จากคู่มิตรมากสู่ชะตาที่ถูกตรึงของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์(ตอนที่2)

รูปดาวในดวงชะตากำเนิดคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
เกิดวันศุกร์5กันยายน2523-ไม่ทราบเวลาที่แน่นอน
ชะตาจรวันที่7 สิงหาคม 2567
ตรึงคู่ที่1-พระเสาร์จร(7)เดินในราศีกุมภ์เล็งพฤหัสบดีดวงเดิม(๕)สถิตราศีสิงห์
พฤหัสบดีจร(5)เดินในราศีพฤษภถึงพระเสาร์ดวงเดิม(๗)สถิตราศีกันย์
ตรึงคู่ที่2-พระราหูจร(8)เดินในราศีมีนเล็งพระพุธดวงเดิม(๔)สถิตราศีกันย์
พระพุธจร(4)เดินในกรกฎทับพระราหูดวงเดิม(๘)สถิตในราศีกรกฎ
ตรึงคู่ที่3-พระอาทิตย์จร(1)เดินในราศีกรกฎทับพระศุกร์ดวงเดิม(๖)สถิตในราศีกรกฎ
พระศุกร์จร(6)เดินในราศีสิงห์ทับพระอาทิตย์ดวงเดิม(๑)สถิตในราศีสิงห์
ตรึงคู่ที่4-พระศุกร์จร(6)เดินในราศีสิงห์ทับพระเกตุ(๙)ดวงเดิมสถิตในราศีสิงห์
พระเกตุจร(9)เดินในราศีมังกรเล็งพระศุกร์ดวงเดิม(๖)สถิตในราศีกรกฎ

                อ้างอิงจากตำราของโหรอุตรภัทร หรือมหาบรรเทา จันทรศรผู้ล่วงลับ ว่าด้วยหลักดาวจรสมาสัปต์ หรือตรึงเหมือนเกลียวเชือกพันแน่นกับดาวในพื้นดวงชะตาเดิมเช่นดวงชะตาของคุณพิธาวันที่7สิงหาคม 2567ที่พระเสาร์จร(7)กำลังเล็งพฤหัสบดีดวงเดิม(๕) ขณะที่พฤหัสบดีจร(5)ก็กำลังทำมุมพิเศษถึงพระเสาร์ดวงเดิม(๗)แล้ว เรื่องบวกหรือลบจะเกิดกับดวงชะตาอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

                 โดยดาวที่ตรึงกันนี้หากจะให้ผลด้านบวกอย่างล้ำเลิศต้องเป็นดาวคู่มิตรตรึงกันเท่านั้นซึ่งมีทั้งหมดสี่คู่มิตร คือพฤหัสบดีกับอาทิตย์-เสาร์กับราหู-อังคารกับศุกร์และจันทร์กับพุธ

                 เช่นช่วงใดพฤหัสบดีตรึงกับพระอาทิตย์ที่เป็นมิตรกัน(อาทิตย์เป็นมิตรกับครู)เจ้าชะตาจะได้เลื่อนชั้นเลื่อนตำแหน่งแบบนิ่มๆ

                 หรือพระเสาร์ตรึงกับราหูช่วงใดเจ้าชะตามักจะได้โชคใหญ่ที่สุดในชีวิตตามพื้น-ระดับวาสนาของแต่ละคนในช่างนั้นเช่นบางท่านได้เป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีหรือได้เป็นปลัด-อธิบดีหรือได้งานโครงการใหญ่ๆ

                 นอกจากดาวคู่มิตรที่ตรึงกันแล้วให้ผลทางบวกแล้ว หากเป็นดาวคู่อื่นๆตรึงกันในดวงชะตาระยะนั้นจะนำมาซึ่งความอึดอัด ถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลือง เกิดขัดข้อง ยุ่งยากตามอาการของดาวและเรื่องราวที่ดาวนั้นๆเป็นตัวแทนอยู่ แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้-หนีไม่ออกกันทั้งนั้น

               ยิ่งคู่ศัตรูตรึงกันแล้วอันประกอบด้วยพระอาทิตย์กับพระอังคาร-พุธกับราหู-ศุกร์กับเสาร์-จันทร์กับพฤหัสบดีชีวิตช่วงนั้นยิ่งจะดูไม่จืด  ยิ่งตรึงกันหลายคู่ก็ยิ่งหนัก

               ดังเช่นดวงชะตาของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ที่กำลังลุ้นคดีในศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 7สิงหาคม 2567ที่เป็นไปตามรูปที่แสดง โดยจะหยิบยกมาอธิบายอาการตามหลักโหรเพียงสองคู่สำคัญที่ตรึงกันคือ

                คู่แรก-พระเสาร์หัวหน้าดาวร้าย ตรึงกับพฤหัสบดีหัวหน้าดาวดี  ปกติแล้วถ้าเป็นดวงโลกหากดาวสองนี้เพียงแต่เจอกัน ก็จะเกิดแผ่นดินไหวแบบแปลกประหลาดหรือภูเขาระเบิด สร้างความเดือดร้อนให้แล้วเปลี่ยนภูมิทัศน์ไปสิ้น และยิ่งตรึ่งกันซ้อนเข้ามาอีกด้วยแล้วยิ่งหนีปรากฎการณ์นี้ไม่พ้น-เกิดแน่ๆ

