำกับ สส.ที่เหลืออีก 5 คนอย่างไร และจะส่งผลกับการทำงานของรัฐบาลหรือไม่

พรรคที่สองที่ดูเหมือนจะมีปัญหาเหมือนกัน เพราะพรรคนี้ถูกมองว่าเป็นพรรคอะไหล่ เป็นพรรคในซีกฝ่ายค้าน แต่วิเคราะห์กันว่ามีความต้องการที่จะเข้าร่วมรัฐบาล แต่ก็มีผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นด้วย เพราะไม่ต้องการร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทยที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด พรรคที่ว่านี้คือพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นการออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบของ สส.พรรคนี้จึงงดออกเสียง แสดงว่าไม่ได้ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ จะเรียกว่าแทงกั๊กก็น่าจะใช่ และเวลานี้ก็มีข่าวแว่วว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง แบบนี้แล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะยังมีเอกภาพอยู่อีกหรือไม่ แม้ว่าผู้ใหญ่ในพรรคที่เคยแสดงท่าทีไม่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยบอกว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ขอให้เป็นไปตามมติของพรรค และเมื่อพรรคเข้าร่วมรัฐบาลจริงๆ แม้ท่านจะไม่ค้าน แต่ในใจของท่านนั้น ท่านจะยอมรับได้จริงๆ หรือ แล้วเอกภาพภายในพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นเช่นไร ในการทำงานของรัฐบาลต่อไปในภายภาคหน้า สส.พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนจะมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันได้ทุกเรื่องหรือไม่

พรรคที่ดูเหมือนจะมีปัญหามากที่สุดคือพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่ทำให้เราเห็นรอยปริร้าวทั้งภายในพรรค และระหว่างพรรค สำหรับระหว่างพรรค เราก็เห็นว่าทักษิณไม่พอใจพลเอกประวิตร เพราะเคยตำหนิว่าพลเอกประวิตรยุ่งไม่เข้าเรื่องในกรณีที่ สว. 40 คนยื่นตรวจสอบจริยธรรมของเศรษฐา ขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรคก็ขัดแย้งกัน จนมีการแสดงพลังด้วยการนับจำนวน สส.ว่าฝ่ายไหนมี สส.มากกว่ากัน โผรายชื่อของพรรคที่ออกมาเป็นข่าวก็สับสนอลหม่าน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาว่าจะมีรายชื่อของรัฐมนตรีมาจากฝ่ายใด พรรคนี้เลยกลายเป็นพรรคเดียว 2 กลุ่มที่ไม่คิดที่จะเดินทางเดียวกันอีกแล้ว บีบบังคับให้แพทองธารว่าจะตั้งรัฐมนตรีของพรรคนี้จากรายชื่อของกลุ่มใด เมื่อเลือกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแล้วจะส่งผลต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างไร จะมีหอกข้างแคร่หรือไม่ หรือจะมีใครเป็นหนอนหรือเปล่า

แม้แต่ในพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำก็อย่าคิดว่าจะสามารถวางตัวรัฐมนตรีให้เป็นที่พอใจของทุกคน ทุกฝ่าย เพราะจะมีคนที่ต้องออกไป จะมีคนที่อยากได้รอบนี้ แต่ไม่ได้ แล้วคนที่ไม่พอใจกับโผรัฐมนตรีรอบนี้จะมีปฏิกิริยาอย่างไร อำนาจและบารมีของนายใหญ่จะทำให้คนที่ไม่พอใจต้องยอมกลืนเลือด ไม่แสดงปฏิกิริยาต่อต้านใดๆ ได้ทุกคนหรือ แล้วยังมีพ่อลูกบางบอนอีก ลูกไปแล้ว แต่พ่อยังอยู่ ขอให้พรรคขับออก พรรคก็ยังไม่ขับ แล้วถ้าหากเขาตัดสินใจเป็นหอกเป็นหนอนวันใด พรรคเพื่อไทยคงทำงานลำบากแน่ เพราะเชื่อว่าเขามีข้อมูลเยอะ แล้วถ้าหากมีการผนึกกับคนที่ในอดีตเคยรับใช้นายใหญ่ แต่เปลี่ยนใจแล้วอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ จตุพร เนวิน แรมโบ้ การทำงานของรัฐบาลคงจะไม่ราบรื่นแน่ๆ อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องมาตรฐานจริยธรรมอย่างมากเลยนะ แม้แต่ตัวนายกรัฐมนตรีเองก็เสี่ยงอยู่เหมือนกันนะ จึงขอพูดว่าเวลานี้ ความสับสนอลหม่านที่ว่านี้ อาจจะทำให้ “แพทองธาร” กลายเป็น “พาลแพแตก” ได้เหมือนกันนะ ว่าไหม?.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาเป็นชุด! 'ดร.เสรี' ฟาดคนโอหัง ความรู้ไม่มี ทักษะไม่มี ไร้ภาวะผู้นำ น่าสมเพชอย่างแท้จริง

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เตือนก็แล้ว ตำหนิก็แล้ว ต่อว่าก็แล้ว เยาะเย้ยก็แล้ว ล้อเลียนก็แ

ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้

เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ

เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม

จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!

ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก

ดร.เสรี ยกวาทะจัญไรแห่งปี 'เขาเว้นเกาะกูดให้เรา'

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประโยควาทะอัปรีย์จัญไรแห่งปี "เขาเว้นเกาะกูดให้เรา" แสดงว่าเขาเมตตาเราสินะ เราต้องขอบคุณเขา สำนึกบุญคุณเขาใช่ไหม