เป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ..แชร์และโพสต์สนั่นกันเลยทีเดียว กับเพจของกรุงเทพมหานคร ที่ประกาศรับสมัคร "คนปักตะไคร้" อันเนื่องมาจากระยะนี้ฝนตกแทบทุกวัน และเป็นวงกว้าง ไม่เหลือรอดสักพื้นที่เดียว
เด็กๆ ที่ไม่เคยรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับเรื่องราวของการปักตะไคร้ไล่ฝน ก็เลยต้องตามหาประวัติความเป็นมา ง่ายที่สุดคือถามจากผู้ใหญ่ ว่าจริงเท็จประการใด
ถ้าถามจากมนุษย์ป้าที่พอมีประสบการณ์บ้าง จากการที่ต้องจัดงานกลางแจ้ง และต้องลุ้นเรื่องฝนฟ้ามาก่อน ก็ขอสารภาพตามจริงว่า "ของจริงแน่แท้" เพียงแต่..ไม่ใช่ว่า คิดจะไปปักก็ปักกันปุบปับง่ายๆ นะคะ
ที่เห็นกันจะจะคือ คนปักต้องท่องคาถาด้วยนะคะ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ไปจดจำหรอกค่ะว่า เขาท่องกันอย่างไร เพราะด้วยความที่ปราศจากคุณสมบัติที่จะปักตะไคร้ เลยขี้คร้านจะไปจดไปจำค่ะ
สืบเสาะจากกูเกิล ก็มีการระบุว่า การปักตะไคร้เป็นความเชื่อมาแต่โบราณ ยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่ามาจากไหน สามารถปักได้ 3 ต้น หรือ 7 ต้น โดยผู้ที่ประกอบพิธีจะต้องเป็น “สาวพรหมจรรย์” ที่ไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ นำตะไคร้ไปปักด้วยการปักปลายตะไคร้ลงดินชี้โคนตะไตร้ขึ้นฟ้า จึงจะทำให้ฝนที่ตั้งเค้ามาหยุดตกได้
ส่วนความเชื่อที่ว่า “ต้องปักปลายตะไคร้ และหงายโคนชี้ฟ้า” และจะทำให้ฝนหยุดตกนั้น เป็นนัยแห่งการ “ฝืนครรลองคลองธรรม” หรือ “ผิดธรรมชาติ” เพราะปกติแล้วการเพาะปลูกก็ต้องปักโคนลงดินเพื่อให้เจริญเติบโต การที่ฝืนธรรมชาติเช่นนี้ จึงเชื่อว่าจะทำให้เทพเจ้าโกรธไม่พอใจ และดลบันดาลไม่ให้ฝนตกตามฤดูกาล หรือสั่งให้ฝนหยุดตกโดยทันที คล้ายๆ กับพิธีขึดของชาวล้านนา (ขึดคือความเชื่อที่เป็นข้อห้าม การกระทำในสิ่งที่เป็นอาถรรพ์ เสนียดจัญไร อัปมงคล)
สรุปว่า เรื่องนี้้เป็นปัจจัตตัง!! ใครจะเชื่อ ก็จะรู้ ก็ต้องรู้ด้วยตัวตนของตัวเอง ใครมาบอกใครมาเล่า ใครมาโพนทะนามันก็เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากค่ะ เอาเป็นว่า ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน อย่าลืมพกร่ม อันนี้ปลอดภัยปลอดโรคหวัดไว้ก่อน ดีที่สุดค่ะ.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตามโลก..ไม่ทันแล้ว!!!
โลกอินเทอร์เน็ตทำให้สังคมมนุษย์ไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารสามารถแพร่กระจายได้ในพริบตาด้วยคลิกนิ้วเดียว สังคมยุคดิจิทัลแบบนี้เพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน และมนุษย์ป้าเองก็เพิ่งปรับตัวปรับใจเดินไปกับการหมุนเปลี่ยนนี้ได้เมื่้อเร็วๆ นี้เอง
ความปลอดภัย..ของนักท่องเที่ยว
เป็นเรื่องเป็นราวกันอีกแล้วว่า นักท่องเที่ยวจีนพากันบอกยกเลิกทริปเที่ยวไทย อันเนื่องมาจากข่าวใหญ่โต นายหวัง ซิง (Wang Xing) หรือ ซิงซิง (Xing Xing) นักแสดงชาวจีน วัย 31 ปี ถูกกลุ่มค้ามนุษย์หิ้วตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังประเทศเมียนมา โดยผ่านช่องทางบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา แถว อ.แม่สอด จ.ตาก
ละเลิก..หวังลมๆแล้งๆ
หมดไปอีกปีหนึ่งแล้ว คุณเคยลองทบทวนตรึกตรองหรือไม่ว่า ปีที่ผ่านไปนั้น สิ่งที่คุณเคยหวังและอยากให้เป็นนั้น มันสำเร็จสมอารมณ์หมายมากน้อยเพียงใด หรือมันยังคงย่้ำอยู่ในโหมด "ความหวัง" ต่อไป
คอนเทนต์...คนวัยตกกระ
เมื่อใกล้จะหมดเวลาไปอีกปี ถือเป็นวัฒนธรรมตามปกติกับช่วงเวลานี้ที่เพื่อนสนิทมิตรสหายจะนัดกันไปกินข้าวกันสักมื้อเป็นการส่งท้ายปี หรือไม่ก็เพื่อฉลองต้อนรับปีใหม่
ไชน่าทาวน์..แห่งใหม่
กลายเป็นถนนทำเลทองสมชื่อแล้วในยามนี้ สำหรับถนนบรรทัดทอง ในเขตปทุมวัน ที่ขนานกับถนนสวนหลวงและสามย่าน
เตรียมตัวให้พร้อม..ช่วงเทศกาล
ไม่ได้มาชวนคุยเรื่องสุขภาพร่างกาย ที่จำเป็นต้องพร้อมถ้าจะออกเที่ยว เพราะอายุปูนนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องใส่ใจดูแลตัวเองก่อน จึงจะตัดสินใจว่า จะก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อท่องเที่ยว มิเช่นนั้นไปเจ็บป่วยกลางทาง นอกจากทำให้ตัวเองเซ็งเป็ดแล้ว ยังส่งผลกระทบทำให้ก๊วนแก๊งเพื่อนๆ พลอยเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย