ในด้านอารมณ์-ความรู้สึก..
เห็นจะต้องบอกตามตรงล่ะว่า..ผมพยายามที่จะ “อยู่กับปัจจุบัน” อย่างเต็มที่แล้ว แม้ไข่จะแพง น้ำมันจะแพง ก๊าซหุงต้มจะแพง และอีกสารพัดจะแพง
ผมก็จะไม่หวนคิด หรือประหวัดถึงอดีต ที่ดีๆ-ชั่วๆ ภายใต้การบริหารของรัฐบาลลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังจะพอหน้าชื่น ไม่ฝืดเคืองอะไรมากมายนัก!
นั่นด้วย.. “อดีต” ไม่ได้ช่วยอะไรได้ ประหวัดไปก็มีแต่จะทำให้เครียด เจ็บปวดรวดร้าวใจกับประชาธิปไตยที่ “โกงไม่เป็นไร ขอให้แบ่งกัน”..
จึงทำให้รัฐบาลที่โกงนั้นยังจะได้อำนาจบริหารประเทศชาติอยู่ต่อมา ด้วยประชาชนส่วนใหญ่ยินยอม พร้อมใจเทคะแนนให้ เพื่อหวังจะได้ “เศษเนื้อข้างเขียง” ที่พวกมันโยนให้!
แล้วนี่..เวลานี้พวกมันก็กำลังคิดหาทางที่จะเขมือบเนื้อก้อนโต (มหึมา) กันอีกแล้ว ถ้ามัวแต่นั่งรำพึงคิดถึงอดีตแบบซังกะตายไปวันๆ..
หรือคิดฝัน มโนภาพ จะมีรัฐบาล คณะรัฐมนตรีใหม่ และได้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ ลมๆ แล้งๆ ก็มีหวัง..เสร็จมันแน่!
ฉะนั้น..ก็จงอยู่กับปัจจุบัน และตั้งสติอ่านคำที่คุณจตุพร พรหมพันธุ์ ว่า.. “โครงการดิจิทัลวอลเล็ต แม้แจกเงินให้ประชาชนหมื่นบาท แต่ทั้งโครงการกลับมีส่วนต่างมากถึง 4 แสนล้าน
ที่สำคัญยังเป็นโครงการเชิงซ้อนกับการขายคอนโดฯ ให้ต่างชาติ 75% อยู่นาน 99 ปี แล้วยังถือครองที่ดินที่ตั้งของคอนโดฯ ด้วย จึงเท่ากับต่างชาติมาตั้งอาณานิคมในไทย
นายกฯ เป็นนักธุรกิจอสังหาฯ มาก่อน ถ้าไม่มีคนขวางแล้ว เราจะเสียเอกราช เพราะการถือครอง 75% แล้วรวมกับการถือผ่านนอมินีอีก
จึงเท่ากับต่างชาติยึดคอนโดฯ พร้อมแผ่นดินไทยได้ถึง 100% ยิ่งกว่านั้นการใช้นอมินีถือครองหมู่บ้านจัดสรรหรูหราทั้งหลายกลับนิ่งเฉย
รัฐไม่ยอมตรวจสอบ แต่กลับเปิดทางออกแบบโครงการให้ต่างชาติมาซื้อมากขึ้นไปอีก...การออกแบบโครงการของรัฐบาลล้วนมีมูลค่ามโหฬาร
โดยดิจิทัลวอลเล็ตมีส่วนต่างมากถึง 4 แสนล้าน ขายคอนโดฯ มีมูลค่าเกิน 4 ล้านล้าน ตั้งกาสิโนยังมหาศาลด้วยมูลค่านับล้านล้าน ส่วนแลนด์บริดจ์ไม่รู้มีมูลค่าที่ดินกี่ล้านล้าน
ดังนั้นผลประโยชน์มากจริงๆ ที่เข้าไปกอบโกยเงินเพื่อทำการยึดครองประเทศด้วยระบบจ่ายเงินผ่านเลือกตั้งที่อ้างเป็นประชาธิปไตย
เราต้องให้โครงการเหล่านี้เกิดไม่ได้..โครงการของรัฐบาลแต่ละเรื่องล้วนเต็มไปด้วยความละโมบ ทั้งแบ่งผลประโยชน์จากการตั้งบ่อนกาสิโน
แล้วยังจะครอบครองที่ดินในแลนด์บริดจ์ที่จะออกทะเลทั้งสองฝั่งจากอ่าวไทยไปอันดามัน จึงเป็นการสร้างประเทศซ้อนประเทศที่ถูกซุกไว้ในโครงการของรัฐ
เมื่อคนไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบกลับนิ่งเฉยไม่ทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ
แต่ปล่อยให้กลุ่มการเมืองเหิมเกริมกับผลประโยชน์ส่วนตัวที่จะได้รับเมื่อรัฐบาลผลักดันโครงการเหล่านี้ออกมา..
ประชาชนจึงต้องออกมาขวาง มาต่อต้าน มาหยุดยั้งการซื้อขายชาติที่ผ่านการออกแบบโครงการของรัฐบาล..
พี่น้องต้องมีความพร้อม ต้องลืมเรื่องส่วนตัว มารวมกำลังเพื่อเอาประเทศมาก่อน เราต้องเป็นทีมชาติไทย ไม่มีแบ่งฝ่าย เพื่อทำภารกิจให้ประเทศได้อยู่รอดและปลอดภัย
ดังนั้นในเดือนสิงหาคมนี้ ใครมีหน้าที่อะไร ถ้ารักชาติจริงก็ควรรู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไร”
ครับ..ผมรู้ ผู้อ่านรู้ อยู่ที่พี่ตู่นั่นแหละ..
จะยอมถือธงนำหน้ามั้ยล่ะ?.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนคลั่งชาติ?
สหายหนึ่ง.. นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่า.. “วาระนี้ไม่ใช่วาระที่พรรคการเมืองจะมาแข่งกันแสดงความจงรักภักดี”
ยินดีเดินตาม
คนวงการบันเทิงไปงานศพกันแทบไม่ได้พัก..
เมื่อทนายท้าดื่มเยี่ยว
ฟุตบอลมีรุกและรับ! “ทนายตั้ม” คุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ก็เช่นกัน เห็นเปิด “เกมรุก (ฆาต)” ใครต่อใครด้วยพละกำลังฮึกเหิมหวังขยี้ให้แหลกลาญอยู่แหม็บๆ..
หวังปาฏิหาริย์?
พรุ่งนี้-25 ตุลา. ถ้าพูดเอาอย่างตลกศิลปินแห่งชาติ คุณโย่ง เชิญยิ้ม ก็จะบอกว่า มะรืนก็จะเป็นวันที่ 26 ตุลา. ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ!
“เธอเห็นอสรพิษไหม?”
เรือนนอน.. นี่..พูดตามประสาทั่วไป ส่วนกรมราชทัณฑ์ได้เรียกเป็นทางการว่า “เรือนจำ” แต่จริงๆ มันก็ต่างกันแค่คำท้ายศัพท์เท่านั้นเอง!
หนังไทยคิดไม่ออกบอกผี
หนังไทยเรื่อง “ธี่หยด 2”.. นอกจากจะทำเงินแล้ว ยังสร้างประวัติศาสตร์ทำลายสถิติฉายวันเดียวทำรายได้เหนือ “หลานม่า” เหนือ “ธี่หยด ภาคแรก” สรุปก็คือเหนือทุกเรื่องตั้งแต่มีหนังไทยเกิดขึ้นในโลก!