คู่มือสำหรับกลุ่มคนที่กำลังรับเกณฑ์บวกจากพระเสาร์จร(ตอนที่2)

ภาพลัคนาสถิตราศีเมษ-มีน
พระเสาร์จร(7)เดินในราศีกุมภ์
เดินผิดปกติเริ่มประมาณ5มิถุนายน-ประมาณ7-10พฤศจิกายน2567

ตอนนี้มาว่ากันต่อถึงกลุ่มคนที่กำลังได้รับเกณฑ์-รัศมีด้านบวกจากพระเสาร์จร และคำแนะนำเล็กๆน้อยๆให้เป็นคู่มือเพื่อเพิ่มด้านบวก หรือหากมีลบจากเกณฑ์อื่นแทรกเข้ามาจะได้เตรียมรับมือต่อจากตอนที่แล้วที่ได้เขียนถึงท่านที่ลัคนาสถิตราศีเมษและกันย์ไปแล้วคือ

              3.ลัคนาสถิตราศีธนู(ทำนายตามลัคนาเท่านั้น โปรดอย่านำคำทำนายไปใช้ผิดประเภทเป็นแบบชาวราศี)ไม่ว่าด้านบวก-ลบจะเกิดในชีวิตอย่างไร แต่พวกท่านคือกลุ่มคนที่ได้ผล-รัศมีด้านบวกจากหัวหน้าดาวร้ายที่สาดรัศมีให้หลายด้านในระดับสามสิบปีมีสองปีครึ่งนี้คือระหว่าง1มีนาคม2566-14กุมภาพันธ์ 2569ตามโฉลก..ท่านทายหมาย ได้เพริศพรายยศ-เงิน-ทอง(พระเสาร์จร7เดินในราศีกุมภ์-ภพสหัชชะ-โยคหน้าทำให้ลัคนาเข้มแข็ง)เท่าที่เก็บขอมูลมาเช่น

              ได้เซ็นต์สัญญาใหญ่มากชนิดกิจการแทบหมุนเงินไม่ทัน หรือแม้จะมีเหตุขัดข้องแต่ได้งานใหม่ หรือได้เงินจากการเป็นนายหน้าหรือติดต่อสื่อสารหรือคนกลาง หรือได้มรดกจากต่างประเทศเพราะมีญาติเสียชีวิต หรือได้ห้องทดลอง(ลึกลับ)ใหม่ยังจากพยายามสู้มานาน หรือได้แฟนเก่ากลับมา หรือได้แฟนที่อายุแตกต่างกันเป็นต้น

                    ส่วนระหว่างประมาณ5มิถุนายน-ประมาณ7-10พฤศจิกายน2567ที่หัวหน้าดาวร้ายเดินผิดปกตินี้พวกท่านอาจจะบริหารการได้ยศ-เงิน-ทองยากสักหน่อยเพราะอาจจะต้องปรับแผน-ทบทวนเป็นระยะๆ แต่หลังจากนั้นสถานการณ์จะนิ่งขึ้นโดยมีคู่มือที่จะใช้ประกอบเดินทางชีวิตคือ

                ก.3ไม่ว่าด้านบวก-ลบจะเกิดในชีวิตขนาดไหน หัวหน้าดาวร้ายยังออกแนวให้ผลบวกพวกท่านไปถึง14กุมภาพันธ์ 2569 ซึ่งการได้นี้แม้อาจจะต้องดิ้นรนไขว่คว้าไม่ได้มาง่ายๆ แต่ก็จะได้อย่างหนักแน่นและมั่นคง ก่อนที่หลังจากนั้นหัวหน้าดาวร้ายจะเริ่มระรานดวงชะตาพวกท่าน

              ข.3ก่อนจะถึง14กุมภาพันธ์ 2569อาจจะมีบางท่านที่เจอเกณฑ์ลบจากหัวหน้าดาวร้ายแทรกเข้ามาบ้าง เช่นอาจจะมีเรื่องคดีความหรือค่าใช้จ่ายให้แก้ไข เช่นมีหนึ่งรายเผาหญ้าลามเข้าเขตเพื่อนบ้านต้องขึ้นศาลจ่ายค่าเสียหายเป็นต้น

