โอลิมปิกกับเสรีภาพแห่งความเกลียดชัง!!!

ถึงแม้จะเป็น คอกีฬา กับเขาอยู่มั่งเหมือนกัน...แต่คงต้องสารภาพแบบตรงไป-ตรงมา ว่าสำหรับ มหกรรมกีฬาโอลิมปิก คราวนี้ แทบไม่ได้ก่อให้เกิดแรงกระตุ้น แรงจูงใจ ที่จะไปลุ้น ไปเชียร์ อะไรต่อมิอะไรมากมาย ยกเว้นเฉพาะที่มีนักกีฬาไทยลงสนามด้วยเท่านั้น ถึงพอจะตามไปลุ้น ไปเชียร์ ตามประสาไทยแลนด์สู้ๆ-ไทยแลนด์สู้ตาย หรือตามประสาคนไทยที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในบ้านนี้-เมืองนี้...

คือมันออกจะเป็นอะไรที่ กร่อยย์ย์ย์ มาตั้งแต่แรก หรือตั้งแต่ พิธีเปิด นั่นแหละ ที่ออกอาการเลอะเทอะ เปรอะเปื้อน แสดงออกถึงเสรีภาพและรสนิยมแบบเดียวกับหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์อย่าง Charlie Hebdo หรือ Charlie weekly ของฝรั่งเศส ที่ชอบไป

หยิบเอาสิ่งที่เป็นที่ เคารพ-ศรัทธา ของผู้อื่น มาต้มยำ ทำแกง เสียดสี เยาะเย้ย ดูหมิ่น ดูแคลน และถากถาง จนกลายเป็นเรื่อง-เป็นราวถึงขั้นชาวมุสลิมเขาอดรนทนไม่ไหวต่อการนำเอา พระศาสดามุฮัมมัด มาเป็นตัวตลกหรือตัวละคร ของพวกที่หากินกับหนังสือการ์ตูน ต้องหอบเอาอาก้า ลูกซอง อาร์พีจี ไปถล่มถึงสำนักงานกองบรรณาธิการ ตายโหง-ตายห่า กันไปเป็นสิบๆ แต่ก็ยังไม่วายดื้อรั้น ไม่คิดจะสนใจ ไม่คิดจะ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อความรู้สึกของผู้อื่น แม้แต่สมเด็จพระราชินีนาถอังกฤษ เอลิซาเบธที่ 2 ก็ยังถูกนำมาล้อเลียน แบบไม่จำเป็นต้องสนใจว่าสิ่งที่เรียกว่า เสรีภาพ มันควรจะมี ปัญญา และ คุณธรรม เป็นพื้นฐาน เป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยหรือไม่? อย่างไร?

การหยิบเอาศาสดาแห่งศาสนาคริสต์อย่าง พระเยซูคริสต์ มายำ มาขยำ จนเละเทะ ในฉากเดียวกับ The Last Supper ของ Leonardo Da Vinci ก็จึงไม่ต่างอะไรไปจากการใช้เสรีภาพและรสนิยมแบบเดียวกับหนังสือการ์ตูนฝรั่งเศสรายที่ว่าเอาไว้แล้วนั่นแหละ คือไม่ได้สนใจความรู้สึกชาวคริสต์ที่มีอยู่เป็นพันๆ ล้าน จนแม้แต่บรรดา Bishop ในประเทศฝรั่งเศสเองยังทนไม่ไหว ต้องออกมาตำหนิ ประณาม และดูเหมือนจะลุกลามชนิดใครต่อใครเริ่มลุกขึ้นมาปฏิเสธและต่อต้านกันเป็นแถวๆ สำหรับเสรีภาพที่ไร้เสียซึ่ง ปัญญา และ คุณธรรม ไปจนถึงรสนิยมตามแบบฉบับพวก LGBTQ ทั้งหลาย...

อีกทั้งด้วยความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทและชิงชัง...ที่ทำให้โอลิมปิกที่ฝรั่งเศสคราวนี้ เลยต้องทำเป็นลืมๆ ว่ายังมีประเทศที่ใหญ่ที่สุดอย่างประเทศ รัสเซีย อยู่บนโลกใบนี้ แถมยังเป็นประเทศที่มีประชากรนับเป็นร้อยๆ ล้านคน แต่เพราะความเกลียด ความกลัว ความเป็น Russophobia โรค กลัวรัสเซีย ของชาวยุโรปนั่นเอง เลยต้องตัดหางปล่อยวัด ต้องลืมๆ ว่ามีประเทศดังกล่าวอยู่บนแผนที่โลก ต้องเอา การเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง มาปฏิเสธ ต่อต้าน นักกีฬา รัสเซีย แบบเดียวกับที่เคยสั่งห้ามไม่ให้แม้แต่ แมว สายพันธุ์ไซบีเรียเข้าประกวด แมวโลก มาก่อนหน้านี้...

เสรีภาพที่ตั้งอยู่บนความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาต พยาบาทและชิงชัง แถมยังไร้เสียซึ่ง ปัญญา และ คุณธรรม อีกด้วยต่างหาก เลยทำให้โอลิมปิก ณ กรุงปารีส จึงเป็นอะไรที่ กร่อยย์ย์ย์ เอามากๆ แต่ที่น่าตกตะลึง พรึงเพริด น่ามึนซ์ซ์ซ์ๆ งงง์ง์ง์ๆ เป็นอย่างยิ่ง ก็คือบรรดา ทวยไทย บางกลุ่ม บางเหล่า ที่ออกมาแสดงอาการ ออกัสซัม ชนิดน้ำบานกันเป็นแถวๆ ด้วยเหตุเพียงเพราะได้เห็นภาพอดีตพระราชินีฝรั่งเศส (Queen Marie Antoinette) หิ้วหัวตัวเอง หลังเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศส ที่ว่ากันว่า...เพื่อให้ได้มาซึ่ง เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ อะไรทำนองนั้น หรือพูดง่ายๆ ว่าเกิดความ สะใจ ที่ได้เห็น เสรีภาพแห่งความเกลียด ต่อกษัตริย์และราชวงศ์ เลยหันไปดมก้น แหกทวารดม สรรเสริญ เชิดชู ยกย่อง พิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกของฝรั่งเศส โดยไม่ได้สนใจอารมณ์-ความรู้สึกของผู้อื่น กระทั่งแม้แต่บรรดาชาวคริสต์เอาเลยแม้แต่น้อย...

ความเป็น ทวยไทย ในลักษณะเช่นนี้...มันจึงออกจะน่าทุเรศ น่าสมเพชเวทนา เป็นอย่างยิ่ง เพราะเพียงแค่ย้อนคิดไปถึงครั้งที่พวกฝรั่งเศส หรือเศษฝรั่งเหล่านี้ เคยลาก เรือปืน มาปิดอ่าวประเทศไทย ใช้อำนาจ ใช้กำลังบีบบังคับเพื่อให้ประเทศไทยยอมยกดินแดนให้ตัวเอง เคยใช้เสรีภาพตามแบบฉบับฝรั่งเศส กดขี่ ข่มเหง ฆ่าฟัน ล้างผลาญพี่ๆ น้องๆ ชาวอินโดจีนอย่างเหี้ยมๆ โหดๆ จนคำว่า อย่าทำน้ำชา...ของนายหก กลายเป็นคำพูดติดปากของพวกเขมรแดง ที่เคยเห็นชาวเขมรด้วยกันเองถูกพวกฝรั่งเศสจับมาฝังดิน โผล่แต่หัว แล้ววางกาน้ำชาต้มอยู่บนหัวชาวเขมร...

แต่โชคดี...ที่ประเทศไทยของหมู่เฮาทั้งหลาย ยังมี พระมหากษัตริย์ อย่าง ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ที่อาศัยความอดทนอดกลั้น สุขุม รอบคอบ อาศัยกุศโลบายอันประณีต ละเอียดอ่อน ประคับประคองประเทศไทยให้พ้นปากเหยี่ยว-ปากกามาจนได้ การแหกปากตะโกนเชียร์พิธีเปิดโอลิมปิก ของ ทวยไทย เหล่านี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริม สนับสนุน ความเกลียด เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึง ความไม่กตัญญู-รู้คุณ จนความอยากได้มาซึ่ง เสรีภาพ เลยกลาย ความไม่รู้เรื่อง ชนิดที่แทบไม่ได้คิด ไม่ได้สนใจความถูก-ผิดใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมืองไทยมีดีพอ...ขออย่ากังวล

เมื่อบริษัท Apple เจ้าของ iphone ทำคลิปเสนอเรื่องราวของเมืองไทยที่ดูเหมือนประเทศที่ยังไม่เจริญหลายๆ เรื่อง ตั้งแต่สนามบิน โรงแรมที่พัก ยานพาหนะสำหรับเดินทาง

สีกากีเนื้อหอม

ไม่แปลกใจที่ทุกย่างก้าว ทุกท่าทีของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร.ที่มี "สมรรถชัย วิศาลาภรณ์" เป็นประธาน ก.พ.ค.ตร.จะ "เพลย์เซฟ" ทุกอย่าง

จากคู่มิตรมากสู่ชะตาที่ถูกตรึงของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์(ตอนที่2)

   อ้างอิงจากตำราของโหรอุตรภัทร หรือมหาบรรเทา จันทรศรผู้ล่วงลับ ว่าด้วยหลักดาวจรสมาสัปต์ หรือตรึงเหมือนเกลียวเชือกพันแน่นกับดาวในพื้นดว

“ความจริง”เครื่องมือชิ้นสุดท้ายในห้วง“กลียุค”

นอกจากคนอินตะระเดียยุคโบร่ำโบราณ...ท่านจะแบ่งห้วงเวลาของแต่ละยุค ออกเป็น 4 ช่วง 4 ระยะ เริ่มจาก กฤตยายุค หรือ สัตตยายุค ที่บรรดาความดี-ความงาม-ความจริง ต่างมีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ไปทั้ง 4 ส่วน

มติ 'ก.พ.ค.ตร.'

มีสัญญาณให้จับตา ต้นเดือนสิงหาที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วัน ปมปัญหาเรื่องสถานะ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ภายหลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)