วัดใจดาบสอง 'โจ๊ก'

คลี่คลายไปอีกหนึ่งปม เมื่อราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ข้าราชการตำรวจ ตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน และขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 140 และมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ประกอบข้อ 11 ของกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ. 2547 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว บัดนี้ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ตอนนี้ก็ต้องมาลุ้น "ดาบสอง" ของ "บิ๊กโจ๊ก" ในเรื่องการกระทำผิดวินัยร้ายแรง เพราะคณะกรรมการสอบสวนวินัย ที่มี "วู้ดดี้" พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะ ใกล้จะสรุปผลสอบ บิ๊กโจ๊ก พร้อมพวกรวม 5 คน กระทำผิดวินัยร้ายแรง ซึ่งการสอบสวนคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการเรียกตำรวจที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำนั้น แว่วว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพียงรายเดียวที่ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา พร้อมทั้งรับว่ากระทำผิดเพียงผู้เดียว ก็ต้องมาลุ้นกันว่าคณะกรรมการสอบสวนวินัยจะมีความเห็นอย่างไร เพราะตามปกติทั่วไปคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับตำรวจมักจะยังไม่ฟันธงชี้ชัดอะไร เพียงแค่รอให้คดีอาญาที่อยู่ในชั้นศาลมีคำพิพากษาออกมาก่อน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นโอกาสที่ บิ๊กโจ๊ก จะกลับเข้ารับราชการตำรวจตามปกติก็ยังมีอยู่ตามระเบียบ ตามกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่วงชาติ หากภายใน 270 วันยังไม่มีผลสอบอะไรออกมา ตำรวจผู้นั้นก็ต้องกลับเข้ารับราชการตามเดิม กรณี บิ๊กโจ๊ก เมื่อพ้นจาก รอง ผบ.ตร.ไปแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องหาตำแหน่งเทียบเท่าให้แทน ยกเว้นคณะกรรมการฯ ชุด "วู้ดดี้" ตัดจบ ทุกอย่างก็เอวัง ๐

ชาวบ้านนอนหลับกันแบบสบายใจ เห็นนโยบายกวาดล้างผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง อาวุธปืนผิดกฎหมาย แก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ยังเป็นนโยบายสำคัญที่ "กรมปทุมวัน" เดินหน้าลุยอย่างต่อเนื่อง เดือนก่อน บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มอบหมายให้ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย บิ๊กอ้อ-พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระดมกำลังตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาค 1-9 เปิดยุทธการ “พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767” กระจายกำลังเข้าตรวจค้น 183 จุดทั่วประเทศ กวาดล้างการกระทำผิดตามนโยบายทุกรูปแบบ จนมีผลปฏิบัติการเป็นที่น่าพอใจ เมื่อหัวขยับ ลูกน้องก็ขยัน อย่างที่เมืองอุทัยธานี ลูกน้องเจ้าพ่อเงินกู้รายใหญ่ควงอาวุธปืนกราดยิงเข้าไปในบ้านลูกหนี้ที่ขาดส่งไปเพียง 6 วัน จนมีผู้บาดเจ็บ เล่นแรงชนิดกระตุกหนวดแบบนี้ มีหรือ พล.ต.ต.ณรงค์เดชศ์ ศักดิ์สมบูรณ์ ผู้การอุทัยธานีจะปล่อยไว้ สั่ง พ.ต.อ.สาทิตย์ ศรีหมื่นไวย ผกก.สภ.เมืองอุทัยธานี ตามจับกุมแก๊งทวงหนี้โหดมาได้ทันที 5 ราย เรียกว่าได้ใจชาวบ้านอักโข ๐

คงกดปุ่ม pause อีกไม่นาน ทั้งโผทหาร การอนุมัติแบบเครื่องบินรบ การอนุมัติแก้สัญญาเรือดำน้ำ เพื่อรอรัฐมนตรีกลาโหมใน “ครม.อุ๊งอิ๊ง 1” คลอดออกมาในสัปดาห์หน้า ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นคนเก่าหรือคนใหม่ แต่ในการประชุมสภากลาโหมครั้งสุดท้ายใน ครม.เศรษฐา รักษาการยังเป็น "สุทิน  คลังแสง" คนเดิม พร้อมเห็นชอบ 2 กม.เรือธง คือ  ร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... สาระสำคัญคือการสกัดกั้นการทำรัฐประหาร ให้อำนาจนายกฯ โดยความเห็นชอบ ครม.สั่งพักราชการทหารที่คิดทำการรัฐประหาร และร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ขั้นตอนต่อไปจะส่งไปยังสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรี เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี จากนั้นจะส่งเข้าบรรจุในวาระการพิจารณาของสภาฯ ร่วมกับร่างกฎหมายของพรรคการเมืองต่างๆ ต่อไป แม้ในที่ประชุมสภากลาโหมครบองค์ประชุม ผบ.เหล่าทัพส่งตัวแทนมา แต่ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ติดภารกิจที่ บก.กองทัพไทย และ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปรับเครื่องราชย์ที่ประเทศสิงคโปร์ ๐

แต่ก่อนหน้านี้ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์แล้ว และได้เข้าเยี่ยมคำนับ พล.ร.ต. Sean Wat ผู้บัญชาการทหารเรือสิงคโปร์ และ พล.ร.ท. Aaron Beng ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสิงคโปร์ ณ อาคารกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ ก่อนเข้าเยี่ยมคำนับนายอึ้ง เอ็ง เฮ็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ โอกาสนี้ประธานาธิบดี Tharman Shanmugaratnam ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์สิงคโปร์เชิดชูเกียรติทางทหาร The Maritorious Service Medal (MSL) แก่ผู้บัญชาการทหารเรือไทย โดยเป็นเครื่องอิสริยาภรณ์เชิดชูเกียรติในส่วนของทหารต่างชาติ ซึ่งทางการสิงคโปร์จะมอบแด่ผู้ที่ดำรงตำแหน่งระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพของมิตรประเทศ ซึ่งการมอบแด่ผู้บัญชาการทหารเรือไทยในครั้งนี้ เพื่อยกย่องผลงานในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกลาโหมแบบทวิภาคีระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสาธารณรัฐสิงคโปร์

            พูดถึงเรื่อง "โผทหาร" ตอนนี้เรียกได้ว่า “พักรบ” ไปก่อน เชื่อว่า “สุทิน” คงจะยังไม่เรียกประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล เพราะไทม์ไลน์ปกติก็จะไปเคาะกันต้นเดือน ก.ย. หรือกรณีพิเศษเร็วสุดก็ปลายเดือนสิงหาคม ในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ก็จะให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมในขณะนั้นเป็นคนรวบรวม พูดคุยในการส่งนายทหารข้ามห้วยระหว่างเหล่าทัพ กับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย รวบตึงทุกอย่างจบแล้ว “ลุงตู่” ถึงค่อยมาตัดจบในตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ และ 5 เสือบางตำแหน่ง ในส่วนกองทัพบกอาจหมายรวมถึงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ด้วย แต่เมื่อเป็น รมว.กลาโหมสายพลเรือน จึงต้องให้ "ปลัดหนุ่ม" พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม รับโผมารวบรวมไว้ก่อน ตำแหน่งไหนยังไม่มีการส่งมาจากกองทัพไทย และในส่วนของสำนักงานปลัดกลาโหม ก็ให้เว้นว่างใส่จุดไข่ปลาไว้ก่อน 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกผู้แทนกันยังไง...เมืองไทยจึงเป็นเช่นนี้

หลังจากรู้ผลการเลือกตั้งในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 บ้านเมืองไทยก็ดูพิกลพิการ อยู่ในสภาพที่ไม่อาจจะเดินหน้าเพื่อการพัฒนาที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้า

ว่าด้วยการ'ฟันธง'ของนักวิเคราะห์ทั้งหลาย

ถึงเคยคลุกคลีอยู่กับการ วิเคราะห์ การบ้าน-การเมือง มาร่วมกว่าๆ 2 ทศวรรษเห็นจะได้ แต่ด้วยอายุปูนนี้และด้วยสภาพแวดล้อมที่ทำให้ตัวเองใกล้ๆ

จะดิ้นอย่างไรก็ไปไม่รอด

ก่อนถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยชี้ชะตาพรรคก้าวไกลว่าจะถูกยุบหรือไม่ พวกเขามีการดิ้นรนกันมากในลักษณะหมาจนตรอก

ว่าด้วย 'ความเปลี่ยนแปลง' ที่กำลังจะเกิดขึ้น???

ขณะที่ บ้านเรา กำลังรอลุ้นว่าจะ ยุบพรรค-ไม่ยุบพรรค ในกรณี พรรคก้าวไกล เมื่อช่วงวันพุธที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งอาจลุ้นต่อไปถึงเรื่องการ ไปต่อ-ไม่ไปต่อ

ตำรวจโอลิมปิก

ปลื้มใจกันทั้ง "กรมปทุมวัน" สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โพสต์แสดงความยินดีและภาคภูมิใจข้าราชการตำรวจทั้ง 7 นาย ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย