มาแปลก!! ใช่ไหมคะ ..ชวนออกกำลังด้วยการเชียร์กีฬา
ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ แต่เป็นเรื่องจริง เพราะมีข้อพิสูจน์แล้วจากการใช้ "เครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ" พบว่า หัวใจของเราจะเต้นเร็วและแรงไม่น้อยหน้าการเดินหรือวิ่งเลย เมื่อคุณเชียร์กีฬาแบบออกรส และลุ้นอย่างตื่นเต้นสุดๆ ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
ช่วงเวลาที่เราเชียร์ "วิว" กุลวุฒิ ชิงเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในชีวิต และเหรียญแรกในประวัติศาสตร์กีฬาแบดมินตันไทย มันน่าจะอธิบายได้ชัดเจนว่า เราเองตื่นเต้น จดจ้องเวลาถ่ายทอดสดหน้าจอทีวีขนาดไหน และแต่ละลูกที่รับและตบ มันกระแทกหัวใจเราเพียงใด ทั้งๆ เราเป็นแค่คนเชียร์ ..จริงไหม
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า ทีวี NBC เห็นว่าการรายงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะไม่สมบูรณ์หากไม่มีภาพของสมาชิกครอบครัวที่วิตกกังวลขณะชมการแข่งขันบนอัฒจันทร์ แล้ว NBC ก็ได้เพิ่มความพิเศษขึ้นอีกขั้น ด้วยการให้ผู้ปกครองของนักกีฬาโอลิมปิกสวมเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและแสดงผลการแข่งขันทางทีวี
เฮนรี ริเวรา พ่อของนักยิมนาสติกชาวอเมริกัน สวมเครื่องตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ขณะดูลูกออกกำลังกายในท่าบาร์ต่างระดับในการแข่งขันรอบคัดเลือกประเภททีม เครื่องตรวจวัดแสดงให้เห็นว่าอัตราการเต้นของหัวใจของเขาอยู่ที่ 164 ครั้งต่อนาที (bpm) เมื่อลูกสาวเริ่มออกกำลังกาย แต่เมื่อดูต่อไป อัตราการเต้นของหัวใจของเขากลับพุ่งสูงถึง 181 ครั้งต่อนาที
เครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้รับการสนับสนุนโดย FIGS ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าทางการแพทย์ FIGS วางแผนที่จะสนับสนุนเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจต่อไปตลอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
แพทย์ด้านหัวใจกล่าวว่า ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงขึ้นในขณะที่ชมการแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการเชียร์คนที่ตนรัก ผลการอ่านค่าแสดงให้เห็นว่า “การชมการแข่งขันกีฬานั้นสร้างความเครียดและกระตุ้นอะดรีนาลินได้มากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นลูกของคุณที่กำลังแข่งขันอยู่” ดร.จิม หลิว แพทย์ด้านหัวใจจากศูนย์การแพทย์ Wexner ของมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต กล่าว
นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตว่าพ่อแม่ของนักกีฬาโอลิมปิกต้องเผชิญกับ “ความเครียดเพิ่มเติม” ซึ่งอาจส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นมากกว่าแฟนโอลิมปิกคนอื่นๆ
อ่านเหตุผลข้างต้นแล้ว มนุษย์ป้าเลยคิดว่า ช่วงนี้ฝนตกตลอด จะออกไปเดินหรือวิ่งออกกำลังก็ยากเหลือเกิน เราไปนั่งหน้าจอ เชียร์กีฬา ก็พอจะช่วยได้บ้าง ตราบเท่าที่เราไม่ตื่นเต้นจนหัวใจวายนะคะ ..อิอิ
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความปลอดภัย..ของนักท่องเที่ยว
เป็นเรื่องเป็นราวกันอีกแล้วว่า นักท่องเที่ยวจีนพากันบอกยกเลิกทริปเที่ยวไทย อันเนื่องมาจากข่าวใหญ่โต นายหวัง ซิง (Wang Xing) หรือ ซิงซิง (Xing Xing) นักแสดงชาวจีน วัย 31 ปี ถูกกลุ่มค้ามนุษย์หิ้วตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังประเทศเมียนมา โดยผ่านช่องทางบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา แถว อ.แม่สอด จ.ตาก
ละเลิก..หวังลมๆแล้งๆ
หมดไปอีกปีหนึ่งแล้ว คุณเคยลองทบทวนตรึกตรองหรือไม่ว่า ปีที่ผ่านไปนั้น สิ่งที่คุณเคยหวังและอยากให้เป็นนั้น มันสำเร็จสมอารมณ์หมายมากน้อยเพียงใด หรือมันยังคงย่้ำอยู่ในโหมด "ความหวัง" ต่อไป
คอนเทนต์...คนวัยตกกระ
เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่
ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่
กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน
เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล
ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย
เงิน..ก้อนสุดท้าย!!
สะท้อนสะเทือนใจจริงๆ นะคะ กับเรื่องราวข่าวสารว่าด้วย ..เงิน-เงิน-เงิน..ของคนวัยเกษียณที่มลายหายไป เพราะถูกเบี้ยวถูกโกง จากนักธุรกิจประเภทเล่นแร่แปรธาตุ รวมไปถึงบรรดาสแกมเมอร์ อีกทั้งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพทั้งหลาย