รัฐบาล 'เมากัญชา'?

บ๊าย..บาย "๒๕๐ สว." เจ้าเก่า

ยินดีต้อนรับ "๒๐๐ สว." และ "๑๐๐ สว.สำรอง" เจ้าใหม่ ๓๐๐ คน

กกต.รับรองเรียบร้อยแล้ว เมื่อวาน (๑๐  ก.ค.๖๗)

ใครเป็นใครบ้าง ก็ตามรายชื่อ ๒๐ กลุ่มอาชีพ ที่ผ่านการเลือกไขว้ระดับประเทศ ซึ่ง กกต.ประกาศชื่อไว้แล้วนั่นแหละ

ที่มีปัญหาบ้าง ก็ที่ "กลุ่ม ๑๘ สื่อสารมวลชน"

ถูก กกต.แจกใบส้ม "ระงับสิทธิชั่วคราว" ๑ คน คือ "น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม" ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.อ่างทอง ลำดับที่ ๔

ประวัติระบุเป็น "ประชาสัมพันธ์อำเภอไชโย" ทำหน้าที่้ ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน

แต่ กกต.ตรวจพบ น.ส.คอดียะฮ์ เป็น "ที่ปรึกษานายก อบจ.อ่างทอง" จึงถูก "ระงับสิทธิชั่วคราว"

"ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์" อยู่ใน "บัญชีสำรอง" กลุ่ม ๑๘ จึงได้เลื่อนขึ้นมาเป็น สว.แทน

ว่าที่ พ.ต.กรพด อดีตเป็น "ประธานรุ่น ๕" หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร ของ กอ.รมน.

ดังนั้น ๑๑-๑๒ ก.ค.นี้ ..........

ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ทั้ง ๒๐๐ คน ไปรายงานตัว รับหนังสือรับรองที่ "สำนักเลขาธิการวุฒิสภา" ณ สัปปายะสภาสถาน ย่านเกียกกาย ได้ตั้งแต่  ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น.

อยากได้หน้า จึงนำมาบอก จะเอารายชื่อ ๒๐๐ สว.มาลง แต่ยาวเกิน หาดูตรงอื่นละกัน

ก็ให้กำลังใจ กกต.นะ รู้แหละ ประกาศก็ถูกรุมกินโต๊ะ ไม่ประกาศก็ถูก ฉะนั้น ก็ผ่าหมากไปเลยนี่น่ะ ถูกแล้ว

ขืนเอา "ถูกใจ-ไม่ถูกใจใคร" มาเป็นตัวตั้ง  ชาติหน้าบ่ายๆ ก็ไม่ถูก เพียงให้ถูกตาม "ขั้นตอนกฎหมาย" เท่านั้น เป็นใช้ได้

"ตามสอย-ตามเสียบ" เป็นงาน ๗ เสือ กกต. ท่านก็ตามสอย-ตามเสียบให้มันเนี้ยบถึงใจพระเดชพระคุณก็แล้วกัน

กกต.น่ะ ไม่น่าห่วงหรอก.......

รัฐบาลมีปลอกคอของท่านพี่เศรษฐา ณ เพื่อไทย นี่ซี...น่าหวง ห่วง ห้วง ที่สุด!

ใครจะจมูกไวเท่าพวกเห็บเป็นไม่มี ยังไม่ทันตาย เริ่มมีง่องแง่งภายใน เห็บเล็ก-เห็บใหญ่ เริ่มกระโดดหนีแล้ว เห็นมั้ย?

จากเลือกเศรษฐาเป็นนายกฯ คนไทยได้เป็นเศรษฐี

ไม่ทันถึงปี ....

เศรษฐากลายเป็นนายกฯ แห่ง "ทุ่งท้อแท้" ของคนทั้งแผ่นดินไปแล้ว!

๑ ปี "เพื่อไทย" พานาวาประเทศลอยเท้งเต้งชนิด "ไม่รู้ทิศ-ไม่รู้ทาง" ออกปากอ่าว

รู้แต่ "ซอฟต์ พาวเวอร์" เพื่อการบริโภค

ตีหัวเข้าบ้านก่อน ๕ พันล้านแล้ว จากนั้นจ้องสเต๊กชิ้นโต "กู้มาแจก" ๕ แสนล้าน นโยบายหลักนำชาติ-นำคนไทยให้เป็นเศรษฐี

นี่เรื่องของกู "คนขี่้เสือ"

เศรษฐกิจจะพัง หนี้ท่วมประเทศ นักลงทุนหนี รัฐบาลไม่มีความชัดเจนซักเรื่อง ของแพงทั้งแผ่นดิน วัว-ควายกินหญ้า แต่คนไทยกำลังจะเป็นห่านฟ้า-กินยุง

นี่เรื่องของมึง "คนตาบอด"

อุ๊ย...เจ็บจี๊ด!

