ต้องบอกว่า “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet” ที่ลุ่มๆ ดอนๆ มาโดยตลอด หากยึดตามที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ผู้บริหารชาติผ่านสื่อสังคมออนไลน์เลียนแบบ “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ตีปี๊บล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 24 ก.ค. ว่ารัฐบาลพร้อมสำหรับก้าวแรกของโครงการ Digital Wallet หลังจาก “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และ รมว.การคลัง พร้อมด้วย “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” และ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.การคลัง ร่วมกันแถลงข่าวแล้วก็ต้องบอกว่าได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างยิ่ง เพราะ สะท้อนถึงการทำงานของรัฐบาลและ “เศรษฐา” ว่ายิ่งกว่าคิดไปทำไป และดูเหมือนเด็กเล่นขายของเข้าไปใหญ่...๐
ดูง่ายๆ ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา “เศรษฐา” การันตีเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าวันที่ 24 ก.ค. จะแถลงใหญ่ด้วยตัวเอง มีรายละเอียดครบในจบเดียว พร้อมตอบข้อซักถามและสงสัยต่างๆ
ซ้ำร้ายก่อนแถลงที่ “เสี่ยนิด” โพสต์เฟซบุ๊กและเอ็กซ์ก็ตอกย้ำเรื่องดังกล่าวว่า “แถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ให้พี่น้องประชาชนจะได้รับทราบรายละเอียด และความชัดเจนตั้งแต่การลงทะเบียน การยืนยันตัวตน และการตรวจรับสิทธิ์” แต่พอถึงการแถลงจริงๆ หนึ่ง เจ้าตัวเบี้ยวหนีแถลงไปประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ สอง การแถลงของทีมวายุภักษ์นั้นก็เรียกว่าเป็นการเก็บเล็กผสมน้อยของของข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ผ่านมา และสาม ที่เรียกว่ากลับกลอกหลอกดาวก็คือการใช้จ่าย จากเดิมที่บอกว่าขยายไปทั่ว แต่สุดท้ายก็แค่ในอำเภอที่ผู้ถือบัตรประชาชนและผู้ถือสมาร์ทโฟนมีอย่างเป็นทางการเท่านั้น...๐
แล้วที่ขำไม่ออกเข้าไปอีก ในการแถลงครั้งนี้ก็ไม่ได้จบครบในทีเดียว แต่ ต้องมีการแถลงกันอีกสองรอบ ซึ่งรอบต่อไปก็ประมาณกลางเดือนกันยายน โดยจะเป็นการแถลงในส่วนของผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ขนาดโครงการของรัฐบาลยังแบ่งแยกประชาชนเป็น 2 ส่วน แถลงสองครั้ง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้มีความแตกต่างทางความคิดได้อย่างไร นี่ยังไม่นับรวมที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า ยังไม่รู้ว่าส่วนของ “พาณิชย์” จะแถลงเมื่อใด เวลาไหนอีก นี่หรือที่ “พิชัย” ตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎรบอกว่า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไม่ได้คิดไปทำไป แต่คิดมาตั้งแต่ต้น เพราะหากคิดมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 ก็น่าจะมีบทสรุปที่ชัดเจนนานแล้ว แม้จะสะดุดในเรื่องแหล่งเงินบ้างก็ตามที แต่นี่ดูเหมือนทำแบบขอไปทีเท่านั้น...๐
จึงไม่แปลกใจที่ “ศิริกัญญา ตันสกุล” แห่งพรรคก้าวไกลบอกว่า รู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่า “จะมีการแบ่งแถลงสามครั้ง ครั้งนี้เป็นการแถลงโดยรัฐมนตรี ซึ่งจะให้นายกฯ แถลงภายหลัง เท่ากับว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก แต่มีอะไรที่พูดได้ก็พูดไปก่อน ดังนั้น เมื่อไม่คาดหวัง จึงไม่ผิดหวัง” เรียกว่า “เจ๊ไหม” มองขาด เพราะเป็นการแถลงแบบวนลูปเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง แทบไม่ต่างจากการเที่ยวตะโกนตอนช่วงเลือกตั้งให้ช่วยไล่ 3 ลุงอย่างไรอย่างนั้น แต่ไปๆ มาๆ ตอนนี้ชาวบ้านร้านถิ่นกวักมือ เรียกหา “ลุงตู่” ให้กลับมาทำ “คนละครึ่ง” ดีกว่า เพราะใช้จ่ายและเข้าใจง่ายว่า “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นพะเรอเกวียน ที่สำคัญไม่มีกฎหยุมหยิมว่าต้องใช้ในอำเภอเดียวกันด้วย...๐
ที่ “เศรษฐา” ชิ่งการไปแถลงเรื่องดิจิทัลฯ ครั้งนี้ ในสภากาแฟได้วิเคราะห์วิจารณ์ว่า เจ้าตัวอาจรู้ตัวแล้วว่าอยู่ไม่ครบ 4 ปีแน่ เลยทิ้งทุ่นไปล่วงหน้า เพราะล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญได้ดีเดย์แล้วว่าใน วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2567 จะมีการลงมติและแถลงถึงปมที่ “เศรษฐา” เสนอชื่อ “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่าจะออกหมู่หรือจ่า ซึ่งหากออกทางร้าย “เศรษฐา” ก็โบกมือลาเก้าอี้ไป ในขณะที่พรรคเพื่อไทยที่สภาพเป็น “เตี้ยอุ้มค่อม” นั้นก็สามารถโยนเรื่องดังกล่าวให้ “เศรษฐา” ไปด้วยได้ เพราะเป็นผู้โพล่งเรื่องดังกล่าวคนแรกในเวทีหาเสียงเลือกตั้ง...๐
ทิ้งท้ายด้วยเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกที่ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ได้แถลงข่าวไปล่าสุดโดยเปิดไทม์ไลน์การบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกในปลายปี 2570 และเร่งเปิดให้บริการตลอดทั้งเส้นทาง ทั้งตะวันออกและตะวันตกให้แล้วเสร็จก่อน พ.ย.2573 นั้นใช้ส่วนใดคิด เพราะ การก่อสร้างสายตะวันออกเสร็จสิ้นแล้ว 100% เนื่องจากเริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 และตามกำหนดเดิมต้องเปิดบริการในปลายปี 2566 ด้วยซ้ำไป แต่นี่ต้องรอไปปี 2570 ชาวบ้านเขาบอกว่าจะรอให้ตะไคร่ขึ้นเสารถไฟฟ้า หรือสนิมจับสถานีกันแน่ แล้วที่ประชาชีข้องใจหนักเข้าไปอีก เพราะ การเปิดปลายปี 2570 หรือต้นปี 2571 เป็นการหวังผลทางการเมืองหรือไม่อย่างไร เพราะตอนนั้นก็เรียกว่าลูกผีลูกคนในช่วงหมดอายุรัฐบาล เลยจะสร้างผลงานให้เป็นที่ต้องตาต้องใจหรือไม่อย่างไรจ๊ะพ่อคุณ เพราะตอนนี้ ชาวบ้านเขาตั้งชื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้วว่า "โคตรรถไฟฟ้า 1 ทศวรรษ" จ้าพี่น้อง...๐.
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และอุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้่อแดง 24 พฤศจิกายน ภาพรวมผู้ใช้สิทธิ์บางตา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ประชาชนให้ความสนใจน้อยกว่าการเลือกตั้ง สส. เพียงแต่การเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้
บันทึกหน้า 4
22 พ.ย. ลุ้น ผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะ “รับ-ไม่รับ” คำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” หยุดพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จาก 6 กรณี ดังนี้ หนึ่ง “ทักษิณ” ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่า “พุธพิพากษา” ของแท้ โดยเฉพาะศาลอาญาที่ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง “สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี
บันทึกหน้า 4
ควันหลงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.)
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนจากผลกระทบปลายๆแถวพายุหม่านยี่ เสียงฟ้าร้องฟ้าคะนองอาจจะไม่มี แต่เสียงอื้ออึง "ทักษิณ" กลับมาแล้ว