                ส่วนสำหรับคนนั้น เท่าที่เก็บข้อมูลมาช่วงที่ดาวสองดวงนี้ตรึงกันจะมีระยะที่ เจ้าชะตาจะได้อะไรดีๆก่อน หลังจากนั้นจะถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลือง-กดดันสุดๆให้เดินในทางแคบๆที่ไม่อยากเดินแต่ต้องเดิน บางคนมีทางออกเพียงหนึ่งทาง บางคนไม่มีทางเลือกต้องเดินทางที่ถูกบีบ

                 ปรากฎการณ์นี้ครอบครัวผู้เขียนเคยผ่านมาแล้วและขอให้อย่าพานพบอีกเลยเพราะบีบคั้นจนโรคหัวใจจะถามหา เหมือนม่านดำปกคลุมครอบครัวพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เพราะได้วงเงินมหึมาเป็นหนี้ดีเยี่ยม แต่ถูกกำหนดด้วยเงื่อนไขสูงลิ่วให้ทำตาม ขนาดหาทางเลือก24 ทางก็ไม่ได้สักทาง แต่ไปได้ทางที่25ที่ไม่ตั้งใจเลือก!!!

              สำหรับคุณพิธาแล้วจึงคาดว่าหลังจากได้ผลด้านบวกก่อนหน้านี้ด้วยการชนะคดีไอทีวี.และได้กลับมาทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์แล้ว คาดว่าปรากฎการณ์ต่อไปนี้คงจะถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลืองด้วยเรื่องระเบียบ-กฎหมาย

                คู่ที่สอง-คู่ศัตรูดูไม่จืดคือพระพุธกับราหูตรึงกัน ตามโฉลกที่คนเรียนโหรท่องกันคือ-พุธอันธพาลวิวาทราหู-คู่นี้ออกอาการปกติคือเกิดคดีความ- ปวดท้อง- ผ่าท้อง-เลือดตกยางออก-หมากัด-แมวข่วน-ต้องอาวุธ-เขี้ยวงา-ยาพิษหรือผิดสำแดง

                ส่วนผลที่จะปรากฎวันที่7สิงหาคม 2567นั้นผู้เขียนคงไม่บังอาจท้าทายอำนาจศาลรัฐธรรมนูญทำนายผลการวินิจฉัยออกมาล่วงหน้าแต่ขอใช้หลักโหรล้วนๆบอกอาการตรึงกันของดาวคู่นี้ในดวงชะตาคือ

                 พระราหูจร(8)เล็งพระพุธ(๔)มีคำทำนายตามโฉลกคือราหูประทับพุธ(กรณีนี้เล็ง-ผลร้ายกว่าประทับหรือทับ)ภัยจะยายี  ต้องราชทัณฑ์ทวี จะระส่ำระสายสิน….

             ส่วนพระพุธจร(4)ทับพระราหูดวงเดิม(๘)นั้นตำราบอกเล่นกันถึงตาย เหมือนพญาช้างสารสองตัวโกรธกัน ชนกันตกตายตามกันทั้งคู่ตามโฉลกพุธต้องอสุรา อริแรงริษยา ปองทำประทุษฐ์ทุระโทษ ต้องบทโบราณ คชสารสองโสด สองลนลานโกรธ ธะก็ชนชีพกันตาย

               สรุปคือคงโดนหนักเรื่องกฎหมาย

              อย่างไรก็ตามผู้เขียนมีเกร็ดโหรที่รวบรวมมาฝากว่า หากเจอเรื่องด้านลบในวันที่ 7สิงหาคม 2567แล้ว  เมื่อผ่านพ้นกระบวนการตรึงของพระเสาร์กับพฤหัสบดีแล้ว  ชีวิตจะเปลี่ยสภาพได้ไปเล่น-สู้ในสนามหรือสถานะที่สูงกว่าเดิม

               เพียงแต่สนามหรือสถานะใหม่ที่จะเล่นนั้นจะเป็นอย่างไรเท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช' สรุปคำแถลงข้อต่อสู้คดียุบพรรคก้าวไกล

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงชี้แจงเนื้อหา และสรุปข้อต่อสู้ในเอกสารคำแถลงปิดคดียุบพรรคก้าวไกล

ลอกภาพวาดแวนโก๊ะ! 'พิธา' นักก๊อปปี้ส่งภาพประมูลจบที่ 2.6 หมื่นบาท รายได้เข้าสวัสดิการสภาฯ

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดงานตลาดนัดผาสุก ระหว่างวันที่ 30 ก.ค.- 2 ส.ค. โดยเป็นการนำสินค้าอุปโภค บริโภค สินค้า OTOP จากทั่วประเทศมาออกบูธ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น บริเวณรอบสระมรกต

'เศรษฐา' ยังไล่หลัง 'พิธา' ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล ช่วยรัฐบาลดูดีขึ้น

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนกรกฎาคม 2567” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,318 คน

“ความจริง”เครื่องมือชิ้นสุดท้ายในห้วง“กลียุค”

นอกจากคนอินตะระเดียยุคโบร่ำโบราณ...ท่านจะแบ่งห้วงเวลาของแต่ละยุค ออกเป็น 4 ช่วง 4 ระยะ เริ่มจาก กฤตยายุค หรือ สัตตยายุค ที่บรรดาความดี-ความงาม-ความจริง ต่างมีอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ไปทั้ง 4 ส่วน