คำตอบ 'ชาวบ้าน' ถึงลุงตู่

การดูแลปัญหาชีวิต-ความเป็นอยู่ ขจัดทุกข์-บำรุงสุขชาวบ้าน รัฐบาลคอยเข้าไปช่วยเหลือแก้ไข ให้กลไกระบบรัฐ เดินเที่ยงตรง

นั่นคือการ "เอาใจประชาชน"

 "เอาใจ" คือการ "เอาใจใส่" ต่อปัญหาสุข-ทุกข์ชาวบ้านถ้วนหน้า โดยไม่เลือกว่าพื้นที่นี้เลือกพรรคเราหรือไม่เลือก

การเอาใจใส่ แบบนี้ ประโยชน์สุขเกิดกับคนส่วนใหญ่ แต่จะ "ขัดใจ" บางพวก-บางกลุ่มที่ "เสียประโยชน์ตน

 ประเภท "บ้านใหญ่" นั่นละ ตัวดีนัก

ชอบเอารัด-เอาเปรียบสังคม ระบบรัฐก็ประจบ-เอาใจ มักออกนโยบาย "เอื้อธุรกิจมึง-สนองโกงกู"

เรื่อง "การพูด" เหมือนกัน

"พูด" กับ "พล่าม" ใช้ปากเหมือนกัน แต่ผลมันต่างกัน

ไปไหนๆ ขึ้นเวทีไหน ก็พูดให้สัญญิง-สัญญาไปเรื่อย

นั่นเขาเรียกพล่าม ไม่เรียกพูด

"ร้อยเวที-พันสัญญา" อย่าว่าแต่ทำได้เลย แค่ให้จำที่ตัวเองพูดไว้ในแต่ละที่ให้ได้ แค่นั้น ก็ยกให้เป็น "พล่าม-เอตทัคคะ" แล้ว

"อดีตนายกฯ ชาติชาย ชุณหะวัณ พูดเป็นสัจธรรมการเมืองไว้ประโยคหนึ่งว่า "ก่อนพูดเราเป็นนาย เมื่อพูดออกไปแล้ว คำพูดจะเป็นนายเรา"

อันนี้จริง

๙ ปีรัฐบาลประยุทธ์ไม่มีเอี้ยย...อะไรซักอย่าง  ประเทศมีแต่ถอยหลัง ประชาชนอดอยาก"

"พรรคไหน-ใครพูด" คงไม่ต้องบอก ชาวบ้านที่ใจเป็นธรรม ฟังแล้วอยากถ่มใส่ แต่เสียดายก้อนเสลด จึงอมไว้

แต่อีกส่วนที่ติดตมนโยบายตามใจสไตล์ประชานิยม โกงเอามา "ลด-แลก-แจก-แถม" ที่เรียกว่าแบ่งปัน

ก็เชื่อ หลงใหลได้ปลื้ม พากันประโคม โหมขย่ม เออ...จริงด้วย ๙ ปีลุงตู่ ไม่ทำเอี้ยยย...อะไรซักอย่าง

มันก็ไม่ต่างนกที่ไม่เคยเห็นฟ้า ปลาที่ไม่เคยรู้จักน้ำ ทั้งที่ว่ายอยู่ในน้ำ

แล้วถึงวันนี้...เป็นไง?

จาก ๙ ปี สู่รัฐบาลใหม่ "เศรษฐา-เพื่อไทย" ตามที่โหยหา

 ยังไม่ทันถึง ๙ เดือน ด้วยซ้ำ

บริหารแบบ "ตามใจ-ตามอยาก" ประชาชนแบบฉาบฉวย จากรัฐบาลเพื่อไทย ที่คุยโขมง "ทำได้-ทำทันที ประชาชนจะเป็นเศรษฐีกันทุกคน"

กับบริหาร "ขัดใจ" แบบลุงตู่ ด้วยไม่ยอมทำตามใจชาวบ้านไปทุกเรื่อง แต่ "เอาใจใส่" กับเรื่องที่เป็นประโยชน์ระยะสั้น-ระยะยาวคนส่วนใหญ่ในทุกเรื่อง

ที่ด่ากันว่า ๙ ปี ไม่ทำเอี้ยยย...อะไรซักอย่าง

ถึงตอนนี้ ก็เข้าตำรา

"จะรู้ว่าของนั้นมีค่า ก็ต่อเมื่อมันหายไปเสียแล้ว"!

