“ไม่ค้านสายตา”

จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานทั้งสอง ที่ผลออกมาตามคาดในใจใครหลายๆ คน ซึ่งวันที่เลือกตรงกับวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์มากมายแต่สถานการณ์ต่างๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะมีผู้ควบคุมการประชุมที่ดีนั่นเอง

ถ้าพูดถึงการต้องทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมชั่วคราวนั้น ตามกฎคือต้องเป็นผู้อาวุโสที่สุดในการประชุมวุฒิสภา และคนนั้นคือ “พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี” สว. อายุ 78 ปี ที่ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวสามารถควบคุมการประชุมได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะอาวุโสแต่สามารถนั่งเป็นประธานได้ และพูดเสียงชัดเจน

มีช่วงหนึ่งของการนับคะแนนรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เพราะในระหว่างการขานคะแนนใบสุดท้ายนั้น กรรมการขานคะแนนได้ขานว่า งดออกเสียง จึงทำให้บัตรลงคะแนนนั้นเกินกว่าจำนวน สว. 200 คน เป็น 201 ใบ ซึ่งเหล่าสมาชิกได้เสนอวิธีแก้ปัญหาหลากหลายวิธี พร้อมหารือในที่ประชุม ไม่ว่าจะเป็น กลับไปดูเทปว่าเกิดอะไรขึ้น และดำเนินการต่อ

แต่เรื่องนี้ “พล.ต.ท.ยุทธนา” ตอบเหล่าสมาชิกอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ถึงแม้ผลคะแนนจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่หลักฐานเปลี่ยนแปลง เพราะต้องจดบันทึกและรายงาน ถ้าไม่ตรงขึ้นมาจะเสียหายต่อวุฒิสภา ฉะนั้น อยากให้เจ้าหน้าที่เสียเวลาต้องนับใหม่ ผมเห็นว่าในที่ประชุมควรนับใหม่เพื่อให้ความถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์”

แต่อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมก็มีทั้งผู้เห็นด้วยกับวิธีของประธาน แต่ก็มีผู้เสนอวิธีการอื่นๆ เข้ามาด้วยเช่นกัน อาทิ ตั้งคณะทำงานเพื่อนับคะแนนใหม่ แต่เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องมีการนับคะแนนใหม่ “พล.ต.ท.ยุทธนา” จึงเริ่มให้กรรมการนับใหม่ทันที และสุดท้ายผลก็ออกมาที่ครบ 200 ใบตรงตามจำนวน สว.

ถึงแม้ว่าจะเกิดเรื่องวุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่เรื่องนี้ต้องชื่นชม “พล.ต.ท.ยุทธนา” ที่ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมชั่วคราวได้อย่างดี และเจ้าตัวสามารถมีเหตุผลให้กับการนับคะแนนใหม่ได้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ค้านสายตา

แต่อย่างไรก็ดี ใกล้ถึงเวลาเปิดประชุมวุฒิสภาคงต้องดูบทบาทของ “พล.ต.ท.ยุทธนา” รวมถึง สว.ท่านอื่นๆ ในชุดใหม่นี้ว่าจะมีการทำงานอย่างไร จะเข้าตากรรมการหรือไม่ แต่เชื่อว่า สว.ชุดใหม่ที่มาจากหลากหลายอาชีพย่อมมีของในตัวเอง แค่รอเวลาแสดงของที่มีออกมาให้ทุกคนเห็นเท่านั้นเอง อิอิ.

เจ้าพระพาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เร่งตีปี๊บผลงาน

อยู่ในช่วงเร่งตีปี๊บผลงานรัฐบาลแบบด่วนๆ ตามดำริของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายแก่ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำโดย “หมอชัย” ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ

“ชัยชนะ=อดทน”

“เกือบหลับ แต่กลับมาได้ ” มีให้เห็นเสมอ สำหรับ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

ให้ฟัง อ.วิษณุ

ตั้งแต่ได้รับแต่งตั้งเป็นกุนซือของ เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เนติบริกร-วิษณุ เครืองาม มาทำงานอย่างเคร่งครัด

ต้อนรับพรรคคอมฯ เวียดนาม

การเมืองกำลังฮึ่มๆ รายวัน ส่วนใหญ่เน้นไปทางความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรัฐบาล พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคอื่นดูเหมือนนานๆ ทีจะเป็นที่กล่าวถึง

“ยิ้มสยบ”

นับว่าเรื่องนี้ยาวติดต่อกันมาหลายวัน สำหรับ “หมอเกศ” พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ได้คะแนนสูงสุดในการเลือกสว.ระดับประเทศในลำดับที่ 1 แต่สังคมไทยก็ยังมีเรื่องแคลนใจจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นเรื่องมหาวิทยาลัยที่เรียน หรือวุฒิการศึกษา ล่าสุดมีคนในโซเชียลได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในหลายทาง

คุณพ่อลูกสอง

ยังทำงานแข็งขันดรีมทีมกันต่อ สำหรับทีมโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่นำโดย “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี และโฆษกพรรค พร้อมด้วยรองโฆษก “เนน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี , “เบียร์” ร.ต.อ.หญิง อัยรดา บำรุงรักษ์ และ “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