ไพร่พลอนุรักษ์นิยม

เป็นเรื่องจริงที่ว่า...

หากนักการเมืองถอดหัวโขนการเมือง แล้วมายืนดูการเมืองอยู่ข้างนอก  ภาพที่มองจะคล้ายๆภาพที่ประชาชนทั่วๆไปมอง

วานนี้ (๑๓ สิงหาคม)  "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" อดีตส.ส.ตรัง ๗ สมัย พรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ไม่มีค่าย เพราะลาออกจากสมาชิกพรรค ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว หลังพรรคเปลี่ยนโครงสร้างพรรคใหม่ที่ดูแล้ว ไปด้วยกันไม่ได้

"สาทิตย์" มองการเมืองได้ทะลุ

ทะลุจนดูน่ากลัว

"...ผมมองว่าการเมืองไทยยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเลยในขณะนี้ เพราะยังเป็นการเมืองที่มันสมยอมกัน เป็นการเมืองสมยอมประโยชน์กัน

แล้วทุกอย่างการเมืองตอนนี้ มันเดินมาเหมือนมันมีพลอตเรื่องไว้ล่วงหน้า

เอาว่าความเชื่อของหลายคนมันโยงกับดิวตั้งแต่มาก่อนเลือกตั้ง ไม่อย่างนั้นความอนุรักษ์นิยมไม่มีทางยอมจำนนกับระบอบทักษิณได้ เหมือนกับหักหลังมวลชนทั้งสองฝ่าย หักหลังมวลชนฝ่ายเสื้อเหลือง กปปส. ซึ่งต่อสู้กับระบอบทักษิณ

และเหมือนกับคนในระบอบทักษิณหักหลังระบอบมวลชนเสื้อแดงอีกที เพราะไปจับมือกับอนุรักษ์นิยม แล้วก็ภายในพรรคการเมืองด้วยกันเองก็หักหลังกันอยู่

เราเห็นตัวอย่างอย่างพรรคเพื่อไทย หมอชลน่าน หัวหน้าพรรคกระเด็นไม่เหลือเค้าไม่เหลือรูปเลย เพราะฉะนั้นเมื่อมันเดินมาถึงจุดหนึ่ง เหมือนไปตามพลอตก็คือมีการยุบพรรคกับก้าวไกล อย่างหลายคนพูด ซึ่งมันเหมือนทำให้ฝ่ายค้ายมันอ่อนแอลง..."

ใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ถือว่าไม่ธรรมดาเอามากๆ

ประเด็นแรก ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมจำนนกับระบอบทักษิณ

ภาพที่เราเห็นพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย คือการกลืนเลือดครั้งใหญ่ของการเมืองไทย

แต่ใช่ภาพจริงหรือไม่?

เพราะหากย้อนกลับไปช่วงรัฐบาลลุงตู่ ใครที่มาพูดเรื่องนี้ ต้องถูกหัวเราะใส่หน้า หาว่าเพ้อเจ้อ พูดในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

แต่ให้หลังไม่นาน มันเกิดขึ้นแล้ว

มีแต่ความเงียบ น้ำท่วมปาก พูดอะไรกันไม่ออก

บางคนถึงกับสิ้นศรัทธาต่อกลุ่มอนุรักษ์นิยม

การต่อสู้กับระบอบทักษิณสำหรับบางคน มันยาวนาน และหยั่งรากลึก จนไม่มีพื้นที่เหลือให้ยอมรับ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม

กลุ่มนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยนะครับ

บางคนกลืนเลือดอยู่เฉยๆ

บางส่วนย้ายค่าย

การตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาก็อย่างที่ทราบกัน  มีเงื่อนไขสำคัญที่ต้องทำให้เลือก

ไม่เลือกไม่ได้

เพราะผลของการเลือกกับไม่เลือกมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ประวิติศาสตร์การตั้งรัฐบาล ไม่เคยมีเงื่อนไข ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เข้ามาเป็นตัวกำหนดมาก่อน

ภาวะการเมือง ๓ ก๊ก การตัดสินใจจึงไม่ง่าย

ก๊กระบอบทักษิณ

ก๊กอนุรักษ์นิยม

ก๊กล้มเจ้า

นี่คือความจริงของการเมืองไทยในพ.ศ.นี้

การตัดสินใจทางการเมืองจึงไม่ต่างการตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต

แต่ประเด็นอยู่ที่ว่าใครเป็นผู้คุมเกม

และคุมได้เบ็ตเสร็จเด็ดขาดหรือไม่

ฝ่ายอนุรักษ์นิยมคุมเกม หรือระบอบทักษิณคุมเกม

ถ้าตีโจทย์นี้แตก ความคิด ความรู้สึกอาจเปลี่ยน  หรืออาจเตลิด จนกู่ไม่กลับ ก็เป็นได้

"ยืมมือศัตรู เพื่อทำลายศัตรู" ฉากหนึ่งในสามก๊ก สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนและซับซ้อนของการเมืองภายในวุยก๊กอยู่เหตุการณ์หนึ่ง

"สุมาเจียว" สามารถรักษาอำนาจและควบคุมสถานการณ์ได้ โดยไม่ต้องใช้กำลัง หรือการลงโทษ

แสดงให้ถึงความเฉียบแหลมในการวางแผน ใช้กลยุทธ์ ในการจัดการกับความขัดแย้ง สับสนวุ่นวายที่เกิดขึ้น

ความระแวงที่ "สุมาเจียว" มีต่อ "จงโฮย" และ "เตงงาย" จนถึงจุดที่เขาต้องใช้กลยุทธ์ “ยืมมือศัตรู” เพื่อกำจัดทั้งสองคน เป็นตัวอย่างของการใช้ปัญญาและกลยุทธ์ในการรักษาอำนาจ และควบคุมสถานการณ์

ใครคือ "สุมาเจียว"?

ประเด็นถัดมา "สาทิตย์" พูดถึงการยุบพรรคก้าวไกล คือพลอตที่ทำให้พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอลง โยงดีลตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง

ก็อย่างที่บอกครับ ใครก็ตามที่คุมเกมนี้ ไม่ธรรมดา!

พรรคก้าวไกลถูกยุบเพราะ แก้ม.๑๑๒ มีเนื้่อหา เซาะกร่อน บ่อนทำลาย สถาบันพระมหากษัตริย์

มองกลับกัน หากพรรคก้าวไกลไม่มีนโยบายนี้ตั้งแต่ต้น

วันนี้นายกรัฐมนตรี จะชื่อ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"

ระบอบทักษิณจะร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล

ฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งหมด จะเป็นฝ่ายค้าน

"อนุทิน ชาญวีรกูล" ไม่ใช่มท.๑ แต่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

แต่พรรคก้าวไกลถูกยุบ ในสถานการณ์ที่คนคุมเกมไม่สามารถคุมได้เบ็จเสร็จเด็ดขาด ตรงนี้คือจุดชี้เป็นชี้ตาย เพราะสงครามยุคใหม่ไม่ได้ใช้ช้างใช้ม้าแล้ว

แต่ใช้โซเชียล

โซเชียลคือสิ่งที่ยากต่อการรับมือ!

เรื่องเท็จ ความจริงครึ่งเดียว กับเรื่องเสรีภาพ ในโซเชียลคือเรื่องเดียวกัน

ทุกประเทศในโลกล้วนมีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพราะโซเชียลทั้งสิ้น

เช่น อังกฤษกำลังจะเกิดสงครามกลางเมือง

โอกาสที่พรรคประชาชนจะโตไปเรื่อยๆ เพราะฆ่าไม่ตายนั้นมีอยู่มากทีเดียว

เลือกตั้งครั้งหน้า อาจชนะถล่มทลายเป็นรัฐบาลพรรคเดียว

วันนั้นจะเป็นการนับหนึ่งของการขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดอย่างแท้จริง

แต่วันนี้ (๑๔ สิงหาคม) นายกฯเศรษฐา จะได้ไปต่อหรือไม่ ความเป็น ๓ ก๊กการเมืองไทย จะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ประเด็นนี้จึงไม่ใช่เหตุที่ผู้คุมเกมให้ความสำคัญนัก

แต่ประเด็นที่ต้องคิดหนักคือ ยืมมือศัตรูแต่มีแนวโน้มฆ่าศัตรูไม่ตาย  แถมยังก่อปัญหามุมกลับเพิ่มขึ้นอีกมากมาย

เช่นปัญหาเศรษฐกิจแก้ไม่ได้ ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงความสามารถของรัฐบาล

การที่ระบอบทักษิณไร้ประสิทธิภาพ ในทางหนึ่งจะเป็นส่งเสริมให้พรรคประชาชนโตขึ้น

ฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้แต่นั่งมองตาปริบๆ

ที่จริงการเมือง ๓ ก๊กนี้ฝ่ายที่มีไพร่พลมากที่สุด ไม่ใช่ก๊กระบอบทักษิณ หรือก๊กล้มเจ้า

แต่เป็นก๊กอนุรักษ์นิยม

ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา มีส.ส.รวมกว่า ๑๘๐ เสียงนะครับ

พรรคก้าวไกลที่ถูกยุบมีจำนวนส.ส. ๑๔๘ คน จะย้ายไปพรรคประชาชนทั้งหมดหรือไม่ ยังเป็นคำถาม

ส่วนพรรคเพื่อไทยมี ส.ส. ๑๔๑ ที่นั่ง

"สุมาเจียว" ดีดลูกคิดแล้ว เห็นช่องให้พลิกเกม

อยู่ที่จะหยิบใครไปใส่ตรงไหน

ดูการเลือกสว.ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่าง

พลิกนรก เพราะมีคนตีโจทย์แตก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยังไม่ลดเพดาน

เชื่อมจิตกันไปเรียบร้อยครับ จากพรรคอนาคตใหม่ เป็นพรรคก้าวไกล วันนี้เป็น "พรรคประชาชน"