บันทึกหน้า 4

 “ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ใครจะวิจารณ์ได้ดี ไม่เท่าคนกันเองวิจารณ์ โดยเฉพาะผลงานรัฐบาลที่ผ่านมาเกือบ 1 ปี แต่ยังไม่มีอะไรออกมาเป็นรูปธรรม เว้นแต่เรื่องเกี่ยวกับตัวเองและพวกพ้อง  

ล่าสุด นายวรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดง ในฐานะที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรี (ภูมิธรรม เวชยชัย) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ใกล้ครบรอบ 1 ปีแล้ว ว่า เท่าที่ติดตามการทำงานของนายเศรษฐา เห็นว่าเป็นนายกฯ ที่ขยันลงพื้นที่เพื่อรับรู้ปัญหาของประเทศชาติและประชาชน รวมถึงเดินสายโรดโชว์ประเทศไปทั่วโลก พยายามดึงนักลงทุนรายใหญ่ๆ และนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา การทำงานเช่นนี้ถือว่าเป็นนายกฯ ที่ขยันที่สุดคนหนึ่ง 

แนวทางการทำงานที่ผ่านมาของนายกฯ ด้วยความขยันความอดทน แต่ไม่เร็วพอที่จะทำให้ประชาชนพึงพอใจได้ เชื่อว่าข้อมูลความเป็นจริงนายกฯ มีเพียงพอแล้ว วันนี้จึงอยากให้นายกฯ นำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ปรับใช้ และทวงถามความคืบหน้าข้อสั่งการต่างๆ ที่เคยให้ไว้ในรอบเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมากับข้าราชการผู้ที่รับผิดชอบแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงาน ว่าคืบหน้าไปถึงไหน มีอะไรต้องทำเพิ่มเติมบ้าง เพราะข้าราชการคือ แขน ขา มือ ที่คอยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล 

อยากให้นายกฯ แบ่งเวลาการลงพื้นที่มานั่งทำงานที่ทำเนียบฯ เรียกข้าราชการมารายงานความคืบหน้านโยบาย ไม่ใช่ตะบี้ตะบันลงพื้นที่โดยไม่เหลียวแลหลัง เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่มีอะไรต่างจากรอบปีที่ผ่านมา ประชาชนต้องการผลสำเร็จของนโยบาย ก็ถึงเวลาแล้วที่นายกฯ ต้องเร่งขันนอตกำชับตรวจการบ้าน ไม่ใช่สั่งแล้วสั่งเลย

ร้อนไปถึง นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาโต้ว่า ทุกคนในพรรคสามารถที่จะแสดงความคิดเห็นได้ในมุมมองของแต่ละคน แต่นายเศรษฐาก็ตั้งใจที่จะทำงานจริง และตั้งใจที่จะลงไปถึงปัญหาของพี่น้องประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ฟังแค่จากข้าราชการ ซึ่งหากผู้บริหารไม่ลงพื้นที่ไปสัมผัสถึงชาวบ้านเลยก็จะมองไม่เห็นถึงปัญหา ซึ่งเมื่อนายเศรษฐาลงพื้นที่ชาวบ้านก็จะนำปัญหามาสะท้อนให้ฟัง และท่านก็จะนำมาแก้ไข

ทั้งนี้การลงพื้นที่ของนายเศรษฐาก็มีเจตนาดีที่จะลงไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ซึ่งตนมองว่านี่คือข้อดี และอย่าลืมว่าเราเข้ามาในจุดที่บางปัญหาเป็นปัญหาเรื้อรัง คนที่เข้ามาทำงานใหม่ก็ต้องปรับแก้

 “นายกฯ ไม่ได้อยู่บนหอคอยงาช้างที่ไม่ลงไปรับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชน แต่ทุกวันนี้ลงพื้นที่ก็เพื่อลงไปรับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยไม่ว่าพื้นที่นั้นจะมี สส.ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะท่านเอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง” นายณณัฏฐ์กล่าว 

 “ผลงานก็ไม่มี ความดีก็ไม่ปรากฏ” จึงถูกนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำสถานการณ์ของไทย ไปโยงกับการเมืองประเทศอังกฤษ เรื่อง “ถอดบทเรียนการเลือกตั้ง อังกฤษกับไทย?” ระบุตอนหนึ่งว่า ผลการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษ ที่พรรคแรงงาน หรือพรรคเลเบอร์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ สามารถเอาชนะพรรคอนุรักษนิยม หรือพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ที่ครองอำนาจมายาวนานถึง 14 ปี แบบขาดลอย 409:119 ที่นั่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนอังกฤษเบื่อหน่ายการบริหารประเทศของพรรคอนุรักษนิยมอย่างหนัก เป็นยุคตกต่ำที่สุดของพรรคคอนเซอร์เวทีฟ

จากผลการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษ ทำให้หลายคนได้วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษเชื่อมโยงกับการเมืองของประเทศไทย ที่อยู่ในการแข่งขันระหว่างกลุ่มอนุรักษนิยมจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับระบอบทักษิณ พัฒนามาเป็นกลุ่มอนุรักษนิยมใหม่ แข่งขันกับกลุ่มเสรีนิยมหรือที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายก้าวหน้า

ถ้าดูผลการเลือกตั้งในปี 2562 และผลการเลือกตั้งปี 2566 ฝ่ายเสรีนิยมได้รับเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นตามลำดับ แม้กระทั่งล่าสุด ถ้าวัดจากผลการสำรวจของนิด้าโพล พบว่าพรรคก้าวไกลมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 49.20% ซึ่งสามารถพัฒนาความนิยมให้เพิ่มขึ้นเกิน 50% ได้ไม่ยาก และอาจจะเกิดแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ เช่นเดียวกับผลการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษในครั้งนี้... จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาอย่างยิ่ง.

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

22 พ.ย. ลุ้น ผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะ “รับ-ไม่รับ” คำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” หยุดพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จาก 6 กรณี ดังนี้ หนึ่ง “ทักษิณ” ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว

“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”

เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล

บันทึกหน้า 4

ต้องเรียกว่า “พุธพิพากษา” ของแท้ โดยเฉพาะศาลอาญาที่ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง “สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.)

บันทึกหน้า 4

สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้

บันทึกหน้า 4

บันทึกในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนจากผลกระทบปลายๆแถวพายุหม่านยี่ เสียงฟ้าร้องฟ้าคะนองอาจจะไม่มี แต่เสียงอื้ออึง "ทักษิณ" กลับมาแล้ว