ความจริงวันนี้ผมอยากจะเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับคดี Google เพราะเป็นเรื่องที่ผมเคยเขียนเกริ่นไปแล้ว ผมเขียนว่าเป็นเรื่องน่าจับตามองที่รัฐบาลอเมริกันยอมปะทะและสู้รบกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ดูเหมือนใช้วิธีผูกขาดในการครองตลาด และในที่สุดศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีการผูกขาดในการครองตลาดจริง เอาไว้สัปดาห์หน้าและสัปดาห์ถัดไป ผมจะเขียนเรื่องนี้อีกรอบหนึ่ง ทั้งที่มาและผลของการตัดสินในครั้งนี้ครับ
แต่วันนี้ผมต้องเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับโอลิมปิก เพราะถ้าไม่เขียนวันนี้ ผมต้องรออีก 4 ปีกว่าจะเขียนอีกที และช่วงนี้พวกเรายังอยู่ในกระแสและอารมณ์การดูกีฬาหลายประเภทที่เราไม่เคยคิดจะดู
ผมบอกเลยว่า โอลิมปิกรอบที่แล้ว (Tokyo 2021) เป็นการแข่งขันที่หดหู่มาก ผมเห็นใจเจ้าภาพอย่างมาก เพราะเขาลงทุน ลงแรง และตั้งใจจัด ตามประสิทธิภาพและตามความสามารถ แต่ใครจะไปรู้ว่าโลกจะหยุดหมุนชั่วคราว? อย่าลืมว่าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โควิดปรากฏตัวครั้งแรก ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ทำให้โลกสงบและหยุดนิ่ง ออกจากบ้านก็ลำบาก ไปไหนก็ไม่ได้ ถ้าจะออกไปต้องมีเหตุผล และช่วงแรกๆ เหมือนจะต้องขออนุญาต เป็นโลกที่น่ากลัว และเหมือนเป็นยุคในอดีตร้อยกว่าปีที่แล้ว
ความจริงโอลิมปิกรอบที่แล้วจะต้องตรงกับปี 2020 แต่เพราะโควิดถึงต้องเลื่อนออกไป ซึ่งควรเป็นโอกาสในการดูการแข่งขันที่บ้านแบบสนุก เพราะเราไปไหนกันไม่ได้ แต่กลายเป็นว่าเป็นการแข่งขันที่ดูเงียบเหงา เหมือนดูคนฝึกซ้อมมากกว่าแข่งจริง ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดอะไรของเจ้าภาพ เพราะเขาทำดีที่สุดแล้ว แต่สถานการณ์บีบบังคับให้เป็นเช่นนั้น ผมจำได้ว่าที่บ้านเรานั่งดูกัน แต่ดูไม่เร้าใจ เพราะมีแต่ที่นั่งว่างเปล่า มีแต่นักกีฬาแข่ง เลยไม่อินขนาดนั้น
แต่สำหรับ Paris 2024 บ่นเวลาเปลี่ยน โลกเปลี่ยนครับ
ครั้งนี้ผมพร้อมให้ลูกดูเต็มที่ และพร้อมให้เขาซึมซับความยิ่งใหญ่ของการแข่งขันระดับโลก เพราะผมถือว่าการดูโอลิมปิกมันสนุกจริงๆ และสิ่งที่แปลกคือ เราสามารถนั่งดูกีฬาหลายประเภทที่ไม่มีวันจะนั่งดูถ้าไม่ใช่โอลิมปิก เช่น โปโลน้ำ
ผมบอกเลยว่า ถ้ามีใครชวนผมดูโปโลน้ำในยามปกติ นอกจากจะปฏิเสธเขาแล้ว ผมจะด่าด้วยซ้ำ!!! ไม่ใช่ว่าผมจะหมิ่นประมาทหรือต่อว่านักกีฬาโปโลน้ำ แต่ผมไม่มีความสนใจใดๆ ที่จะดู แต่พอเป็นโอลิมปิกปุ๊บ มันส์ขึ้นมาทันที
