วลี "สีกากีไม่มีแผ่ว" ดูจะไม่เกินจริงนัก ศึก "นายพล" ยังคงคุกรุ่นพร้อมจะลุกโชนตลอดเวลา "นายพัน-นายร้อย" ก็ไม่น้อยหน้า คำสั่งเด้งเข้ากรุแทบจะออกมาเป็นรายวัน เพียงแค่สัปดาห์เดียว 3 เสือ 4 เสือ 5 เสือโรงพัก ถูกคำสั่งมาช่วยราชการกราวรูด ตั้งแต่เหตุคาร์บอมบ์บริเวณหน้าแฟลตที่พักอาศัยตำรวจ สภ.บันนังสตา จว.ยะลา เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนแฟลตที่พักได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก จนชาวบ้านหวาดกลัวและขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทำให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ต้องเซ็นคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการและรักษาราชการแทนที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้ง พ.ต.อ.รณน สุระวิทย์ ผกก.สภ.บันนังสตา จว.ยะลา
ไป รรท.ผกก.บก.สส.จชต., พ.ต.ท.กิตติทัศน์ กันฉาย รอง ผกก.ป.สภ.บันนังสตา ไปช่วยราชการ ศปก.ตร.สน. และ พ.ต.ท.สมจิต หิ้นเพ็ชร์ สวป.สภ.บันนังสตา ไปช่วยราชการ ศปก.ตร.สน. พร้อมส่ง พ.ต.อ.พรหมพัฒน สนิทศรี รอง ผบก.ศฝร.ภ.9 มา รรท.ผกก.สภ.บันนังสตา อีกหน้าที่ พ.ต.ท.ประยุทธ โปจีน รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บันนังสตา ไป รรท.รอง ผกก.ป.ส.ภ.บันนังสตา อีกหน้าที่ และ ร.ต.อ.อัครวัสส์ สุขสมบูรณ์ รอง สวป.สภ.เบตง จว.ยะลา ไป รรท.สวป.สภ.บันนังสตา จว.ยะลา
นี่ก็งามหน้ากลางเมืองหลวง ชุดปฏิบัติการกลุ่มการปกครอง บุกทลายบ่อนการพนันใต้อาคารจอดรถ ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ย่านปิ่นเกล้า จับกุมนักพนันและของกลางได้จำนวนมาก ชนิดที่ถามใครแถวนั้นก็รู้ว่าที่นี่มีบ่อน แต่ "ตำรวจ" จะรู้หรือไม่ คงต้องรอการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง หลังจาก พ.ต.อ.ชัยพล เอกกุล รอง ผบก.น.7 ลงนามคำสั่งในฐานะ รรท.ผบก.น.7 ให้ 5 เสือโรงพักบางยี่ขันไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 7 โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม ทั้ง พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.สมศักดิ์ เกิดแสง รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.ชาคร เปรมฤดีเลิศ รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน, พ.ต.ท.มังกร พันธุระศรี สว.สส.สน.บางยี่ขัน และ พ.ต.ท.บรรเทา ชุ่มปลั่ง สวป.สน.บางยี่ขัน เพราะเท่าที่รู้การปล่อยให้บ่อนพนันเล่นกันอย่างโจ๋งครึ่มท้าทายกฎหมายครั้งนี้ ทำเอา บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง แม่ทัพใหญ่นครบาลควันออกหู เพราะทั้งสั่งทั้งกำชับห้ามมีบ่อนการพนันทุกพื้นที่ ก็ยังปล่อยให้เกิดเรื่องงามหน้า จนนอกหน่วยเข้ามาจับกุมจนได้ ๐
โครงการเออร์ลีรีไทร์ หรือโครงการปรับเปลี่ยนกำลังพลรุ่นที่ 25 ปีงบประมาณ 2568 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เปิดให้ตำรวจที่มีคุณสมบัติอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีอายุราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป แสดงความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการลงชื่อเข้าโครงการเสร็จสิ้นวันสุดท้ายวันนี้ (7 ก.ค.) เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณารายชื่อ ก่อนจะได้รับการอนุมัติให้ออกจากราชการภายในวันที่ 1 ต.ค. 2567 โดยเงื่อนไขผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะยังได้บำเหน็จบำนาญตามปกติ รวมทั้งผู้ที่ครองยศเดิมมาแล้ว 1 ปี ก็จะได้เลื่อนยศสูงขึ้น 1 ชั้นยศเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมโครงการปีนี้ มีนายพลคนดังอย่าง บิ๊กเจี๊ยบ-พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือ ผบช.ไซเบอร์ ซึ่งเหลืออายุราชการอีก 1 ปี เข้าร่วมเกษียณอายุราชการด้วย โดยตามเงื่อนไขคุณสมบัติ "บิ๊กเจี๊ยบ" ก็จะได้เลื่อนยศสูงขึ้น 1 ชั้นยศเป็นกรณีพิเศษด้วย ๐
