![สันต์ สตอแมน](https://storage-wp.thaipost.net/2022/05/profile-02text-1.png)
“ขอเป็นกำลังใจให้ อ.ปิยบุตร ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ในฐานะกัลยาณมิตรคนหนึ่ง”
เปล่า..ไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.คนดังนู่นเป็นคนพูด (เขียน) ส่วนที่ให้กำลังใจกันนั้น
เหตุมาจากคุณปิยบุตร แสงกนกกุล ตัดพ้อน้อยใจ ว่า ในขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้
ผู้คนในสังคมให้ความสนใจเฉพาะข่าวพรรคก้าวไกลถูกยุบแล้ว ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ไม่ได้สนใจในสาระทางกฎหมาย ข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกลในเรื่องนี้เลย!
ซึ่งนอกจากขอเป็นกำลังใจให้แล้ว คุณเทพไทยังได้ช่วยอธิบายความเพื่อให้คุณปิยบุตรได้รู้-ได้เข้าใจสภาพสังคม-คนไทยปัจจุบันอยู่หลายหัวข้อ
ก่อนจะลงท้าย.. “การที่ อ.ปิยบุตร บอกว่าจะใช้เวลาที่เหลือจนถึงวันที่ 7 สิงหาคมนี้ อธิบายเรื่องข้อต่อสู้ทางกฎหมายของพรรคก้าวไกลให้สังคมได้รู้ต่อไปนั้น เป็นเรื่องที่ดี
อย่างน้อยก็เป็นข้อมูลที่สังคมไทยได้รับรู้ และสื่อมวลชนจะนำไปขยายผล เพื่อประโยชน์ของสังคมต่อไป”
ครับ..ก็ไม่รู้สังคมจะได้ประโยชน์ด้านไหนบ้าง แต่ที่อยากจะบอกให้คุณเทพไทรู้ คนไทยน่ะไม่ใช่ไม่สนใจในสาระทางกฎหมาย หรือข้อต่อสู้-วิธีการ
ทั้งไม่ได้จะเน้นเฉพาะผลลัพธ์ หรือผลสัมฤทธิ์ในเรื่องนั้นๆ อย่างที่ตอบคุณปิยบุตร แต่เป็นเพราะคนเขารู้-เขาเห็น ว่าปลายทางของเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
และที่พรรคก้าวไกลต่อสู้อยู่นี้ เขาก็มองเป็นแค่การยกแม่น้ำทั้งห้ามา (ตะแบง) สู้เพื่อสร้างกระแสก็เท่านั้น!
อีกอย่าง เวลานี้คนไทยเขากำลังเดือดร้อนทุกข์ใจกังวลกับเรื่องปากท้องตัวเองที่การทำมาหากินฝืดเคืองลำบากยากเข็ญ
มากกว่าที่จะไปสนใจหรือตามฟังสาระข้อต่อสู้ทางกฎหมายของพรรคก้าวไกล.. “ยุบ-ไม่ยุบก็ช่างแมร่งมัน” ได้ยินคนเขาคุยกันอย่างนี้!
ผมเองพอจะเข้าใจความรู้สึกคุณเทพไท เพราะที่นครศรีธรรมราชคนเขาพูดกันหนาหูว่าน้องชายจะลงสมัครการเมืองท้องถิ่นในสีเสื้อพรรคก้าวไกล
เท็จจริง ผมก็ฟังหู-ไว้หู แต่มาได้ยิน (อ่าน) คุณเทพไทประกาศเป็น “กัลยาณมิตร” กับคุณปิยบุตรเข้าอย่างนี้ ที่เชื่อครึ่ง-ไม่เชื่อครึ่ง..
ก็เลยทำให้น้ำหนักทางเชื่อเพิ่มขึ้นอีกนิดนึง..อะอาอะอ่า!
เอ้า..แต่นั่นต้องบอกว่า “เหลือเชื่อ” เพราะเข้ามานั่งเป็นเจ้ากระทรวงแค่ไม่กี่เพลา คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมต.กระทรวงวัฒนธรรม ก็ได้เผย..
“กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ฉบับใหม่
ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์ พ.ศ. .... แนวความคิดการให้เสรีภาพแก่บุคคลเพื่อการแสดงออกเป็นพื้นฐานของการพัฒนาและเป็นบ่อเกิดนวัตกรรมในสังคม
ซึ่งมีทั้งหมด 7 หมวด 112 มาตรา ซึ่งจะนำมาใช้แทน พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ขณะนี้ได้ดำเนินการร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
จึงขอเชิญชวนหน่วยงานถาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ นักวิชาการ และประชาชนทุกภาคส่วนช่วยกันแสดงความคิดเห็นหรือเสนอแนะต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว
เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการแก้ไขปรับปรุงร่าง พ.ร.บ. ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบ
จากนั้นจะส่งร่าง พ.ร.บ.ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และส่งให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป ทั้งนี้มีระยะเวลารับฟังความคิดเห็น 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2567”
ฉับไวแท้ ว่าแต่คนวงการหนัง-ประชาชนทุกภาคส่วนได้อ่านร่าง พ.ร.บ. ครบทุกบรรทัด-ทุกหน้ารึยังล่ะ..
ผมน่ะไม่อ่านหรอก..เอาไงก็ได้!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าคนโกงความยุติธรรม
สว.กลุ่มพันธุ์ใหม่.. อ๋อ..ที่แท้กำเนิดจากรากพันธุ์นี้เอง ก็รากที่นางสาวนันทนา นันทวโรภาส โพสต์.. “ขอขอบคุณอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ได้มอบเข็มกล้าหาญ
บุษบกเดียวของโลก!
17-18 ปีมาไม่เคยพูดถึงความสามัคคี! แต่พอได้กลับมาใช้ชีวิตบนแผ่นดินเกิด มีอำนาจ มีพรรค (เพื่อไทย) ที่เป็นสมบัติของตระกูลได้บริหารประเทศชาติ..
ไม่มีปัญญาเถียง!
เพลงเดียว..เสียว-ซึ้งไปทั้งประเทศ! นี่..ถ้าส่งเข้าประกวด “สีสันอวอร์ด” ของคุณพี่ทิวา สาระจูฑะ ไม่แน่นะ อาจคว้ารางวัลใดรางวัลหนึ่งมาก็ได้
“สืบสันดาน”ทั้งตระกูล
ดูจบสักสี่ซ้าห้าวันมาแล้วล่ะ! ก็..ตั้งใจจะเขียน-จะคุยอยู่เหมือนกัน แต่พอดีได้อ่านที่คุณอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ เห็นว่าตรงกับใจตัวเอง
ประชาธิปไตยย่อยยับ?
7 สิงหา..ยุบ-ไม่ยุบ! และถ้ายุบจะเป็นดังนายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ ประเทศไทย ได้เคยทำนาย (โพสต์) ไว้หรือไม่ว่า..
พันธุ์ใหม่ของวงการ!
ถ้ารู้จักประมาณตน.. ผมว่า..ทั้งคุณนันทนา นันทวโรภาส ทั้งคุณอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ก็จะไม่รู้สึกเสียดายหรือเสียความรู้สึกอะไรกับการไม่ได้รับเลือกให้เป็น “ประธาน” กับ “รองประธาน” สว.เลย!