              ค.3ด้านลบตั้งแต่18ตุลาคม 2566มาแล้วและจะเป็นไปถึง5พฤษภาคม 2568ที่พวกท่านส่วนใหญ่อยู่กิน หรือทำงานที่ไหนก็ออกแนวไม่ค่อยมีความสุข หงุดหงิด-รำคาญ มีอาการร้อนที่อยู่ที่ทำกิน หรือชีพจรลงเท้า (พระราหูจร8เดินในราศีกุมภ์-ภพที่สี่-พันธุ-ดวงแตก)

                   ซึ่งอาการนี้แนะนำพยายามระงับอารมณ์คิดให้รอบคอบ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วอาจจะแต่แก้ไขไม่ได้แล้วเช่นไม่มีความสุขหาเรื่องซ่อมบ้านผลคือบานปลายมาก หรือรำคาญนายลาออกหรือเปลี่ยนงานแล้วได้คิดว่าไม่น่าเลยหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มหลังจากนั้นเป็นทุกข์เพราะหนี้

                 ง.3ด้านลบระหว่าง30เมษายน 2567-13พฤษภาคม 2568 ระวังพ่อแม่ป่วย พร้อมอาการเดือดเนื้อร้อนใจถูกใส่ความ-หาเรื่องตามโฉลกหญิงมายาใส่โทษาให้วุ่นวาย(พฤหัสบดีจร5เดินในราศีพฤษภ-ภพอริ)เช่นญาติผู้หญิงโกงแล้วยังใส่ความหรือผิดหวังโดนผู้หญิงที่ร่วมทุนด้วยเบี้ยวและเคยเห็นกิ๊กฟ้องเมียก็มี

             .3ด้านบวกแทรกมาให้ระหว่าง30เมษายน 2567-13พฤษภาคม 2568เหมาะสำหรับการต่อสู้-แข่งขัน-ประมูล และพวกท่านส่วนใหญ่สุขภาพจะแข็งแรงและมีโอกาสได้บริวารที่ถูกใจ

                 4.ท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุลย์(ทำนายตามลัคนาเท่านั้น โปรดอย่านำคำทำนายไปใช้ผิดประเภทเป็นแบบชาวราศี)ไม่ว่าด้านบวก—ลบจะเกิดในชีวิตอย่างไร แต่พวกท่านคือกลุ่มคนที่ได้ผล-รัศมีด้านบวกเพียงกลางๆจากหัวหน้าดาวร้ายระหว่าง1มีนาคม 2566-14กุมภาพันธ์ 2569 ตามโฉลกจะได้ของ บ่เลิศพร้องพอใช้การ….(พระเสาร์จร7เดินในราศีกุมภ์ภพที่ห้า-ปุตตะ)เช่น

                 ได้คู่แต่ต้องแยกกันอยู่ หรือได้แฟนกลางๆหรือจำต้องทำงานไม่ถูกใจหรือได้ที่เรียนดีแต่ต้องปูพื้นใหม่บางวิชาหรือเดินทางชีวิตใหม่แบบไม่เลิศเลออย่างที่เคยเป็นหรือฝันไว้ หรือทำบ้านใหม่ก็กลางๆตามระดับวาสนาเป็นต้น

                 ตัวอย่างสำหรับการได้อะไรกลางๆของหนึ่งท่านในวงสังคม คือคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์(เชื่อว่าลัคนาสถิตราศีตุลย์)ที่ส่งลูกสาวคุณอุ๊งอิ๊ง แพรทองธาร ชินวัตรลงการเมืองแล้วผลการเลือกตั้งออกมากลางๆคือพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งส..เป็นที่สองรองจากพรรคก้าวไกล

                 ระหว่างประมาณ5มิถุนายน-ประมาณ7-10พฤศจิกายน2567ที่หัวหน้าดาวร้ายเดินผิดปกตินี้พวกท่านอาจจะบริหารการได้อะไรกลางๆยากสักหน่อยเพราะอาจจะต้องปรับแผน-ทบทวนเป็นระยะๆ แต่หลังจากนั้นสถานการณ์จะนิ่งขึ้นโดยมีคู่มือที่จะใช้ประกอบเดินทางชีวิตคือ

               ก.4โดยรวมแล้ว ชีวิตของพวกท่านถูกกำกับด้วยการได้อะไรกลางๆไปจนถึง14กุมภาพันธ์ 2569 แต่มองในแง่ดีคือถึงอย่างไรก็ยังได้

            .4ด้านบวกมาเสริมให้คือระหว่าง18ตุลาคม 2566-5พฤษภาคม 2568แม้จะอยู่ภายใต้อิทธิพลการได้อะไรกลางๆ แต่ไม่ใช่ว่าพวกท่านต่อสู้แล้วไม่ได้อะไรดีๆ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องไม่มีเรื่องหรือขัดใจอะไรก็ใครตามโฉลก..จะได้ลาภอย่าคิดบาปผิดใจเขา..(พระราหูจร8เดินในราศีมีน-ภพที่หก-อริ)

              เช่นแม้ผลเลือกตั้งจะมาเป็นที่สอง แต่พรรคเพื่อไทยที่คุณหญิงพจมานดูแลอยู่ก็ใช้ลูกล่อ-ชนจนได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ได้ทั้งตำแหน่งประธานรัฐสภาและนายกรัฐมนตรี หรือบางท่านถอนเรื่องร้องเรียนในที่ทำงานแล้วได้ตำแหน่งก็มี

              ค.4เรื่องลบมากแทรกเข้ามา ระหว่าง30เมษายน2567-31พฤษภาคม 2568เป็นช่วงที่คล้ายหัวหน้าเทวดาประจำตัวของพวกท่านป่วยหนักไม่สามารถคุ้มครองดวงชะตาได้(พฤหัสบดีจร5เดินในราศีพฤษภ-ภพที่แปดมรณะ) เรื่องด้านลบที่รอเกิดกลายเป็นลบมาก หากลบมากอาจจะเป็นสาหัส ส่วนเรื่องบวกที่จะเกิดก็แค่นๆเกิดอีกทั้งมีโอกาส ได้ความผิดจนแทบจะถอดใจหรือได้ความผิดจนน้ำจิตชัยปรา..เช่น

                ถูกโยนความผิดใส่ หรือแบกภาระงานหนักอยู่คนเดียวหรือเจอการรักษาพยาบาลไม่เข้าเป้าแม้จะเสียเงินไปมาก หรือเรื่องป่วยไข้ธรรมดาของพ่อ-แม่หรือคนในครอบครัวกลายเป็นหนักหรือถูกกล่าวหาแล้วตั้งกรรมการสอบจนหมดกำลังใจชื่อเสียงป่นปี้ หรือไม่มีเอี่ยวการทำผิดแต่ถูกเรียกไปให้ข้อมูลเป็นต้น

                   ง.4ถ้าจะออกแนวบวกบ้างระหว่าง30เมษายน2567-31พฤษภาคม 2568บางท่านอาจจะได้มรดกหรือของเก่า หรือได้ประกันภัยหรือประกันชีวิต หรือได้เงินชดเชย แบบไม่คาดฝันมาก่อน

(ยังมีต่อสำหรับท่านที่ลัคนาสถิตราศีมิถุน)

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คู่มือสำหรับกลุ่มคนที่กำลังรับเกณฑ์บวกจากพระเสาร์จร(ตอนที่1)

บทความสามตอนที่ผ่านมา ได้เขียนถึงกลุ่มคนที่กำลังได้รับเกณฑ์-รัศมีด้านลบเต็มที่จากพระเสาร์จร(7)หัวหน้าดาวร้าย- เทพเจ้าแห่งความระทม- ตัวโ

ระยะปรับแผนรับมือทุกข์จากพระเสาร์จร(ตอนที่สาม)

ตอนนี้มาว่ากันต่ออีกถึงกลุ่มลัคนาราศีที่มีโอกาสพบเกณฑ์ด้านลบจากพระเสาร์จร(7)หัวหน้าดาวร้าย-เทพเจ้าแห่งความระทม-ตัวโทษทุกข์ระหว่าง 1 มีนา

ระยะปรับแผนรับมือทุกข์จากพระเสาร์จร

อันว่าพระเสาร์(๗)นั้น จัดอยู่ในกลุ่มบาปเคราะห์ ที่มักบันดาลด้านลบให้ทุกดวงชะตา แต่หากจะเป็นด้านบวกก็ต้องผ่านด้านลบก่อน หรือเกิดผลลบจนแทบจะถอดใจแล้วกลายเป็นบวก หรือทุกขลาภ ลาภทุกข์

โหรทัก 'เศรษฐา' เก้าอี้นายกฯคลอนแคลน 10 มิ.ย. เป็นต้นไปยกการ์ดปิดหน้าสูงๆ

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีตั้งแต่วันเกิดที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นมาแล้วและจะกินเวลายาวนานหนึ่งปีถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่าน