เจ็บ แต่ไม่เข็ด ใครจะทำไม เหนือกฎหมาย-เหนือคุก-เหนือปฐพี คือใคร...ก็ให้มันรู้กันไว้ซะบ้าง

ที่เรียงแถวยัน ตั้งแต่หัวถึงหาง ๔ แสนล้านมีแน่... แจกแน่ ถึงวันนี้ ๕ แสนล้าน หดเหลือ ๔.๕ แสนล้านซะแล้ว

๑.๗ แสนล้านที่จะล้วงจาก ธ.ก.ส. "ถอยซะแล้ว" กลัวคุก!

ก็ผายลมให้ชาวบ้านดมไปวันๆ นับวันลมที่ผายก็แผ่วลงเรื่อยๆ ลงท้ายก็คงไม่ได้แจก เพราะเจ๊งก่อน เชื่อเหอะ!

เรื่องเอา "กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด" ประเภท ๕ ห้ามมี ห้ามใช้ ห้ามปลูก ห้ามซื้อ ห้ามขาย ห้ามเสพ

ที่เกิดเป็นนโยบาย "นิมิตฉับพลัน" ของเศรษฐาและนายสมศักดิ์ รัฐมนตรีสาธารณสุข

ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านไปเสพอะไรมา ถึง "เพี้ยนฉับพลัน" ได้ขนาดนี้?

กัญชาถูกจับขังหม้อปิดผ้ายันต์ร่วม ๕๐ ปี  เพิ่งได้ผุด-ได้เกิด พ้นยาเสพติด ไปเป็นพืชเศรษฐกิจในทางการแพทย์ จากการเปิดผ้ายันต์มาปี-สองปี ในรัฐบาลที่แล้ว

รัฐบาลประยุทธ์ ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ร่วมเป็น ครม.ในตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม ท่านด้วย ร่วมเปิดผ้ายันต์กัญชา

แล้ววันนี้ จากอยู่พรรครัฐบาลประยุทธ์  โดดกลับมาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข พรรคเพื่อไทย

อ้าว...๑ ร่าง ไหง ๒ วิญญาณกลับกลอกซะงั้นล่ะท่าน?

อยู่รัฐบาลประยุทธ์ เห็นด้วย "เอากัญชาพ้นยาเสพติด"

พอมาอยู่รัฐบาลเพื่อไทย กลับบอกว่า...

"กัญชาทำให้คนไอคิวลดลง" ต้อง "เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด" เหมือนเดิม?!

เสพหรือเปล่าเนี่ย...ถามตรง ไอคิวถึงได้ปรับเปลี่ยนเร็วขนาดนี้

ก็เข้าใจ ตาม "พ.ร.บ.ยาเสพติด" พ.ศ.๒๕๖๔  ที่ออกเป็นกฎหมายหลัก บอกว่าหลังจากถอดพืชกัญชาพ้นบัญชียาเสพติดไปแล้ว

ต้องมี "กฎหมายลูก" ออกมารองรับภายใน ๒+๑ ปี ไม่งั้น พ.ร.บ.จะสิ้นผลบังคับ

"ธันวา.๖๗" นี่แหละ จะครบ ๒+๑ ปี ที่ต้องมีกฎหมายลูกรองรับ ไม่งั้น หมดโปร "กัญชาพ้นยาเสพติด"

กฎหมายหลัก "พ.ร.บ.ยาเสพติด" พรรคร่วมยุครัฐบาลประยุทธ์โหวตสนับสนุน

แต่ "พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง" กฎหมายลูก พรรคร่วมบางพรรค กลับไม่โหวต เรื่องจึงคาสภา

และพอดี นายกฯ ประยุทธ์ ประกาศ "ยุบสภา" เรื่อง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง" จึงตกร่องท้องช้าง ข้ามจากรัฐบาลโน้นมาถึงรัฐบาลนี้

รัฐบาลนี้ "พรรคภูมิใจไทย" เจ้าของเรื่องกัญชา ก็มาร่วม ครม."เศรษฐา-เพื่อไทย" เหมือนนายสมศักดิ์

เมื่อเคยร่วมรัฐบาลผลักดันกัญชาให้พ้นบัญชียาเสพติดมาด้วยกัน พอมาอยู่พรรคเพื่อไทย ร่วม ครม.กันอีก

ในฐานะรัฐมนตรีสาธารณสุข รวมทั้งนายกฯ เศรษฐา ในฐานะพรรคแกนนำ ไหนๆ กัญชาก็พ้นยาเสพติดแล้ว

มีการนำไปใช้ทางการแพทย์ การวิจัย ทางอาหารและยา กัญชาเป็นพืชทางธุรกิจเศรษฐกิจอุตสาหกรรมขยายเป็นวงกว้าง

ทำไมรัฐบาลเศรษฐาจึงไม่ต่อยอด นำ พ.ร.บ.กัญชา-กัญชงกับอีก ๒-๓ ฉบับที่เกี่ยวเนื่องกัน และที่ค้างจากสภาก่อน มาต่อให้จบในรัฐบาลนี้ล่ะ?

ดันกลับลำ ๓๖๐ องศา จู่ๆ บอก "ต้องเอากลับไปเป็นยาเสพติด" เพราะใช้แล้ว ทำให้ไอคิวต่ำ!?

ถึงวันนี้ .......