สัปดาห์หน้าเข้าสู่ตารางงานของ “กองทัพ” ในการชี้แจงคำเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นัดหมายกัน 10 ก.ค.นี้ โดยมี “สุทิน คลังแสง" รมว.กลาโหมนำทีมทหารตบเท้าเข้ารัฐสภา เช็กชื่อยังไม่มีใครติดภารกิจ ทั้ง พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ แน่นอนว่าโครงการใหญ่ที่ถูกจับตามองย่อมเป็นโครงการซื้ออาวุธ โดยในงบฯ ปี 68 "กองทัพบก" มีโครงการจัดหารถเกราะล้อยาง VN1 ของบริษัทโนรินโก้จากจีน "กองทัพเรือ" มีโครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียง C-295 จำนวน 2 เครื่อง สนับสนุนภารกิจของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และแน่นอนว่าต้องมีการซักถามถึงโครงการ “เรือดำน้ำ” ซึ่งมีงบฯ ผูกพันต่อเนื่องอยู่ ขณะที่ “กองทัพอากาศ” มีโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนระยะที่ 1 ขั้นตอนต่อไป กมธ.จะส่งไปให้อนุกรรมาธิการฯ “ล้วงลึก” ในแต่ละโครงการ เพื่อลงมติ “ไฟเขียว” หรือ “แขวน” ไว้ก่อน ๐
ขณะที่ช่วงกลางเดือน ก.ค.นี้ เข้าสู่ "ไทม์ไลน์” ส่ง "โผโยกย้าย” ให้กระทรวงกลาโหมไปดูรอบแรก ก่อนที่ระดับคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพล หรือ 7 เสือ กห.จะเรียกประชุม โดยขั้นตอนแล้วเหล่าทัพจะพิจารณาการส่งออก-นำเข้ารายชื่อโดยเฉพาะในส่วนเหล่าทัพกับกองทัพไทย และสำนักงานปลัดฯ ก่อน ค่อยมาปิดจ๊อบที่ตำแหน่ง “ผบ.เหล่าทัพ” ที่จะมาแทนผู้ที่เกษียณ มีการประเมินว่าปัจจัยจากหลายส่วนที่อาจมีผลให้ “โผขยับ” ก่อนที่จะเข้าสู่บอร์ดโยกย้าย โดยเฉพาะ “ไฮไลต์” ในตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. ที่วิเคราะห์กันให้แซ่ดคือน่าจะมีอยู่ 2 สูตร ขึ้นอยู่กับว่าใครจะได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ระหว่าง “ผช.หนุ่ย” พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ (ตท.24) ผช.ผบ.ทบ. ที่ได้เปรียบเรื่องอาวุโสรุ่น และได้ติดยศพลเอกในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ในช่วงโยกย้ายปลายปี 2565 และ "เสธ.ปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เสนาธิการทหารบก ที่เส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นต้นมา ถูกจับวางไว้ให้ขึ้นมาเป็นคนรับไม้จาก ผบ.ทบ.คนปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ธรรมดาจากโปรไฟล์ที่เผยแพร่กัน ๐
ถ้าชื่อออกมาเป็นสูตรแรก คือ “ผช.หนุ่ย” ก็เชื่อได้ว่าอาจมีการดึง รอง เสธ.จากขุมกำลังเดิมของ พล.ร.9 เข้ามาเป็นเสนาธิการทหารบก แต่ถ้าเป็น “สูตร 2” ชื่อออกมาเป็น “เสธ.ปู” ก็เชื่อว่าทีม ตท.26 จะขยับจากกรมยุทธการฯ ขึ้นมาเป็นเสนาธิการทหารบก ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ อดีต ผบ.ทบ.เคยดึง "บิ๊กหยอย” พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ เจ้ากรมยุทธการทหารบกในตอนนั้นทะลุขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ.เลย โดยไม่ต้องผ่านตำแหน่งรอง เสธ.ทบ. ที่น่าสนใจอีกประการคือ “การจัดทัพ” ปีนี้ “การเมือง” อาจเป็นแค่ปัจจัยรอง ที่ถูกดึงเข้ามาเพิ่ม "ลมใต้ปีก" ให้บางคน แต่ไม่ใช่จุดเปลี่ยนในการเลือกตัวบุคคลที่แท้จริง หากแต่เป็น "ขุมกำลังพิเศษ” ที่ “วางหมาก” ในการชิงจัดกำลัง “ม้า เรือ โคน เม็ด เบี้ย" เข้ามาไว้ในหน้าตักให้มากที่สุด ภายใต้ภาพของหน่วยซ้อนหน่วยเป็น “พลังงัดข้อ” ที่ปรากฏขึ้นในขณะนี้ ถ้าดูจากสมการโยกย้าย ผู้พัน-ผู้การกรม-รองนายพล ที่ผ่านมา 2-3 ครั้ง จะเห็นได้ว่ามีคนของอีกฝั่งส่งไปฝังไว้ในหลายหน่วย ทั้งจากการข้ามจากหน่วยฝั่งตะวันตกไปอยู่ในฐานกำลังฝั่งตะวันออก เพื่อแลกกับการปล่อยบางตำแหน่งในเข้าฮอส ถ้าจะวัด “ขุมกำลัง" กันจริงๆ ก็ยังนับว่าประเมินได้ยาก ยังไม่นับตัวแปร "ทหารคอเขียว" อย่าง "บิ๊กหยอย” ที่ตั้งไว้เป็นตัวเลือก ในกรณีที่ถึง “ทางตัน” แต่ก่อนที่จะถึงวันชี้ขาด ก็คาดการณ์กันว่าชื่อ ผบ.ทบ.คนต่อไป จะอยู่ในมือ พล.อ.เจริญชัยจนนาทีสุดท้าย ก่อนส่งไปที่กลาโหมเพื่อประชุมบอร์ดม้วนเดียวจบ ๐
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย