"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.

นี่ก็ตกเข้ามา ๑๔ ตุลา.....
    ผมยังไม่ได้ออกการ์ดเชิญประจำปีผ่านตรงนี้ให้แฟนๆ ไทยโพสต์ได้ทราบเลยว่า
    วันพฤหัสบดี ที่ ๒๑ ตุลา.ที่จะถึง 
    คืออีก ๗ วัน นับจากวันนี้ เป็นวันครบรอบปีที่ ๒๕ ขึ้นปีที่ ๒๖ ของหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์!
    ไม่มีงาน-มีการอะไรทั้งนั้น แต่อยากมา อย่างที่เคยมาทุกปี ก็ด้วยยินดี ท่านอย่าลังเล รีบมาเลยครับ
    ความจริง ตลอด ๒๕ ปี....
    ไทยโพสต์ก็ไม่เคยจัดงาน-จัดการอะไร ซักที มีอย่างเดียว มาเลือกข้าว-เลือกปลา หาขนมกินกัน ตอนเที่ยงๆ  
    อิ่มแล้ว ก็หยิบ "มาดามเฮง" ติดมือกลับไปอย่างที่เคยทุกปี เท่านั้น จบกัน คืองานไทยโพสต์!
    ๒๑ ตุลา.ปีนี้ ก็เช่นนั้น 
    มาเห็นหน้ากัน มายืนวัดศอกแล้วหาอะไรกิน ตามเท่าที่จะมีให้กิน อิ่ม-ไม่อิ่ม นิ่งไว้ ห้ามบ่น 

ถ้ามา โปรดอย่านำกระเช้าดอกไม้หรืออะไรๆ มามอบเลยครับ นี่ขอกราบเรียนตรงๆ 
    เพราะเสร็จจากงานครบรอบวันเกิดแล้ว ไทยโพสต์ก็จะเข้าขั้นตอน ย้ายสถานที่จากคลองเตย ไปสำนักงานแห่งใหม่
    ขณะนี้ ก่อสร้างใกล้เสร็จ 
    ก็ไปคนละทิศเลย จากคลองเตย-ทิศใต้ ไปประชาชื่น-ทิศเหนือ ถนนเลียบคลองประปา เกือบถึง ๔ แยกพงษ์เพชร โน่น
    หมายความว่า ๒๑ ตุลา.นี้....
    ทั้งครบรอบปีที่ ๒๕ ทั้งวันอำลาสถานที่ ได้กินข้าวด้วยกัน ณ สุดซอยไทยโพสต์ เป็น "ปีสุดท้าย"
    ปีหน้า ๒๕๖๕ สู่ยุคดิสรัปต์ ก็ต้องไปกิน-ไปเจอกัน ที่สถานที่ใหม่ ใหม่ทั้งสำนักงาน ใหม่ทั้งงานสื่อสารแตกขยายเพิ่ม
    จาก "สื่อกระดาษ" และเว็บไซต์ "สื่ออินเทอร์เน็ต" ไปอีกขั้นในระดับ "ดิสรัปต์" แบบกระจุ๋ม-กระจิ๋ม
    มันคืออะไร-แบบไหน ถึงเวลารู้เอง อย่าจุกจิก!
    ประเทศไทย มี "ด่านเจดีย์ ๓ องค์" เป็นสัญลักษณ์เขตแดนประสิทธิภาพแห่งอำนาจประเทศในประวัติศาสตร์
    ที่กรุงศรีอยุธยา มี "ค่ายโพธิ์ ๓ ต้น"
    ตอนกู้กรุง กองทัพ "พระเจ้าตากสิน" บุกค่ายโพธิ์สามต้นเข้าไปบั่นหัวสุกี้แม่ทัพพม่า ที่บังอาจหาญกำแหง เมื่อพฤศจิกา. ๒๓๑๐
    สร้างกรุงธนบุรี "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ทรงนำอิฐค่ายโพธิ์สามต้นมาทำเป็นกำแพงเมือง ที่ถนนอิสรภาพทุกวันนี้ ยังเรียก "ค่ายโพธิ์ ๓ ต้น" อยู่
    อาณาจักรใหม่ "ไทยโพสต์" เนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ แถม "ไฟแรงสูง" ที่จะไปกัน
    ตรงนั้น ไพศาลเป็นร่มเงาแผ่กว้าง ด้วย "โพธิ์ ๓ ต้น" โดดเด่นเห็นตระหง่านอยู่ เหมือนบอกว่า การมาทำหน้าที่สื่อตรงนี้ของไทยโพสต์
    ต้องทำให้เป็นดัง ชื่อ คือ THAI POST!
    ฉะนั้น ท่านที่จะมา...
    เปลี่ยนทุกอย่างที่จะนำติดมือมาเป็น พวงมาลัยดอกมะลิสัก ๕ พวง เท่านั้นพอ
    เพราะ ๒๑ ตุลา.บรรจบด้วยมงคลฤกษ์หลายประการ
    นอกจากวันครบรอบ ๒๕ ปี ไทยโพสต์แล้ว ยังตรงกับวันพระใหญ่ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ 
    ตรงวัน "ออกพรรษา" พอดี
    และวันที่ ๒๑ ตุลา. ผมจับยามสามตาแล้ว เป็นวันโควิดระบาด "อำลาจากประเทศไทย"!
    ปกติงานมงคลต้องมีพระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ แต่อยู่ในช่วงมาตรการคุมโควิด ถ้านิมนต์พระมาเจริญพระพุทธมนต์ อาจเกิดเหตุให้โทษกันภายหลังได้ว่า
    โยมนำมาติดอาตมา หรืออาตมานำมาติดโยม มันก็จะยุ่ง ที่จะเป็นมงคลใส่หัว กลายเป็นต้องกักตัวในห้องความดันลบ 
    ฉะนั้น ผมจึงเปลี่ยนรูปแบบพิธีสงฆ์เป็น
    พุทธมนต์แบบ New Normal!
    พอดี ตอนต้นปี ศิลปินแห่งชาติ สาขาสถาปัตยกรรมท่านหนึ่ง มอบพระคันธารราฐ ให้องค์หนึ่ง 
    มิใช่ของเก่ายุคคันธารราฐ ซึ่งตอนนี้ที่เป็นดินแดนอยู่ในปากีสถานหรอก 
    หากแต่เป็นประติมากรรมด้วยฝีมือประติมากร "อภิชัย สีด้วง" รังสรรค์ขึ้นเพียง ๕๙ องค์ ผิดแผกจากพุทธศิลป์อย่างที่เห็นทั่วไป
    เขาออกแบบ มวยผมถอดได้ด้วย ด้านในมีหลอดแก้วสำหรับใส่พระบรมสารีริกธาตุ
    ผมก็จะนำมาตั้งให้แต่ละท่านที่มาได้ถวายพวงมาลัยก่อนที่ผมจะอาราธนาไปที่สำนักงานใหม่ด้วย 
    พร้อมพระพุทธรูปเล็กใหญ่ อีกหลายร้อยองค์ ล้วนแล้วแต่มีผู้นำมามอบให้ทั้งสิ้น ผมก็บูชาไว้ที่ไทยโพสต์ตลอด
    นอกจากพระคันธารราฐแล้ว 
    มีรูปหล่อ "หลวงพ่อทวด" อีก ๑ องค์ จำได้ว่า องค์นี้ มีมูลค่า ๓ ล้านบาท
    เป็นผลพวงจากเงินผู้อ่านไทยโพสต์มอบให้ผมไปถวายวัดช้างให้ ที่ปัตตานี เมื่อร่วม ๒๐ ปี โน่นแหละ
    คือตอนนั้น ผู้ก่อการร้าย ๓ จังหวัดใต้รุนแรงมาก บุกฆ่าพระถึงในวัด ผมก็ลงไปดู 
    มีโอกาสพบท่านย่วน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ ท่านปรารภว่า 
    ที่วัด เป็นทั้งสำนักสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์สำหรับเด็กๆ รอบพื้นที่ เป็นทั้งสำนักเรียนธรรมและบาลีธรรมพระ-เณรในภาคใต้ มีจำนวนเฉียดร้อยรูป
    เมื่อโจรก่อการร้ายคุกคาม ชาวบ้านเดือดร้อนแล้ว พระ-เณร และเด็กๆ ที่มาเรียน ก็พลอยเดือดร้อน ด้านอาหาร การเดินทาง และอุปกรณ์การเรียน-การสอนไปด้วย
    ผมขอเงินท่านผู้อ่านไทยโพสต์ ท่านก็ส่งเงินมาให้ผม โดยไม่เรียกร้องให้ผมต้องเคาะหัวตุ๊กตุ่น-ตุ๊กตาหน้าจอเป็นตลกแลกเปลี่ยน
    ๒ รอบ รอบแรก ได้ไปล้านกว่ามั้่ง ก็นิมนต์พระจาก ๓ จังหวัดใต้มารวมกันที่วัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปะนาเระ ๒๑ วัด แบ่งถวายไปวัดละ ๕ หมื่น 
    ส่วนวัดพรหมประสิทธิ์ น่าจะมากกว่า ๑ แสน ที่วัดนี้ โจรบุกเข้ามาเอาน้่ำมันราดกุฏิ เผาทั้งวัด-ทั้งพระมรณภาพไป ๒ รูป
    รอบที่ ๒ หลังฟังปรารภท่านย่วน ได้ไปประมาณ ๓ ล้านบาท ก็นำไปถวายให้ท่านที่วัดทั้งหมด 
    แต่เจียดถวายพระที่มาสวดอนุโมทนาไปบ้างนิดหน่อย องค์ละเท่าไหร่ จำไม่ได้แล้ว มีใบอนุโมทนาอยู่พร้อม
    ท่านย่วน เจ้าอาวาส ก็เลยมอบหลวงพ่อทวดให้ ๑ องค์ อยู่ในห้องทำงานผมตลอดมา 
    มาทำงานก็กราบ กลับบ้านกราบ นี่ก็จะให้ท่านถวายพวงมาลัย ในวันที่ ๒๑ ตุลา.ด้วย
    ยังมีรูปหล่อ "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ที่คุณบุญเนตรเจ้าของโรงแรมมณเฑียร มอบให้นานแล้ว 
    และ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" จำได้ว่าพี่หมอเดชา สุขารมณ์ มอบให้ตอนเปิดไทยโพสต์ใหม่ๆ 
    ก็ให้ท่านถวายพวงมาลัยเป็นราชสักการะด้วย
    ทั้งหมดนี้ จะอัญเชิญไปสำนักงานใหม่พร้อมด้วยกันทั้งหมด เฉพาะพระ ผมว่าไม่ต่้ำกว่า ๓๐๐ องค์ 
    จึงถือโอกาส ๒๑ ตุลา.วันออกพรรษา วันไทยบ๊ายบายโควิด และวันครบรอบปีที่ ๒๕ ขึ้นปีที่ ๒๖ ไทยโพสต์ 
    ได้น้อมนำสิ่งเคารพบูชาสูงสุดเหล่านี้ เป็นองค์พุทธมนต์แห่งพุทธานุภาพ และแห่งพระบรมเดชานุภาพ 
    เป็นการเจริญพระพุทธมนต์ สไตล์ New Normal ส่งท้ายโควิดนั่นแหละ
    ครับ....
    ก็คุยซะยืดยาว ผมก็เงี้ย ชอบเลื้อยไปเรื่อย เลื้อยจนหมดเนื้อที่ เอาเป็นว่า 
    วันนี้ เป็นวันส่งการ์ดเชิญแขก วันครบรอบปีที่ ๒๕ ขึ้นปีที่ ๒๖ ไทยโพสต์ ก็แล้วกัน
    และเป็นการอำลาสถานที่เก่าในปีนี้ แล้วปีหน้า ๖๕ ไปเจอกันเหมือนเดิม แต่สถานที่ใหม่
    เป็น "ไทยโพสต์" ที่คนรุ่นใหม่จะเข้ามา "ดิสรัปต์"
    สำหรับผม...
    "มันจบยุคแล้วนาย"!

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'Grab rider ต้วง'

ดู "นาฬิกากรรม" แล้ว ก็อยากบอกว่า.... ช่วงนี้ ใครมีธุระอะไร ก็ไปทำซะให้เสร็จ ยังพอมีเวลา

ไทย 'กะล่อนทอง'

ช่วย "คิด-วิเคราะห์" กันดูซักนิดซิว่า..... ทำไมชายแดนด้าน "ไทย-พม่า" จึงเกิดกรณียั่วยุขึ้นไล่เลี่ยกันถึง ๒ จุด

ไหนล่ะ "เกียรติ-ศักดิ์ศรี"?

ต้องบอกกันตรงๆ ว่า.... "ด้านในประเทศ" "รัฐบาลเพื่อไทย" ประชาชน "ไม่มีกิน-ไม่มีใช้" มีแต่หนี้ที่รัฐบาลสร้างให้ "บนความเหลื่อมล้ำ"