'ทักษิณ' ยังไม่หนี

และเป็นจำเลยคดี ม.๑๑๒ อยู่ระหว่างการประกันตัว

ในวันนั้น "นักโทษชายทักษิณ" วางหลักทรัพย์ ๕ แสนบาท โดยศาลมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และแจ้งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ทราบ

ต่อมาวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ศาลไต่สวนคำร้อง 

และมีคำสั่ง ไม่อนุญาตให้ไปครับ

ไฮไลต์อยู่ที่การไต่สวนพยานครับ สรุปได้ความว่า...

"...จำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาและห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จำเลยมีความประสงค์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ไปพำนักอยู่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) ระหว่างวันที่ ๑-๑๖  ส.ค. ๒๕๖๗ เพื่อพบแพทย์ซึ่งเคยตรวจรักษาอาการป่วยของจำเลยเกี่ยวกับปอดอักเสบเรื้อรัง ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจ เอ็นไหล่ขวาฉีกขาด และหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ในสถานพยาบาล ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ ๒ และ ๘  ส.ค. ๒๕๖๗

โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จำเลยยังมีนัดหมายกับบุคคลสำคัญหลายคน เกี่ยวด้วยภารกิจส่วนตัวของจำเลยหลายเรื่อง

จำเลยจะเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรก่อนวันนัดตรวจพยานหลักฐานซึ่งศาลนัดไว้ในวันที่ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๗ 

เห็นว่า แม้จำเลยอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความ ยืนยันถึงความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยมีเอกสารหลักฐานจากแพทย์สนับสนุน และนัดพบบุคคลสำคัญหลายคน โดยช่วงเวลาที่จำเลยพำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นช่วงเวลาก่อนกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานก็ตาม

แต่อาการป่วยของจำเลยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศไทยตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว

การเดินทางไปพบบุคคลสำคัญของจำเลยเป็นเรื่องส่วนตัวของจำเลย

ทั้งไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็นดังกล่าว ประกอบกับช่วงระยะเวลาที่เดินทางใกล้กับวันนัดตรวจพยานหลักฐาน

ในชั้นนี้ไม่สมควรอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ยกคำร้อง..."

คิดว่าตัวเองเป็นใคร?

ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว

ระหว่างการพักโทษ ทำกิจกรรมทางการเมือง เกินกว่าคนที่อยู่ในสถานะนักโทษพึงกระทำ แต่กรมราชทัณฑ์  กรมคุมประพฤติ ทำได้แค่มองตาปริบๆ

จะชิมลาง ก่อนคดี ม.๑๑๒ เข้าด้ายเข้าเข็มหรืออย่างไร

เรื่องความเจ็บป่วยของ "นักโทษชายทักษิณ" ไม่ต่างจากเด็กเลี้ยงแกะ

 วันที่เดินทางกลับไทย ไม่ยอมเข้าคุกก็อ้างป่วย ๔ โรค

ปอดอักเสบเรื้อรัง

ระบบหายใจและหลอดเลือดหัวใจ

เอ็นไหล่ขวาฉีกขาด

และหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน

นอนห้องวีวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจยาว ก็อ้าง ๔ โรค เป็นตายเท่ากัน ห่างหมอไม่ได้

ครั้นจะเดินทางไปต่างประเทศ ก็อ้าง ๔ โรค เหมือนเดิม

นอนโรงพยาบาลตำรวจครึ่งปี ๔ โรค ไม่ดีขึ้นเลยหรือ

แล้วที่ออกมาเดินตัวปลิว ไปโน่น ไปนี่ รับแขกฉลองวันเกิด ไปหาเสียงเลือกนายก อบจ.ปทุมธานี สารพัดครับ ป่วยหนักขนาดนั้น เอาแรงที่ไหนไป

๔ โรคที่ว่าหายหัวไปไหนหมด

หรือติดโรค "ลุงป้อม" ใช้ใจบันดาลแรง!

เกิดคำถามเยอะครับ 

หลายคนคงถามเหมือนกัน จะหนีหรือ

ไม่น่าใช่

แต่เหตุผลที่ขอกับศาล มันก็ไม่น่าเชื่อถือ

๔ โรคที่ว่านี้ จิ๊บๆ ครับ หมอไทยเก่ง รักษาได้หมด

ไม่งั้น "นักโทษชายทักษิณ" จะเดินปร๋อได้ไง

นอนติดเตียงเสียที่ไหน

เรื่องมีนัดกับบุคคลสำคัญคุยเรื่องส่วนตัวหลายคน

นัดเมื่อไหร่

ทำไมไม่คุยให้เสร็จก่อนกลับไทย

หรือเพิ่งนัดหลังกลับไทยแล้ว

กับ "ยิ่งลักษณ์" คุยทางโทรศัพท์ก็ได้ ว่าพี่ไม่สามารถทำให้กลับเดือนตุลาคมนี้ได้แล้ว ต้องเลื่อนไปอีกหน่อย ไม่เห็นต้องไปเจอตัว

ทำไมไม่รอหลังวันที่ ๒๒ สิงหาคม หลังพ้นโทษคดีโกงแล้ว พ้นสถานะนักโทษแล้ว การขออนุญาตไปต่างประเทศอาจจะง่ายขึ้นมาอีกนิด

หรือทั้งหมดนี้แค่หยั่งเชิง

ดูทิศทางของศาล ว่าจะไปทางไหน

ยากครับที่ "นักโทษชายทักษิณ" จะได้เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ยังมีคดีติดตัวอยู่ เพราะประวัติไม่ดีเอาเสียเลย

เคยหลอกศาลว่าจะไปดูโอลิมปิกที่ปักกิ่ง เมื่อปี ๒๕๕๑ สุดท้ายหนีคดี เร่ร่อนอยู่แถว ยุโรป-ดูไบ

ครับ... "นักโทษชายทักษิณ" กำลังจะเล่นอะไร

ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ ๑๙ สิงหาคม ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยครับ ไม่ใช่วันพิพากษา

วันนัดตรวจพยานหลักฐาน คือวันที่คู่ความต้องยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานกับศาล แค่เริ่มต้นเองครับ

ฉะนั้นจะบอกว่ากลัวติดคุก จำต้องหนี ก็ไม่ใช่ ยังมีเวลาอีกเยอะ

แต่ที่สงสัยจริงๆ อยากให้แพทยสภาขยับบ้าง คำร้องของ "นักโทษชายทักษิณ" มีเอกสารหลักฐานจากแพทย์สนับสนุนด้วย

มี "หมอ" ยืนยันว่า "นักโทษชายทักษิณ" จำเป็นต้องไปพบแพทย์ที่ดูไบ

เล่นกันโจ่งครึ่มแบบนี้เลยหรือ

เกือบปีที่ผ่านมา "หมอ" ก็คิดว่าประชาชนกินหญ้าอย่างนั้นหรือ

ถึงได้คิดหลอกไปเรื่อยๆ

ยากครับที่ "นักโทษชายทักษิณ" จะเดินทางไปต่างประเทศ โดยนั่งเครื่องบินออกจากสนามบินในประเทศไทย ก่อนที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาคดี ม.๑๑๒ 

เว้นเสียแต่ว่ามุดช่องทางธรรมชาติ.