เร่งเครื่องดึงนักท่องเที่ยว

จากสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ข้อมูลพบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในช่วงเกือบ 7 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ก.ค.2567 ทั้งสิ้น 20,335,107 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 957,319 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงสุด ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 ได้แก่ 1.จีน 4,127,730 คน มาเลเซีย 2,863,823 คน และ 3.อินเดีย 1,198,745 คน

 เมื่อดูตัวเลขแล้วแน่นอนว่า จะเห็นนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเป็นอันดับ 1 แต่ยังคงเทียบไม่ได้กับตัวเลขก่อนเกิดโควิด-19 ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าโหมจัดกิจกรรมกระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดจีนแบบเชิงรุก ล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการใหญ่ "Nihao Month" 

นำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศและตลาดจีนจัดเต็มโปรโมชันผ่าน 5 แพลตฟอร์มออนไลน์ของจีน ควบกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว KOLs MEGA FAM Trip แฟนมีต พร้อมดึง China-Thailand Cultural Friendship Ambassador (Luo Yunxi) เพิ่มแรงกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย รวมถึงกระตุ้นการใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยว ตลอดช่วงกันยายน-ตุลาคม 2567 นี้

 โดย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้ข้อมูลว่า โครงการ “Nihao Month” นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน 50 ปี ที่จะมาถึงในปี 2568 นี้ โดยเป็นการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรทางการท่องเที่ยว มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาทางการท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยให้ได้รับบริการที่ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมและกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคุณภาพจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมาประเทศไทยในช่วงวันชาติจีนไปจนถึงช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีน พร้อมมุ่งหวังว่าจะขยายผลต่อยอดให้เกิดการพัฒนา และยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป

 ด้าน ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ททท.ร่วมกับพันธมิตรทางการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ จัดโครงการ “Nihao Month” เพื่อกระตุ้นส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนเพิ่มการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยว ด้วยการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งกิจกรรม Joint Promotion ร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ใหญ่ในตลาดจีน ได้แก่ Ctrip Meituan Tongcheng Fliggy และ Unionpay

 โดยกิจกรรมทั้งหมดจะเริ่มจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงวันชาติจีนและเทศกาลไหว้พระจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดยาว คาดว่าจะสร้างการรับรู้กว่า 500 ล้านคน-ครั้ง และนักท่องเที่ยวมากกว่า 250,000 คน โดยจะขยายผลต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงส่งในการเข้าสู่ปี 2568 ที่จะเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน 50 ปี ที่กิจกรรมส่งเสริมตลาดจะมีความเข้มข้นยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

 สำหรับกิจกรรมในโครงการ “Nihao Month” กำหนดจัดตลอดช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 เริ่มต้นด้วยการร่วมกับพันธมิตรแพลตฟอร์มออนไลน์ในตลาดจีน ได้แก่ Ctrip, Fliggy, Meituan, Tongcheng, Unionpay จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่ายตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงสิ้นปี 2567 การจัด KOLs MEGA FAM Trip เชิญ Key Opinion Leaders จากสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวนมากกว่า 100 ราย จัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการท่องเที่ยวไทย

 ตั้งแต่วันที่ มกราคม-17 สิงหาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 4,534,021 คน โดยยังคงเป็นตลาดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมากที่สุด ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ มาตรการยกเว้นวีซ่าไทย-จีน การเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่มีคุณภาพและศักยภาพในการใช้จ่ายสูง และนิยมเดินทางต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดย ททท.เชื่อมั่นว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการNihao Month” ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะช่วยผลักดันให้นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นไปตามเป้าหมาย 7.3 ล้านคน ที่ตั้งไว้ในปี 2567.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้องเร่งแก้ปัญหาปากท้อง

หลังจากนายกรัฐมนตรีหญิง แพรทองธาร ชินวัตร รับตำแหน่งอย่างชัดเจน ทำให้ภาคเอกชนต่างก็ดีใจ เพราะไม่ทำให้ประเทศเป็นสุญญากาศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสิ่งแรกที่ภาคเอกชนอย่าง

แนะเจาะใจผู้บริโภคด้วย‘ความยั่งยืน’

คงต้องยอมรับว่าประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งจากผู้บริโภค ภาคเอกชน และภาครัฐ ส่งผลให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัว

รัฐบาลงัดทุกทางพยุงตลาดหุ้น

หลังจากปล่อยให้ตลาดหุ้นซึมมาอย่างช้านาน จนปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 1,300 จุด เรียกได้ว่าสำหรับนักลงทุนถือเป็นความเจ็บปวด เพราะดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ไปไหน

ดันอุตฯไทยไปอวกาศ

แน่นอนว่าในยุคที่โลกต้องก้าวหน้าไปสู่อุตสาหกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น และต่อไปไม่ได้มองแค่ในประเทศหรือในโลกแล้ว แต่มองไปถึงนอกโลกเลยด้วยซ้ำ เพราะจะเป็นหนึ่งในกลไกในการพัฒนาอุตสาหกรรมภาคพื้นที่มีความแข็งแกร่งส่งผ่านไปยังอุตสาหกรรมอวกาศได้

แบงก์มอง ASEAN ยังมาเหนือ

ยังคงมีอีกหลายประเด็นที่ต้องจับตามองกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในสถานการณ์โลกและภายในประเทศ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการค้า โดยมุมมองของ อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า

ปัญหาฝุ่น PM2.5 ต้องแก้ต่อเนื่อง

ต้องยอมรับว่า อ้อยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย ที่ทำรายได้แก่ภาคเกษตรกรปีละ 1 แสนล้านบาท แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการเก็บเกี่ยวอ้อยนั้นส่งผลให้เกิดฝุ่นละอองในอากาศ โดยเฉพาะ PM2.5 ที่เกิดจากเกษตรกรเผาอ้อยก่อนที่จะมีการตัด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว แต่ยังไม่บรรลุผล