เมื่อคาซัคสถานลุกเป็นไฟ - ทหาร รัสเซียรุดมาร่วมปราบผู้ประท้วง

วิกฤตของคาซัคสถานถึงกับมีรัสเซียได้รับคำร้องขอให้ส่งทหารไปช่วยปราบปรามผู้ประท้วงต้องถือว่าเป็นประเด็นข่าวที่ร้อนแรงที่สุดข่าวหนึ่งในช่วงนี้

ทำให้เรารู้จักองค์กรที่ชื่อว่า Collective Security Treaty Organization (CSTO) ที่มีรัสเซียเป็นพี่เบิ้มที่เหมือนจะเป็นรูปแบบคล้ายกับ North Atlantic Treaty Organization (NATO) ที่มีสหรัฐฯ เป็นหัวเรือใหญ่

CSTO เป็นการรวมตัวทางทหารของรัสเซียกับที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตอีก 8 ประเทศในเอเชียกลาง

สมาชิกประกอบด้วย Russia, Armenia, Kazakhstan, Kyrgystan, Tajikistan, Uzbekistan, Azerbaijan, Belarus, Georgia

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีคาสซิม โจมาร์ต โทคาเยฟ ของคาซัคสถาน เปิดไฟเขียวให้กองกำลังความมั่นคงที่รับมือกับผู้ประท้วงสามารถยิงสังหารฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้ “โดยไม่ต้องยิงเตือน”

หลังเกิดความไม่สงบในประเทศมา 1 สัปดาห์ มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 160 คน ถูกจับแล้วกว่า 8,000 คน

รัฐบาลบอกว่าที่สั่งให้ยิงทิ้งผู้ประท้วงได้ เพราะอ้างว่ามี “ผู้ก่อการร้าย” แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล

ผู้นำคาซัคสถานประกาศผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ว่า “ผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ” ยังคงเดินหน้า “บ่อนทำลายประเทศและทรัพย์สิน” รวมทั้งใช้อาวุธต่อพลเรือนต่อไป

แถมยังมีข้อกล่าวว่าหาผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้กำลังต้องการจะ “ก่อรัฐประหาร” เพื่อโค่นรัฐบาลปัจจุบันด้วย

จึงอนุญาตให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถ “ยิงทิ้ง” อีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องมีการเตือน

ประธานาธิบดีโทคาเยฟไม่สนใจข้อเรียกร้องของนานาชาติที่ขอให้รัฐบาลของเขาเจรจากับผู้ประท้วง เขาอ้างว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับการฝึกฝนและจัดการโดยต่างชาติกำลังก่อความวุ่นวายในประเทศ เป็นประเทศที่มีอดีตผู้นำ Nursultan Nazarbayev ที่ปกครองประเทศถึง 28 ปีด้วยอำนาจเกือบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Kassym-Jomart Tokayev รับช่วงอำนาจต่อมาตั้งแต่ปี 2019 ถูกมองว่าเป็นการสืบทอดอำนาจต่อกันโดยที่อดีตผู้นำยังกุมบังเหียนอยู่ข้างหลัง

เขากล่าวขอบคุณประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่ส่งกองกำลังมาตามคำขอเพื่อช่วยปราบปรามการประท้วง

นานาชาติมีท่าทีตกใจกับความรุนแรงที่ประเทศนี้ เพราะเคยเป็นประเทศในเครือสหภาพโซเวียตที่ร่ำรวยและอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุดแห่งหนึ่ง

หลายประเทศกังวลว่าสถานการณ์เปราะบางอย่างนี้จะนำไปสู่ความวุ่นวายในภูมิภาค และอาจจะเปิดทางให้รัสเซียเสริมสร้างบารมีระบบภูมิภาคได้อย่างกว้างขวางอีกครั้งหนึ่ง

คาซัคสถานมีพรมแดนติดกับรัสเซียทางทิศเหนือและจีนไปทางทิศตะวันออก เป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีขนาดเท่ากับยุโรปตะวันตก       

ทำไมประเทศนี้จึงมีความสำคัญที่ต้องจับตา?

เพราะคาซัคสถานเป็นอดีตสาธารณรัฐโซเวียต ประชากร 18.8 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นมุสลิม โดยมีชนกลุ่มน้อยชาวรัสเซียจำนวนมาก

มีทรัพยากรแร่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์

มีน้ำมันสำรองทั่วโลก 3% และภาคถ่านหินและก๊าซที่สำคัญ

คาซัคสถานเป็นประเทศไม่มีทางออกทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

มีเศรษฐกิจใหญ่เท่ากับ 60% ของ GDP ทั่วภูมิภาคนี้

เรื่องวุ่นวายเริ่มด้วยการประท้วงจนกลายเป็นจลาจลเชื้อเพลิง เพราะราคาก๊าซ LPG แพงขึ้นกว่าเท่าตัวในระยะเวลาอันสั้น

การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในวงกว้าง เพราะความไม่พอใจที่ฝังลึกมาจากการปกครองของผู้นำคนก่อน     ส่งผลให้มีการลาออกที่ด้านบนสุดและการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างนองเลือด

คณะกรรมาธิการยุโรปเรียกร้องให้มีการคุ้มครองสิทธิและความมั่นคงปลอดภัยของพลเรือนชาวคาซัค

นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ และทั่วโลกจะจับตามองถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในคาซัคสถาน

การประท้วงเริ่มก่อหวอดเมื่อประมาณ 10 วันก่อนในภาคตะวันตกของประเทศ    

เหตุผลของการประท้วงทางการคือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างฉับพลัน

แต่นั่นเป็นเพียงปลายเหตุของความไม่พอใจของประชาชนเท่านั้น ความโกรธแค้นที่คุกรุ่นมาสาเหตุจากเรื่องอื่นๆ มายาวนาน ทำให้มีการขยายวงการประท้วงออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง

สะท้อนถึงความอัดอั้นของประชาชนที่อยู่ภายใต้ระบอบอำนาจนิยมมาตั้งแต่คาซัคสถานได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1991

แต่ที่โลกตะวันตกกังวลมากกว่านั้นคือ การที่รัสเซียนำทีมทหารจาก CSTO มาช่วยรัฐบาลคาซัคสถานปราบปรามประชาชน อาจจะกลายเป็นตัวอย่างของการที่รัสเซียพร้อมจะส่งทหารเข้าระงับเหตุในเพื่อนบ้านภายใต้ข้ออ้างของ “คำร้องขอ” ของประเทศที่ตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถบริหารประชาชนของตนให้มีความพอใจได้

เหตุวุ่นวายที่คาซัคสถานจึงกำลังเป็น “กรณีศึกษา” ของประเทศใหญ่ส่งทหารเข้าไปในเพื่อนบ้านเพื่อปกป้องอิทธิพลของตนเองอย่างโจ๋งครึ่ม!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