สงครามที่นาโตตั้งใจให้ยูเครนแพ้?

หากนาโตไม่ฉวยโอกาสนี้ ปล่อยให้ “ชัยชนะ” หลุดลอยไป อาจเป็นอีกหลักฐานชี้ว่าแท้จริงแล้วรัฐบาลสหรัฐกับพวกไม่คิดให้เซเลนสกีชนะ

นักวิเคราะห์สนใจสงครามยูเครน มีการวิเคราะห์มากมายหลากหลาย บทความนี้นำเสนอการวิเคราะห์แนวทางหนึ่งที่คิดว่าแท้จริงแล้วเป้าหมายนาโตไม่อยู่ที่แพ้หรือชนะของรัฐบาลเซเลนสกี และอาจเป็นสงครามที่ไม่ตั้งใจให้ยูเครนชนะ

ภาพ: เครื่องบิน F-16

เครดิตภาพ: https://europeannewsroom.com/europe-in-brief-denmark-and-the-netherlands-commit-to-deliver-f-16-fighter-jets-to-ukraine/

ทัพยูเครนบุกเข้าแผ่นดินรัสเซีย:

6 สิงหาคม 2024 ทัพยูเครนเริ่มยุทธการบุกเข้าแผ่นดินรัสเซีย เป็นการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ ทำลายแนวป้องกันรัสเซียในเขตคุส (Kursk) ทางการรัสเซียรายงานว่ากองทัพยูเครนเข้ายึดพื้นที่ขนาดกว้าง 40 กิโลเมตร ลึก 12 กิโลเมตร ประกอบด้วย 28 ชุมชน จับกุมพลเรือนราว 2,000 คน ส่วนหนึ่งเสียชีวิต

ในเวลาต่อมากองทัพยูเครนรายงาน สามารถควบคุมพื้นที่ 1,000 ตารางกิโลเมตร (386 ตารางไมล์) ประสบความสำเร็จตามเป้าอย่างสวยงาม ปูตินชี้ว่า “ข้าศึกต้องการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในประเทศ”

ทางการสั่งอพยพพลเรือนกว่าแสนคนออกจากพื้นที่อย่างจ้าละหวั่น เห็นชัดว่ารัสเซียเพลี่ยงพล้ำ สื่อตะวันตกตีข่าวว่าเป็นครั้งแรกนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่รัสเซียสูญเสียดินแดน เป็นชัยชนะครั้งสำคัญของรัฐบาลสหรัฐกับพวกที่หนุนหลังยูเครน

ด้านเซเลนสกีมีความคิดแลกเปลี่ยนดินแดนยึดครองเพื่อสงบศึก

รัสเซียจำต้องมีรัฐกันชน:

เป็นเรื่องดีหากสามารถสงบศึกด้วยการที่ต่างฝ่ายต่างคืนพื้นที่ยึดครอง เพราะที่ผ่านรัฐบาลปูตินยืนยันไม่คืนพื้นที่ยึดครอง ส่วนเซเลนสกียืนยันต้องได้คืนทั้งหมดรวมทั้งไครเมีย

แต่ความคิดนี้อาจไม่ได้ผล หากรัฐบาลยูเครนยังคิดที่จะเป็นสมาชิกนาโตซึ่งเป็นต้นตอสำคัญที่กองทัพรัสเซียบุกยูเครน

การที่กองทัพยูเครนสามารถฝ่าแนวป้องกันรุกเข้าไปในดินแดนรัสเซียถึง 30 กิโลเมตร เป็นหลักฐานสำคัญชิ้นหนึ่งที่อธิบายว่าทำไมรัสเซียจึงย้ำหนักหนาว่าต้องมีรัฐกันชน หวังให้ยูเครนเป็นรัฐกันชน ขนาดทำสงครามกันอยู่แท้ๆ ทหารรัสเซียวางแนวป้องกันไว้แต่ไม่วายที่ยูเครนสามารถรุกเข้าไปได้ถึง 30 กิโลเมตรในเขตคุส (Kursk)

เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานแก่รัสเซียว่าสงครามยูเครนไม่จบที่สงบศึกเท่านั้น แต่ต้องจบที่มีแนวรัฐกันชน (อาจเป็นบางส่วนของยูเครน) และยูเครนต้องไม่เป็นสมาชิกนาโต

ตามมุมมองรัสเซีย การสร้างรัฐกันชนนั้นถูกต้องแล้ว

นาโตควรสนับสนุนสงครามต่อไป:

ที่ผ่านมามีกระแสแง่ลบจากพวกตะวันตกด้วยกันว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะสนับสนุนรัฐบาลเซเลนสกีให้ทำสงครามต่อไป ในการหาเสียง ทรัมป์ตั้งข้อสงสัยว่างบประมาณที่ช่วยยูเครนคุ้มค่าหรือไม่ ยอมยุติสงครามด้วยเงื่อนไขที่รัสเซียได้เปรียบ

เป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่ากองทัพยูเครนรบได้เพราะอาวุธตะวันตก ชัยชนะในเขตคุส (Kursk) เป็นข่าวน่ายินดีสำหรับพวกที่เชียร์เซเลนสกี ตั้งแต่ก่อนเริ่มสงครามพวกตะวันตกพูดว่ากองทัพรัสเซียอ่อนแอและคิดว่ายูเครนจะชนะสงคราม บัดนี้การรุกในเขตคุส (Kursk) เป็นอีกหลักฐานที่ชัดเจน สมควรที่จะสนับสนุนให้ทำสงครามต่อไป

ยิ่งมีข่าวกองทัพยูเครนมีกำลังพลน้อย ยิ่งสมควรต้องได้รับอาวุธชั้นเลิศจากนาโต ใช้พลังอาวุธทดแทนกำลังพลที่น้อยกว่า ข้อมูลจาก The Military Balance 2022 ระบุว่าสหรัฐมีรถถัง M1 ในประจำการ 2,645 คัน และมีในคลังสำรองอีก 3,450 คัน รถถังในคลังสำรองนี่แหละคือตัวอย่างอาวุธที่ควรส่งมอบให้ยูเครนอย่างเร่งด่วน

Colin Kahl รมช.กลาโหมสหรัฐพูดถูกว่า เหตุที่สหรัฐไม่อยากส่งรถถัง M1 Abrams แก่ยูเครนเพราะ “ยูเครนซ่อมไม่ได้ บำรุงรักษาไม่เป็น ไม่สามารถบริหารจัดการรถถังแบบนี้” กรณีเครื่องบินขับไล่ก็เช่นกัน เครื่องบินรบที่มีนักบินคนเดียวแต่จำต้องใช้ช่างซ่อมบำรุงหลายคน ไม่เพียงนักบินที่ต้องฝึกรบให้ชำนาญนานหลายเดือน ช่างก็เช่นกัน เครื่องบินขับไล่ปัจจุบันเป็นอาวุธไฮเทค เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่มีกลไกซับซ้อน จำต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการตรวจซ่อม ... ถามว่ายูเครนมีช่างฝีมือเหล่านี้หรือไม่ ถามว่าต้องฝึกกี่เดือนจึงจะมีฝีมือมากพอ

คำชี้แจงของรัฐมนตรีช่วย Kahl ให้ความเข้าใจว่า ยูเครนไม่พร้อมที่จะใช้อาวุธหลักทันสมัยอย่างรถถังประจัญบานกับ F-16 ที่สำคัญความจริงนี้แฝงด้วยเหตุผลที่ว่ารัฐบาลตะวันตกรู้ดีอยู่แล้วว่าความช่วยเหลืออาวุธนั้นจำกัด ไม่ใช่อยากให้ก็จะให้ได้เลย ดังนั้น เมื่อสงครามยูเครนมาถึงขั้นที่อาวุธรุ่นเก่าหมดแล้ว ยูเครนก็ไม่อาจได้อาวุธทันสมัยกว่านั้นอีกแล้ว .... เท่ากับว่าเมื่อการศึกยืดเยื้อ ยูเครนจะเป็นฝ่ายปราชัย

ภายใต้กรอบนี้ ยูเครนชนะศึก หรือรุกกินดินแดนรัสเซียทำได้จริงหรือไม่อยู่ที่รัฐบาลสหรัฐกับพวกจะสนับสนุนยูเครนมากพอหรือไม่ ตั้งใจเช่นนั้นหรือไม่และทำได้จริงหรือไม่

สงครามที่นาโตตั้งใจให้ยูเครนแพ้?:

การรบที่คุส (Kursk) บ่งชี้ว่ากองทัพยูเครนสามารถชนะกองทัพรัสเซีย หากรัฐบาลสหรัฐกับพวกสนับสนุนกองทัพยูเครนมากกว่านี้ เต็มที่กว่านี้ ให้อาวุธมากกว่านี้ อาวุธที่ดีกว่านี้ โอกาสชนะย่อมมากขึ้น

แต่ 2 ปีที่ผ่านมายูเครนได้รับอาวุธมือ 2 อาวุธรุ่นเก่าทิ้งค้าง เมื่ออาวุธเก่ามือ 2 ของนาโตเริ่มหมด จึงค่อยๆ ทยอยให้อาวุธที่ทันสมัยขึ้น มีอานุภาพมากขึ้น

ยกตัวอย่าง เยอรมนีเริ่มต้นด้วยการส่งหมวกทหารให้ยูเครน จากนั้นเป็นจรวดประทับบ่า ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้ ต่อมาให้รถถังประจัญบาน Leopard

การส่งมอบอาวุธกลายเป็นเรื่องเป็นราวในหมู่นาโตด้วยกัน เช่น รัฐบาลสหรัฐกับเยอรมนีเกี่ยงกันเรื่องส่งรถถังประจัญบานของตนเข้าสู่สนามรบ ฝ่ายสหรัฐพยายามกดดันให้เยอรมนีส่งรถถัง Leopard แก่ยูเครน แต่กลับไม่ยอมส่งรถถัง M1 Abrams ของตนให้ยูเครน Robert Habeck รองนายกฯ เยอรมันกล่าวว่า “ถ้าอเมริกาตัดสินใจส่งรถถังประจัญบานแก่ยูเครนจะช่วยให้เยอรมนีตัดสินใจง่ายขึ้น” พูดง่ายๆ คือถ้าส่งของเยอรมันก็ต้องส่งของสหรัฐด้วย

การที่นาโตส่งมอบอาวุธแก่ยูเครนต่อเนื่องไม่ช่วยให้ยูเครนรบชนะเพราะส่งกะปริดกะปรอย ให้ทีละอย่างสองอย่าง ให้ทีละน้อยไม่เต็มที่ เทียบกับรัสเซียที่มาพร้อมกันทั้ง 4 เหล่าทัพ แต่สงคราม 2 ปีครึ่งพิสูจน์แล้ว การสนับสนุนของนาโตช่วยให้การรบยืดเยื้อ เป็นหลักฐานชี้ว่ารัฐบาลตะวันตกต้องการทำสงครามต่อไป ยกย่องรัฐบาลเซเลนสกีเป็นฮีโร่ช่วยปกป้องประชาธิปไตยของชาติตะวันตก

น่าสงสารทหารยูเครน เสี่ยงชีวิตปกป้องประชาธิปไตยโลกเสรีด้วยอาวุธเก่าล้าสมัย

ต้องเสริมทัพยูเครนตอนนี้:

ตอนนี้เป็นจังหวะดีที่สุดหากจะให้ยูเครนชนะรัสเซียหรือทำลายรัสเซียอย่างกว้างขวาง เป็นช่วงที่กองทัพรัสเซียปั่นป่วน ขวัญกำลังใจหดหาย ตรงข้ามกับทัพยูเครนกำลังฮึกเหิม หากนาโตไม่ฉวยโอกาสนี้ ปล่อยให้ “ชัยชนะ” หลุดลอยไป อาจเป็นอีกหลักฐานชี้ว่าแท้จริงแล้วรัฐบาลสหรัฐกับพวกไม่คิดให้เซเลนสกีชนะศึกนี้

และหากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ทรัมป์พูดชัดว่าจะยอมสงบศึกกับรัสเซียง่ายๆ น่าคิดว่าทรัมป์กำลังทำร้ายประชาธิปไตยยุโรปหรือไม่

ย้อนหลังมิถุนายน 2023 ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี (Volodymyr Zelenskiy) กล่าวว่า “รัสเซียรุกรานยูเครนคือการรุกรานกลุ่มประเทศยุโรปเสรีทั้งหมด กลุ่มชาติประชาธิปไตยต้องร่วมมือหาทางออกว่าทำอย่างไรจึงจะรับมือการรุกรานจากพวกอำนาจนิยม

แนวคิดความโหดร้ายของกองทัพรัสเซียจะบุกประเทศอื่นยึดครองยุโรปสร้างจักรวรรดิของตน ปรากฏอยู่ในสื่อตะวันตกเป็นระยะ ทั้งหมดทั้งปวงส่งเสริมฝ่ายประชาธิปไตย ต่อต้านอำนาจนิยมรัสเซีย

ลอยด์ ออสติน (Lloyd Austin) รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเคยเตือนว่า ถ้ายูเครนแพ้ฝ่ายอำนาจนิยมจะฮึกเหิม เพราะฝ่ายประชาธิปไตยเลิกสนับสนุนยูเครน

ท้ายที่สุด ประวัติศาสตร์จะบันทึกว่าการเสียสละของยูเครนหลายนับสิบล้านคนเสียเปล่าหรือไม่ ยิ่งรบยิ่งพัง ทิ้งไว้คือซากปรักหักพังยูเครน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เส้นทางสายไหมตะวันออกแห่งศตวรรษที่21

BRI จะเป็นแค่การพัฒนาร่วมหรือเป็นยุทธศาสตร์ครองโลกของจีนเป็นที่ถกแถลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนานาชาติเฝ้าติดตาม จริงหรือเท็จกาลเวลาจะให้คำตอบ

ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู2024 (2)

เนทันยาฮูย้ำว่า อิสราเอลหวังอยู่ร่วมกับนานาชาติโดยสันติ แต่กระแสโลกต่อต้านอิสราเอลส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของอิสราเอล นโยบายกับความจริงจึงย้อนแย้ง

เลือกตั้งสหรัฐ2024เลือกสังคมนิยมหรือฟาสซิสต์

ทรัมป์ชี้ว่าแฮร์ริสเป็นพวกสังคมนิยม ส่วนแฮร์ริสชี้ว่าทรัมป์เป็นเผด็จการ สหรัฐกำลังเข้าสู่การเลือกระหว่าง “สังคมนิยม” กับ “ฟาสซิสต์”

ทรัมป์คุกคามโลกเสรีประชาธิปไตย?

การที่ทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อรัสเซีย จีน อาจไม่ปกป้องสมาชิกนาโต ชวนให้ตั้งคำถามว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามโลกเสรีประชาธิปไตยหรือไม่