ผมไม่เคยลึกซึ้งว่านักกีฬาโปโลน้ำจะต้องอยู่ในน้ำที่ลึกมาก ผมเข้าใจตลอดว่า ถึงแม้น้ำไม่ตื้น แต่มันก็คงจะตื้นพอให้เท้านักกีฬาโปโลน้ำถึงพื้นได้เป็นระยะๆ ผมไม่เคยรู้ว่ามันลึกจนมองพื้นไม่เห็น ลึกจนน้ำเปลี่ยนสี เพียงเรื่องน้ำลึกอย่างเดียวไม่พอ แต่นักกีฬาโปโลน้ำทุกคนจะต้องทั้งว่ายน้ำไปกลับเหมือนแข่งฟุตบอล (หรือแฮนด์บอล) ในน้ำ ซึ่งมีทั้งเลี้ยงลูก แย่งลูก ยิงลูก และต้องกันไม่ให้อีกฝ่ายยิงลูกได้ เพียงอยู่บนบกก็เหนื่อยอยู่แล้วครับ แต่นี่อยู่ในน้ำ ยังต้องว่ายน้ำ และยังต้องออกแรงลอยตัวอีกต่างหาก เป็นกีฬาที่มันส์มากครับ แต่ขอโทษ…. มันเฉพาะช่วงโอลิมปิก
เช่นเดียวกับการยิงธนู ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเป้าห่างจากจุดยิงเหมือนอยู่คนละอำเภอ เมื่อก่อนเวลานึกถึงกีฬายิงธนู ผมนึกถึงแต่โรบินฮูด ยืนไม่ห่างจากเป้าเท่าไหร่นัก และยิงธนูเป็นเส้นตรง ใครจะไปรู้ว่าระยะมันห่างขนาดนั้น จึงทำให้นักยิงธนูต้องเล็งตัวธนูขึ้นฟ้า เผื่อลม เผื่อระยะ ดูไปดูมาเป็นกีฬาที่สนุกกว่าที่คิด แถมสำหรับโอลิมปิกครั้งนี้ เขาเลือกสถานที่แข่งยิงธนูได้งดงามมาก เลยทำให้ดูเป็นการแข่งขันที่อลังการไปในตัว…. แต่ถ้าไม่ใช่โอลิมปิกผมก็ไม่ดูครับ
เนื่องจากลูกสาวเรียนและชอบยิมนาสติก ผมอยากให้เขาดู แต่บังเอิญเวลาของเราไม่ลงตัวสักที จนกระทั่งแข่ง Vault (ผมไม่รู้ภาษาไทยเรียกอะไร) ถึงมีโอกาสได้นั่งดูกัน แถมยังเป็นรอบชิงชนะเลิศ และมี Simone Biles ชิงด้วยเลยยิ่งอยากดู เพราะผมเล่าประวัติและเรื่องราวของ Biles ให้ลูกสาวฟัง และสิ่งที่เข้าทึ่งคือ ตัวเขากับ Biles เกือบสูงเท่าๆ กัน
พอจะเริ่มแข่งขัน มันใกล้เวลานอนของลูก ผมเลยลังเลว่าควรจะบังคับให้เขาดูตำนานอย่าง Biles แข่งสดๆ หรือให้เข้านอน เขาเองฝืนความง่วงเพื่อมาดู เลยนั่งดูสักพักหนึ่ง ดูจนหลับคาที่ ผมเลยต้องอุ้มเข้านอน จากนั้นผมตั้งใจจะดู Biles สดๆ สักที แต่บังเอิญเริ่มปวดท้อง เลยตั้งใจรีบเข้าห้องน้ำถ่ายทุกข์ (ไม่นาน) และออกมาดูต่อ
แต่ใครจะไปรู้ว่าระหว่างที่ผมถ่ายทุกข์นั้น เป็นช่วง Biles แข่งพอดี ถ้าแฟนคอลัมน์อยากรู้ว่าผมอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไร ไม่ยากครับ เป็นช่วงเวลาที่ Biles แข่งพอดีเป๊ะ ผมเข้าไปยังไม่มีวี่แววว่าเป็นคิวของเขา ผมออกมา…เขานำทุกคนแล้ว
สุดท้ายกีฬาที่ทั้งลูกชายและลูกสาวสนุก และถือว่าเปิดหูเปิดตาคือแบดมินตันครับ
