โชคดี...ที่ตายก่อน!!!

เห็นข่าวคราวว่าด้วย หลานสาว ชาวไทยรายหนึ่ง...ซึ่งน่าจะเป็นปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้โดดเด่น โด่งดัง ใดๆ มาก่อนเลย แต่เมื่อเธอโพสต์คลิปวิดีโอ โดยตัวเธอเองนั่ง นับตัวเลข 1-2-3-4-5-6-7-8-9 มีดนตรีไฟฟ้าคลอเป็นเสียงประกอบ ที่คงจะไปสรุปว่าเธอกำลัง ร้องเพลง ไม่น่าจะได้ เพราะตัวเลขแต่ละตัวมันไม่ได้มีความสอดคล้อง ต้องกัน แบบที่พอจะจัดเป็น เนื้อเพลง อันจำต้องประกอบไปด้วย ฉันทลักษณ์ ไม่ว่าแบบไทยๆ หรือแบบสากล ก็แล้วแต่...

แถมดนตรีไฟฟ้า...ที่ว่ากันว่าออกมาในแนว แรป อะไรทำนองนั้น ก็แทบไม่ได้มีเสียงสูง-เสียงต่ำ เสียงเบส เสียงกลอง เสียงเครื่องสาย เครื่องเป่า ที่พอจะช่วยขัดเกลาให้เกิดความกลมกล่อมระหว่าง เนื้อร้อง-

-ทำนอง ให้พอเกิดความ ลงตัว ขึ้นมาได้มั่ง แต่สิ่งที่น่าตกตะลึง พรึงเพริด เอามากๆ จนต้องกลายเป็น ข่าวคราว ขึ้นมาจนได้ ก็เนื่องมาจากคลิปวิดีโอดังกล่าว ทำให้บรรดาชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ไม่น่าจะคุ้นเคยกับภาษาไทยเอาเลยแม้แต่น้อย จำนวนไม่รู้จะกี่ล้านต่อกี่ล้าน แห่มาดู มาชม กันถึง 60 ล้านวิว จนเป็นอะไรที่ดังระเบิดเถิดเทิง ระดับโกบิ๊ก โกอินเตอร์ ไปแล้วถึงขั้นนั้น!!!

จะด้วยเหตุเพราะความ แปลก ความ พิสดาร หรือความอะไรต่อมิอะไรก็มิอาจสรุปได้ แม้จะมีผู้พยายามแปลความ ตีความ ให้สำเนียงภาษาไทยบางวรรค บางประโยค อาจมีความคล้ายคลึงกับภาษาฝรั่งบางถ้อย บางคำ แต่นั่นก็ไม่น่าจะถึงกับสร้างแรงกระตุ้น แรงจูงใจ ในระดับอุจจาระแตก-อุจจาระแตนไปได้ถึงปานนั้น ความดังระเบิดเถิดเทิงของหลานสาวชาวไทยรายนี้ เลยทำให้คนแก่-คนชรา อย่าง อันตัวข้าพเจ้าเอง เลยได้แต่ มึนซ์ซ์ซ์ๆ-งงง์ง์ง์ๆ ระดับประมาณสี่-ห้าตลบ หรือแปดตลบ สิบตลบ เอาเลยก็ว่าได้ พูดไม่ออก-บอกไม่ถูก ว่ามันเป็นเพราะเหตุไร? แบบไหน? อย่างไร? ทำไม? ยังไง? มันถึงได้ทำให้ชาวไทย ชาวเทศ เกิดความสนอก-สนใจ ซี้ดๆ ซ้าดๆ กับสิ่งที่แทบไม่มีอะไร หรือแทบไม่เป็นเรื่อง-เป็นราวใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย??? ??? ???

แต่ถึงจะมึนซ์ซ์ซ์ๆ-งงง์ง์ง์ๆ ไม่เข้าใจ ไม่อาจหาคำอธิบายต่อความเป็นไปในลักษณะดังกล่าวได้อย่างกระจ่างแจ้ง ชัดเจน แต่ก็พอช่วยให้ หมดข้อสงสัย ต่อหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ทยอยอุบัติขึ้นมาบนโลกใบนี้ และในสังคมไทย ครั้งแล้ว-ครั้งเล่า ไม่ว่าความสับสน อลหม่าน ความโหดเหี้ยม แห้งแล้ง ไร้หัวจิต-หัวใจ ฯลฯ จนทำให้โลกทั้งโลกกลายเป็นโลกที่ อันตราย ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โลกที่ใกล้จะเขยิบเข้าสู่ สงครามนิวเคลียร์ ยิ่งเข้าไปทุกที ขณะที่ความเมตตา ปรานี ความเห็นอก-เห็นใจผู้อื่น แทบจะหายเกลี้ยง แม้จะเห็นเด็ก ผู้หญิง คนชรา ฯลฯ ถูกเข่น ถูกฆ่า ถูกล้างเผ่าพันธุ์อยู่ต่อหน้าต่อตาก็ตาม...

หรือทำให้หมดข้อกังขา ว่าเหตุใดพรรคการเมือง คนรุ่นใหม่ อย่างพรรค ก้าวสะเปะสะปะ เขาถึงได้คะแนนนิยมปาเข้าไปคราวละเป็นสิบๆ ล้าน หรือทำให้พรรคกลางเก่า-กลางใหม่ อย่างพรรค เผาไทย ถึงได้กวาดเก้าอี้ สส.คราวละร้อยขึ้น ไม่ได้เสื่อมทรุด เสื่อมโทรม มากมายซักเท่าไหร่ ทั้งที่ ห่วยแตก มาโดยตลอด ขณะที่พรรคการเมืองที่เพียรพยายามคิดดี ทำดี ทั้งหลาย ต่างทำท่าว่าน่าจะ สูญพันธุ์ ไปเป็นแถบๆ รวมทั้งเพราะเหตุใดถึงทำให้การ ทำดี-ได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดี-มีถมไป ชักจะกลายเป็น มาตรฐาน ของสังคมและผู้คนยิ่งเข้าไปทุกที...

คือสรุปง่ายๆ ว่า...โลกใบนี้และสังคมไทยทุกวันนี้ มันเป็นอะไรที่แปลกแยก แตกต่าง ไปจากสิ่งที่คนแก่-คนชราอย่าง อันตัวข้าพเจ้าเอง เคยรู้จัก คุ้นเคย แบบชนิดพอๆ กับ หลังตีน และ หน้ามือ หรือ หน้ามือ กับ หลังตีน ก็แล้วแต่จะว่ากันไปจนชักรู้สึกว่าตัวเองคล้าย มนุษย์ต่างดาว ที่เผอิญเกิดอุบัติเหตุยานอวกาศตก เลยต้องเคว้งๆ คว้างๆ ต้องเจอความแปลก ความพิสดาร ความวิตถาร และความอะไรต่อมิอะไร ชนิดแทบหาคำตอบ คำอธิบายใดๆ กับตัวเองแทบไม่ได้ สิ่งที่เคยสามารถนำมาใช้เป็น มาตรฐาน ในการให้คำนิยามต่อ ความดี-ความงาม-และความจริง มันเกิดการเปลี่ยนแปลงไปแบบคนละเรื่อง-คนละม้วน...

ด้วยเหตุนี้นี่เอง...แทนที่จะรู้สึกโศกเศร้า เสียใจ หวนไห้ อาลัยหา ต่อบรรดาญาติโก โหติกา พรรคพวกเพื่อนฝูง มิตรสหายที่ดันเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง ไปก่อนกำหนดการ แต่กลับรู้สึก อิจฉา ขึ้นมานิดๆ ว่าอะไรจะ โชคดี...ที่ตายก่อน เช่นนี้ย่อมไม่มีอีกแล้ว เพราะไม่ว่าบรรดาเพื่อนฝูง ญาติสนิทมิตรสหาย จะไปสิงสถิตอยู่ ณ สถานที่แห่งใดต่อแห่งใดก็ตาม แต่นั่นก็น่าจะไม่ต่างอะไรไปจาก สวรรค์ชั้นฟ้า เมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่และเป็นไปภายในโลกใบนี้ หรือแม้แต่สังคมไทย อันชักจะเป็นอะไรที่อยู่ยาก-อยู่เย็น ยิ่งเข้าไปทุกที...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อริยสัจ 4...หลักการดีที่ควรใช้

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาพุทธมากกว่า 92% และในคำสอนของศาสนาพุธก็มีอริยสัจ 4 เป็นหลักที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ยุ่งเหยิงไปสู่ความสงบ

ปรับฮวงจุ้ยหรือ?

ไม่รู้จะเป็นเรื่องฮวงจุ้ยหรือกลัวฟ้า กลัวฝน กลัวไฟจะชอร์ตกันแน่ เพราะตั้งแต่ ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่

หรือจะรอให้ประเทศไทยเป็นรัฐล้มเหลว

สถานการณ์บ้านเมืองของไทยเรามีอาการน่าเป็นห่วง เพราะคนรักชาติที่มีอยู่มากกว่าคนชังชาติทำอะไรไม่ได้ กลายเป็นคนหมู่มากที่นิ่งเฉย (Passive Majority) ทำได้อย่างมากก็คือ

อนุสติจากไดโนเสาร์ตัวสุดท้าย!!!

อย่างที่ว่าไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั่นแหละว่า...โดยความเป็นไปของ กฎเกณฑ์ธรรมชาติ หรือจะเรียกว่า กฎวิทยาศาสตร์ ไปจนถึง กฎของพระผู้เป็นเจ้า

สว.เลือดสีกากี

ต้องยกให้เป็นช่วงเวลาของสภาสูง หลังจาก กกต.ประกาศรับรองการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน และรัฐสภาเปิดให้เข้ารายงานตัวเรียบร้อย โดยสัปดาห์นี้