ต้องบอกว่าอากาศยามนี้วิปริตแปรปรวนแทบไม่ต่างจากสถานการณ์ในบ้านเมืองไทย เพราะแม้ไม่มีวิกฤตใดๆ ในโลกหรือในประเทศอย่าง “วิกฤตต้มยำกุ้ง” หรือ “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” แต่เมืองไทยยามนี้ต้องบอกว่ายิ่งกว่าปากกัดตีนถีบ เพราะข้าวยากหมากแพง ค่าครองชีพแพงหูฉี่ ในขณะที่รัฐบาลเพื่อไทยของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ก็เอาแต่เที่ยวเดินสายถลุงเงินงบประมาณไปต่างประเทศและต่างจังหวัดแบบไม่ได้ประโยชน์โพดผลอะไรเลย นอกจาก ไป “เช็กอินถ่ายรูป” ให้ได้เป็นภาพข่าว ในสื่อออนไลน์และหนังสือพิมพ์เท่านั้น ...๐
ยิ่งล่าสุดก็มาเกิดเหตุฆาตกรรมชาวเวียดนามในโรงแรมกลางกรุงย่านราชประสงค์ขึ้นมาอีก ซึ่งต้องเรียกว่าแปลกอย่างยิ่ง เพราะเดิม "ย่านราชประสงค์” เป็นที่ของการชุมนุมและการสลายม็อบจนทำให้เกิดการสูญเสีย แต่นี่กลับมามีผู้เสียชีวิตในโรงแรมหรูถึง 6 รายซ้อน แม้ล่าสุด “ตำรวจไทย” จะสรุปคดีออกมาในเบื้องต้นว่าเป็นการฆาตกรรมล้างหนี้
โดยเสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ก็ตามที แต่ “เศรษฐา” นายกฯ ผู้ปากเปราะก็โพล่งออกมาทันควันว่าไม่เกี่ยวกับการก่อการร้ายและความหละหลวมในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเมื่อสื่อออนไลน์เผยแพร่ออกไปก็เล่นเอาสำนักงานโฆษกฯ ต้องออกมาประสานสื่อให้แก้ไขการพาดหัวของนายกฯ ว่า อย่าพาดหัวถึงการก่อการร้ายและการรักษาความปลอดภัย! ...๐
ก็ความปากเปราะของนายกฯ ผู้นำประเทศเองมิใช่เหรอ และ ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็มีทั้งการทวีตข้อความบน X และเฟซบุ๊กที่แทบจะเรียกแขกหรือผู้ไม่หวังดีมาแล้ว และล่าสุดก็เป็นเรื่องของ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่เจ้าตัวก็มาโพล่งล่วงหน้าว่าเริ่มลงทะเบียนวันที่ 1 สิงหาคม และให้เวลา 1 เดือนครึ่ง หรือ 45 วัน ทั้งที่กำหนดเดดไลน์การแถลงไว้เองในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ...๐
เอ่ยถึงการกู้เงินมาแจกแล้วก็ต้องบอกว่าตลกอย่างยิ่ง เพราะ “เศรษฐา” มาทำสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ยิ่งกว่าโฆษณา “มาเร็วเคลมเร็ว” ของประกันเสียอีก เพราะใช้เวลาแค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมงมาอ่านโพยว่าด้วยการกู้มาแจกแล้วก็ไป เรียกว่า “เสี่ยนิด” มาใช้เวลาขอเงินสภานาทีกว่า 2 พันล้านบาทเลยทีเดียว ...๐
ในขณะที่กระทรวงการคลังก็ออกมาชี้แจงแถลงไข แต่ดูเหมือนฝ่ายค้านจะซักไม่ตรงคำตอบของขุนคลังตั้งแต่ระดับ “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และ รมว.การคลัง รวมถึง รมช.การคลังอีก 2 ราย โดยเหมือน เป็นการแก้ต่างแก้ตัวมากกว่าข้อเท็จจริงเสียอีก โดยเฉพาะต้องบอกว่าย้อนแย้งในตัวอย่างมาก เพราะตามที่ “พิชัย” บอกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคิดมาตั้งแต่แรกไม่ได้คิดไปทำไปนั้น ทำไมในการกระทำจนป่านนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำเสียทีเล่า แล้วที่เคยบอกว่าจะไม่กู้มาแจกแล้วทำไมสุดท้ายถึงทำ ก็ไม่รู้ ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่นับวันรอได้ใบบริสุทธิ์ ที่เคยบอกว่ารัฐบาลปัญญาอ่อนกู้เงินมาแจกประชาชนนั้น นับรวมรัฐบาลนี้หรือไม่ ...๐