ย้อนกลับไปช่วงที่ผมอยู่อินโดฯ เวลาว่างผมจะนั่งคุยกับทีมงานสารพัดเรื่อง เรื่องหนึ่งที่จะคุยคือชีวิตประจำวัน คนอินโดฯ เปรียบเทียบกับคนไทย ผมบอกว่าคนไทยเราทุกคนเก่งตีแบด เป็นกีฬาที่เล่นกันเกือบทุกบ้าน เกือบทุกวัย และไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬาจ๋า ถึงจะเล่นได้ คนกลมเล่นได้ คนผอมแห้งเล่นได้ คนสูงเล่นได้ คนเตี้ยเล่นได้ คนไทยเราทุกคนเล่นได้แล้วเล่นเป็นประจำ แต่ที่เราเล่น เราเล่นแบบไม่มี Net เราเล่นในลานจอดรถ เราเล่นกลางซอย มีที่ตรงไหนเราเล่นได้หมด เพราะเราไม่มี Net
และพอไม่มี Net นั้น เราเล่นแบบไหนก็ได้ เพราะการเล่นแบดแบบไทยๆ เรา ไม่มีการตบและไม่มีการโยก มีแต่ตีขึ้นสูงและไกล สิ่งแรกที่เพื่อนร่วมงานอินโดฯ พูดกับผมคือ “You guys play like that too?” เลยหัวเราะกันใหญ่
แบดมินตันครั้งนี้ทำให้ลูกผมตะลึง เพราะเขาไม่เคยรู้ว่าการตีแบดแบบจริงจังต้องมี Net ด้วย ลูกชายผมพูดคำคำนึงที่ทำให้ผมประทับใจในการดูโอลิมปิกครั้งนี้ หลังจากดูแบดเสร็จ เขาพูดว่า “ทำให้อยากเล่นเลย” แค่นี้ถือว่าสุดคุ้มแล้วครับ ผมเลยมีความใฝ่ฝันและตั้งใจว่า โอลิมปิกรอบต่อไปที่ LA ผมอยากจะพาเขาไปดูทั้งโอลิมปิกและถิ่นเก่าของผมด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'BRO!!!!!'
เกือบ 2 สัปดาห์กับผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไป เว้นบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมา พวกนี้ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่า
“ถ้าไม่เลือกเรา...เขามาแน่”...ทำให้เขาชนะขาดลอย
ผมไม่แน่ใจว่ากว่าแฟนคอลัมน์จะได้อ่านบทความนี้ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นมันแห้งเกินไปหรือเปล่า เพราะกว่าจะถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ เรื่องนี้อาจจะเก่าไปแล้วก็ได้
ผมจะไม่แปลกใจถ้าTrumpชนะ….แต่ผมจะแปลกใจถ้าHarrisแพ้
อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะได้รู้กันว่าใครจะเป็นผู้นำ “The Free World” ระหว่างอดีตประธานาธิบดี กับอดีตรองประธานาธิบดี
Thank you, Fernando
โค้งสุดท้ายในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐมาถึงแล้ว ผมขอประกาศตัวว่า ผมไม่ใช่นักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมาครับ บ้านเมืองเราเต็มไปด้วยนักวิเคราะห์ที่จะฟันธงและวิเคราะห์อย่างหนึ่ง….
28 ยังแจ๋ว!!!!
ผมขออนุญาตเขียนเรื่องเบาๆ อีกสักครั้งหนึ่งครับ ไม่เขียนวันนี้ผมไม่รู้จะเขียนตอนไหน และเอาเข้าจริงผมอยากพาแฟนๆ ทั้งหลายออกจากโลกข่าวดิไอคอนกรุ๊ปครับ
8ปีที่แล้ว….ที่ไม่มีวันลืม
ในชีวิตทุกคนมักจะมีอยู่ไม่กี่เหตุการณ์ที่ทำให้เราจำบรรยากาศ จำบริบท จำความรู้สึก และจำทุกรายละเอียด เมื่อเรารำลึกถึง หรือนึกถึงอีกที