กัญชา มันเลยขั้นตอนที่จะพูดเรื่องคุณ-เรื่องโทษไปแล้ว เพราะถ้าพูด อ้างได้ทั้ง ๒ ด้าน ไม่มีทางจบ

เหมือนข้าว กินแล้วเติบโต ก็ถูก กินแล้วตาย ก็ไม่ผิด จะผิด-จะถูก มันอยู่กับคนกิน ว่ากินแบบไหน ขนาดไหน อย่างไรตะหาก

กัญชา ก้าวข้ามยาเสพติด ไปสู่พืชเศรษฐกิจทางยา-ทางอาหารและทางวิจัยไปแล้ว

ก็ดันตูดให้มันพ้นขอบนรกขึ้นสวรรค์ไปซี

จะดันกลับให้มันลงไปนรกอีกเพื่ออะไรล่ะ เป็นรัฐบาลมาจะครบปี แล้วมาอ้างกฎหมายหลักจะหมดโปร

จำเป็นต้องให้ "คณะกรรมการยาเสพติด" ของสาธารณสุข และ "คณะกรรมการป.ป.ส." เลื่อนไหลไปตามตัณหาการเมือง

เขาต้องการให้กลับไปเป็นยาเสพติด ก็ชงเรื่องให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

ให้รัฐมนตรีสาธารณสุข คือให้นายสมศักดิ์ ลงนามในหนังสือประกาศให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท ๕ ตาม "พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ" พ.ศ.๒๕๒๒ ตามเดิม โดยไม่ต้องนำเข้า ครม.

นายสมศักดิ์ อ้างจะหมดโปร ๓ ปี ตาม พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.๒๕๖๔ สมัยรัฐบาลประยุทธ์

ที่ประกาศให้ยกเลิกกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหลายฉบับ รวมทั้ง "พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒" คือฉบับเดิมด้วย

โดยมีเงื่อนไขว่า ภายใน ๒+๑ ปี ต้องมีกฎหมายลูกออกมารองรับ ถ้าไม่มี ภายใน ๓ ปี ก็ต้องให้เป็นไปตามกฎหมายฉบับเดิม!

นายสมศักดิ์ก็ฉลาด รอบรู้กฎหมายนี้ แทนที่จะเสนอให้รัฐบาลเศรษฐาผลักดันให้กฎหมายลูกผ่านสภา กลับไม่ทำ

นอกจากไม่ทำ...

ยังประกาศนำร่องตั้งแต่ต้นปี "จะให้นำกลับไปเป็นยาเสพติด"!?

นายอนุทิน-ภูมิใจไทย แม้ร่วมรัฐบาล ก็เหมือนน้ำท่วมปาก จะพูดอะไรได้ ในเมื่อเห็นๆ กันอยู่ว่าต้องการความช่วยเหลือในความเป็นพรรคร่วม

เพื่อไทย นอกจากไม่ช่วยแล้ว ยังเอาตีนแห่งการวางเฉย กดหัวลงไปให้จมน้ำตายเช่นนี้ โดยนายสมศักดิ์ให้เหตุผลซะเท่ว่า

"ผมเองเอาใจช่วยมาแต่แรกแล้ว แต่ไปแล้วไม่ผ่าน ก็ไม่ใช่ความผิดของผมเอง จึงต้องรับผิดชอบต่อสังคม"

รับผิดชอบของเขา คือให้คณะกรรมการยาเสพติดและ ป.ป.ส.รีบชงเรื่องมาให้เขาเซ็น แทนการช่วยออกกฎหมายซักฉบับรองรับสถานะกัญชาให้พ้นยาเสพติด

คณะกรรมการยาเสพติด สาธารณสุข และคณะกรรมการ ป.ป.ส. ก็ช่างเหลือเกิน

กัญชาที่พ้นยาเสพติดไปแล้ว ก็คณะกรรมการชุดเดียวกันนี้แหละเห็นดี-เห็นงามให้พ้น

แล้วมาวันนี้ พออำนาจเปลี่ยน-นายเปลี่ยน แหม...เขาให้เป็นยาเสพติด จากที่เคยเห็นดี-เห็นงามให้พ้น ก็รีบเห็นทรามตามนายใหม่ว่านำกลับไปเป็นยาเสพติดทันที

ช่าง "ไวสี-ไวแสง" สมมาตรฐาน "ไม้หลักปักขี้เลน" ในระบบข้าราชการไทยซะจริงๆ

ผมน่ะ คนอาภัพ ไม่ถูกโฉลกกัญชา แตะแล้วจะเป็น-จะตาย แต่กับบางคนเขาถูกโฉลก รักษาทางอื่นไม่หาย หันมาใช้กัญชา เห็นหน้าระรื่นจนอิจฉา

ทุกอย่าง "มีคุณก็มีโทษ" กระทั่งรัฐบาลก็เถอะ

กัญชาเมื่อเดินไปสู่พืชเศรษฐกิจทางยาและอาหารแล้ว ก็ควรสนับสนุนไปให้สุด

อย่าหยุด เพียงผลประโยชน์ "เฉพาะกลุ่ม" ผูกขาดเลย!

-เปลว สีเงิน

๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง