อยากจะขำให้ฟันโยก สำหรับ การข่าวแถลงของ “ชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาอวย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ว่า ได้รับการชื่นชมในความสำเร็จของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางทุกกลุ่ม โดยมีทั้งการแจกเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการ โดยรัฐบาลยังคงหลักเกณฑ์จ่ายเงินเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน เริ่มวันแรกพุธที่ 10 ก.ค.2567…๐
ไม่รู้ว่า “โทรโข่งชัย” มัวแต่เข้าร้านสะดวกซื้ออยู่จนเพลิน หรือไม่ได้ลืมตาดูโลก เพราะเงินช่วยเหลือทั้งหลายนั้นก็ไม่ได้คิดริเริ่มในสมัยของรัฐบาลนี้แต่ประการใด โดยหากไล่เรียงกันนั้น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุก็เกิดในปี 2535 ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร ในขณะที่ “เบี้ยผู้พิการ” นั้นก็เริ่มในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนเงินอุดหนุนบุตรนั้นก็เริ่มในปี 2558 ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จ้าพี่น้อง…๐
ที่สำคัญการมาตีกินเรื่องดังกล่าวก็เหมือนตบหน้ารัฐบาลด้วยกันเอง เพราะในตอนหาเสียงนั้น แต่ละพรรคการเมืองก็เคยเอ่ยอ้างเรื่องของ “เบี้ยผู้สูงอายุ-เบี้ยคนพิการ” ว่าจะมีการปรับขึ้น แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีการขยับแม้ซักกระผีก แล้ว “ชัย” ยังกล้าที่จะเอามาโอ่เป็นผลงานแห่งความสำเร็จ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเป็น “โฆษกสายแข็ง” ที่ไม่มีใครกล้าแตะกล้าปลด แม้จะมีรายชื่อว่าจะถูกเด้งเป็นคนแรกตั้งแต่การปรับ ครม.เศรษฐา 1 แล้ว เพราะเมื่อรู้ว่าใครส่งเข้าประกวดก็ต้องได้แต่ต้องทำใจกันเท่านั้น...๐
แล้วก็เหมือน “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” นั่นแล เพราะผลงานของพรรคเพื่อไทยที่นับวันจะสาละวันเตี้ยลงๆ ก็ดันมาเจอปัญหาไม่ซ้ำแต่ละวัน ล่าสุด “วัน อยู่บำรุง” เจ้าของสโลแกนใจถึงพึ่งได้ ก็ได้ประกาศไขก๊อกพ้นเก้าอี้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีผ่านเฟซบุ๊ก โดย “วัน” ก็ระบุว่า เพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ออกอาการหลังจากมีภาพตัวเองไปโผล่ในบ้านของ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งที่พรรคสนับสนุน “ชาญ พวงเพ็ชร์” ชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นคู่แข่งของ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์”...๐
งานนี้ต้องถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบของลูกผู้ชายตัวจริง เพราะจริงๆ แล้วหากอ่านและพิเคราะห์ตามเหตุผลของ “นายวัน” ที่ เขียนบนเฟซบุ๊ก ก็ต้องบอกว่าไม่มีอะไรผิดมารยาทหรือผิดกฎของพรรคแต่ประการใดเลย เพราะเป็นการแสดงความรัก ความผูกพันของครอบครัวอยู่บำรุงและธูปกระจ่างมากกว่า เลยทำให้ดอกเตอร์กฎหมาย ผู้อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็นอย่าง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” สส.บัญชีรายชื่อ ที่บอกให้พรรคขับออก จะได้ไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ โดยบอกว่า “ผมตกได้ แต่ผมต่ำไม่ได้”...๐
ทำให้ “สรวงศ์ เทียนทอง” สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาแก้ต่างๆ ให้เจ้าของพรรคอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” ว่าไม่ได้บีบแต่ประการใด แค่ตำหนิไม่ได้รุนแรงเท่านั้น โดย “สรวงค์” ยังยกคำพูดของหัวหน้าพรรคว่า “พี่ก็ต้องหาทางออกให้อิ๊งค์ด้วย ไม่งั้นอิ๊งค์ก็ปกครองคนไม่ได้” พิโธ่! แบบนี้ไม่เรียกว่าบีบเหรอจ๊ะ แล้วที่ขำไม่ออกไปอีกคือ แม่บ้านพรรคเพื่อไทยยังบอกว่าต้องแยกส่วนกับกรณี “ดร.เหลิม” เรียกร้องให้ขับออกจากพรรค พร้อมยังบอกอีกว่า “แพทองธาร” จะหาโอกาสไปบ้านริมคลอง ไม่รู้ว่า “สรวงศ์” หลับหูหลับตาหรืออย่างไร เพราะเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ที่มีข่าว “เฉลิม” ขอตัดขาดกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ก็เคยได้ยินประโยคนี้มาจาก “แพทองธาร” แล้วรอบหนึ่ง แล้วรอบนี้ก็ยังฉายหนังม้วนเก่าอยู่ “พี่เหลิม” ไม่ใช่หัวหลักหัวตอนะพ่อคุณแม่คุณ...๐
เอ่ยถึงพรรคเพื่อไทยแล้ว ไม่พูดถึงร่างทรงอย่าง "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ เพราะในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประจำสัปดาห์ ก็ได้พิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 40 คน ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ "เศรษฐา" สิ้นสุดลงหรือไม่ จากปมเสนอชื่อ "พิชิต ชื่นบาน" เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็กำหนดนัดพิจารณาคดีต่อไปในวันที่ 24 ก.ค. ก็เป็นไปตามที่ "นครินทร์ เมฆไตรรัตน์" ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เคยบอกไว้นั่นแลว่า เรื่องใหญ่ดังกล่าวจบภายในเดือน ก.ย.นี้ เรียกว่ามีเวลาให้ "เสี่ยนิด" ใช้เวลาที่เหลือและงบประมาณของแผ่นดินในการทัวร์เมืองไทยและต่างประเทศให้ถ้วนทั่วนั่นเอง...๐.
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
หลังออกมาตีกินผ่านนิด้าโพลของ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ว่ารัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร จะอยู่ครบเทอม แต่ไม่ทันข้ามวันก็ถูกจับโป๊ะทันที เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “รัฐบาลอย่าหลงประเด็น:ผลนิด้าโพล” ระบุว่า ผมขออนุญาตวิเคราะห์ผลนิด้าโพล ประเด็นคำถาม
บันทึกหน้า 4
...บันทึกในวันที่สังคมไทยเปิดหูเปิดตาเสพเรื่องราวฉาวโฉ่ ทั้งเรื่องบนโต๊ะใต้โต๊ะ ซอกแซก ไปจนถึงใต้เตียงและบนโซฟา มากกว่าเรื่องราวความเป็นไปทางการเมือง!! มันก็แปลกดีนะ ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งหายไปจากแสงสีในโลกโซเชียลได้อย่างเนียนๆ เพราะชาวบ้านมัวแต่สนใจเรื่องผู้หญิง 2 คนในแวดวงสีกากีฟ้องร้องกล่าวโทษกัน และความเป็นไปของ "บอสพอล" ที่กำลังเล่นแร่แปรธาตุจาก "ผู้ต้องหา" กลายเป็น "ผู้เสียหาย" แบบไม่เกรงใจใคร
บันทึกหน้า 4
ไร้ปาฏิหาริย์! ครบรอบ 20 ปีคดีตากใบ มรดกบาปจากพ่อสู่ลูก "ในฐานะนายกรัฐมนตรีในวันนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และต้องขอโทษในนามรัฐบาลด้วย ก็จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก...และก็อยากให้ประชาชนทุกๆ คนไว้ใจว่า
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับปรากฏการณ์ “ดิไอคอน” แรงดีไม่มีตกเสียจริงๆ นอกจาก 18 บอสที่เป็นดารานำแล้ว ดูเหมือนเรื่องราวจะลามยิ่งกว่า “ไวรัสมาร์บูร์ก” ที่ระบาดใน “รวันดา” แต่สามารถควบคุมได้
บันทึกหน้า 4
ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อค่ำวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพ หารือประเด็นร้อนของพรรคร่วมฯ
บันทึกหน้า 4
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ฉลองปี 28 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 29 แต่ภารกิจยังมั่นคงเช่นเดิม เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เฝ้าเมือง และยืนหยัดต่อประชาชนอยู่เช่นเดิม