แล้วที่ขำไม่ออกเข้าไปอีกก็คือ การเตือนของพลพรรคฝ่ายค้านไม่ว่าจะเป็น “ศิริกัญญา ตันสกุล” จากค่ายก้าวไกล ที่บอกว่ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรีกำลังเอาคอพาดเขียง รวมถึง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” แห่งค่ายประชาธิปัตย์ บอกว่าสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายหลายข้อนั้น แต่คุณน้อง “จุลพันธ์” กลับ ตีขลุมเอาเองเฉยว่า การบอกว่าสุ่มเสี่ยงของฝ่ายค้าน แสดงว่าไม่ผิดกฎหมาย พระเจ้าจอร์จเล่นเอา “ผู้อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น” ถึงกับต้องทำหน้าเบ้กันเลยทีเดียวเชียวว่า เล่นแถแบบนี้เลยหรือ ก็คงต้องรอลุ้น “วิบากกรรม” กันต่อไป แต่ที่แน่ๆ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ในฐานะผู้เสียภาษีคนหนึ่งก็ไปยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อส่งต่อไปยังศาลปกครองในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่าองค์ประกอบความผิดชัดแจ้งแดงแจ๋ ซึ่งคงอีกไม่นานก็จะรู้ว่าหมู่หรือจ่า ...๐
ในขณะที่ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ยังต้องลุ้นกันนั้น แต่ดูเหมือนเรื่องของ การยุบพรรคก้าวไกลภายใต้บังเหียนของ “ชัยธวัช ตุลาธน” จะมาถึงบทสรุปเสียที หลังจากยืดเยื้อมาระยะหนึ่งแล้ว โดยศาลรัฐธรรมนูญได้มีการกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ และ ลงมติในวันพุธที่ 7 สิงหาคม เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น.แล้ว โดยศาลระบุว่ามีปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน แม้ล่าสุด “ก้าวไกล” จะออกอาการอยากให้มีการนำพยานปากเอกอย่าง “สุรพล นิติไกรพจน์” นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขึ้นให้การจนตัวสั่น แต่ก็ต้องเรียกว่าชอยซ์เก็บฉากแล้ว ต้นเดือนสิงหาคมก็ต้องมาลุ้นกันว่า “ก้าวไกล” จะมีหัวอกเหมือนพรรคเพื่อไทยที่ต้องตั้งพรรคใหม่ในรอบที่ 3 หรือไม่ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
"นายหัวชวน" ออกโรงตวัดใบมีดโกนกรีดปาก "นายใหญ่" เจ้าของตำแหน่ง สทร. "คุณทักษิณบอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ผมเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง
บันทึกหน้า 4
ต้องยกนิ้วให้ “โทนี่ วู้ดซัม” เสียจริงๆ เพราะขยับปากแต่ละทีนอกจากสร้างความฮือฮาให้สังคมแล้ว ยัง สร้างภาระให้กับลูกสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีอีกด้วย โดยล่าสุดก็ในการไปหาเสียงให้ “สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ศรีภรรยา “ยงยุทธ ติยะไพรัช” ที่จะลงชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.เชียงราย เมื่อวันที่ 5 ม.ค.นั่นแล ...๐
บันทึกหน้า 4
เมื่อวันอังคารมีการประชุม ครม.ครั้งแรกในปี 2568 หลังจากผ่านวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแก้ตัวแทน พ่อนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร
บันทึกหน้า 4
” นึกว่าจะอยู่ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง อบจ.เชียงราย แต่ที่ไหนได้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาในฐานะเป็นเจ้าของรัฐบาล โชว์บทบาทกำหนดทิศทางการทำงานของประเทศ การปรับ ครม. แถมยังด่ากราดคนเห็นต่างในหลายประเด็น
บันทึกหน้า 4
เปิดบันทึกด้วยความตะลึงตึงตึงกับตำแหน่ง "ที่สุด" อีกครั้งของนายกฯ หญิงอายุน้อยที่สุด แพทองธาร ชินวัตร เพราะมีทรัพย์สินอยู่ถึง 13,846 ล้านบาท และตัวเลขที่ออกนี้ วิเคราะห์วิจารณ์กันยกใหญ่ว่า อาจจะเป็นนายกฯ ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกนะเออ!! ...0
บันทึกหน้า 4
หลังกลับเข้าสู่โหมดการทำงาน-การใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ ตามปฏิทินประจำปี 2568 กันแล้ว ตลอดปี 2568 ที่เป็นปีมะเส็ง นักวิเคราะห์การเมืองหลายสำนักก็ยังมองว่า การเมืองไทยปีหน้า ก็ยังมีหลายเรื่องให้น่าติดตาม เช่น การเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 1 ก.พ.2568