"ทอง" เผายังไงๆ ลงท้ายก็คือ "ทอง"

"ตะกั่วชุบทอง" ไม่ต้องเผา แค่หมาเยี่ยวรด ก็ลอกแล้ว!

ขณะนี้ คำที่พูด กับการไม่ทำ และถึงทำ...ก็ทำไม่ได้ มันประจาน "ไหน...ธาตุทอง, ไหน...ธาตุตะกั่ว" ด้วยตัวมันเองชัดแล้ว

ยุคไอที ไม่ต้องอาศัยโพลล์สำนักไหนสำรวจ  ใครมีมือถือก็เป็น "เจ้าสำนักสื่อ" สะท้อนปัญหาปากท้อง ชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้านได้ด้วยตัวเองกันทุกคน

โซเชียลมีเดีย ติ๊กต๊อก ยูทูบ X สำรวจให้ทุกวัน เป็นปฏิกิริยาสังคม สะท้อนงานรัฐบาล "เพื่อไทยบริหาร" ใสแจ๋วกว่ากระจก

โดยไม่ต้องพึ่งบริการ "บ้านเล็ก-บ้านใหญ่" เช็ดถู เหมือนพวกโจรใส่สูท

คำว่า "พลุ่งพล่าน" คือ ปฏิกิริยาสังคม บอกความเดือดร้อนชาวบ้านจากทุกหย่อมหญ้า ขณะนี้

ผู้คน ตลาด ร้านค้า สะท้อนความอัดอั้นใน "รัฐบาลเพื่อไทยบริหาร" วันนี้ ชนิด ถะถั่ง-พรั่งพรู     

แซมเปิลซักรายก็ได้....

ดูจากภาพ น่าจะเป็นท่านผู้ขับแท็กซี่ ถ้าไม่ใช่ ก็เป็นชาวบ้านสามัญชนทั่วไปอย่างผม

อัดคลิป ระเบิดความอัดอั้นต่อปัญหาปากท้องชาวบ้านที่ไม่ได้รับการแก้ไขใดๆ จากรัฐบาลเศรษฐาไว้ประมาณนี้

..........................

"มาวันนี้นะครับ โคตรคิดถึงลุงตู่เลยนะครับ  ตอนลุงตู่อยู่ หลังโควิดมา สงบร่มเย็น หาเงิน หาทอง สะดวกสบายนะครับ

ความเจริญที่ลุงตู่สร้างไว้ เยอะแยะมากมายมหาศาล เดินตลาดนัด จะเหยียบกันตาย นะครับ

ทุกคนมีมือถือเครื่องเดียว จับจ่ายใช้สอยด้วยแอปคนละครึ่ง แอปเป๋าตังนะครับ จ่ายกันแบบคนละครึ่ง รัฐบาลครึ่ง เราครึ่ง เซฟไปแบบครึ่ง-ครึ่งเลยนะครับ

มาวันนี้ รัฐบาลนี้ ทำเอี้ยยย....อะไรบ้างนะครับ ถ้าวันนี้มึงไม่กู้ ๕ แสนล้าน มึงบริหารประเทศไม่ได้เลยใช่มั้ย?

เอ้า..ฝากทุกคนนะครับ ฝากแชร์ไปถามนายกฯ....ด้วยนะครับว่า

ถ้าวันนี้ มึงไม่กู้ ๕ แสนล้าน ประเทศชาติมันเดินหน้าไม่ได้ใช่มั้ย มึงบริหารประเทศไม่ได้ใช่มั้ย?

วันๆ เอาแต่ เที่ยว...เที่ยว..ถุ้ยยยย ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว ถุ้ยยยย...ไหนบอกว่าเก่ง"

รัฐบาลที่บอกมาจากประชาชน ฟังเสียงประชาชน จะทำงานไม่รู้จักเหน็ด-จักเหนื่อย เพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชน

ฟังนะ...

ฟังเสียงประชาชนที่เขาเลือกพวกคุณมา เขาสะท้อนถึงการทำงานรัฐบาลพวกคุณ ตรงๆ เต็มๆ

และไม่ใช่รายนี้รายเดียวนะ เป็นสิบ-เป็นร้อยราย ถ้าเป็นสมัยรัฐบาลลุงตู่ ที่ "เพื่อไทย+ก้าวไกล" แท็กทีมถล่มกันตอนนั้นละก็

คำว่า "มึงไม่กู้ ๕ แสนล้าน มึงบริหารประเทศไม่ได้ใช่มั้ย" คำว่า "วันๆ เอาแต่เที่ยว ..เที่ยว..ถุ้ยยยถุ้ยยย"

คำว่า "รัฐบาลนี้ ทำเอี้่ยอะไร ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว" และคำว่า "ถุ้ยยยย...ไหนบอกว่าเก่ง"

ติด "แฮชแท็ก" ขึ้นเว็บแดง-เว็บส้ม ปั่นกันเรตติ้งกระฉูดไปนานแล้ว

นั่นยังเรียกว่าปั่นตามขบวนการ IO แต่เมื่อแดง-ส้ม "เสพสมบ่มิสม" แบบขมขื่นแล้ว ขบวนการปั่นแฮชแท็ก ก็หายไป

ที่หาย..ใช่ว่าบ้านเมืองฟุ้งเฟื่องเรืองจำรูญ เพราะมีเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีก้าวไกล เป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ตรวจสอบ-ถ่วงดุลในระบบรัฐสภาสมบูรณ์นะ

เพราะกำจัดรัฐบาลลุงตู่ ที่ประณามกันว่า "รัฐบาลเผด็จการ" พ้นจากความเป็น "ก้างขวางคอ" สำเร็จแล้วตะหาก

การปั่นเฟกนิวส์ ติดแฮชแท็ก จึงหมดความจำเป็นที่จะทำกัน!

แต่ตอนนี้ ทุกคำพูดที่ปั่นใส่รัฐบาลลุงตู่ พลันย้อนสนอง ถล่มใส่รัฐบาล "เศรษฐา-เพื่อไทย" แทบจะไดอะล็อกเดิม เพียงเปลี่ยนชื่อคนและชื่อพรรคเท่านั้น

ที่สำคัญ ทุกคำประณาม...
มันสะท้อนออกมาจากทุกข์ยากปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ชาวบ้านโดยตรง โดยชาวบ้าน ในมุมเปรียบเทียบแบบบ้านๆ โดยไม่ต้องพึ่งบริการ IO

นี่เรียกว่า "เวรกรรมที่ทำไว้ตามสนอง" นี่ละ ของแท้!

ชาวบ้านเขาระเบิดออกมาจากภายในเขาเอง ว่า ๙ ปี รัฐบาลลุงตู่ ที่ว่าไม่ทำเอี้ยอะไรเลย มีแต่บ้านเมืองถอยหลัง ประชาชนอดอยาก นั่นน่ะ

เมื่อผลักลุงตู่ออกไป เอาเพื่อไทยระบอบทักษิณเข้ามา แค่ ๙ เดือน ๑๐ เดือน ชาวบ้านก็...ตาค้าง สว่างโพลง

เมื่อ "นรกชัดๆ" มาเยือน

รัฐบาล "เศรษฐา-เพื่อไทย".....

วันนี้ "ทำเอี้ยย...อะไร มึงไม่กู้ ๕ แสนล้าน มึงบริหารประเทศไม่ได้เลยใช่มั้ย?

ประชาชนจะอดตายอยู่แล้ว ถุ้ยยยย..ไหนบอกว่าเก่ง"

ผมเติมข้อมูลทางด้าน "ตลาดทุน" ให้หน่อยก็ได้

ตั้งแต่ มกรา.-มิถุนา. แค่ "ครึ่งปีแรก" ของปี ๒๕๖๗

"ต่างชาติ" ขายทิ้งหุ้นไทยต่อเนื่องทุกวันตลอด ๖ เดือน

 ขนเงินออกจากตลาดทุนไทยไปแล้วกว่า ๑.๑๗  แสนล้านบาท!

เหตุผลเดียวที่ต่างชาติขนเงินกลับ เพราะ...

"ไม่มีความเชื่อมั่น" ในรัฐบาลนี้!?

ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่การโหยหาด้วยต้องการ "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" ให้กลับมาเป็นนายกฯ แม้ยังมีสิทธิตามกฎหมายในฐานะ "นายกฯ ตามบัญชีเลือกตั้ง" พรรครวมไทยสร้างชาติก็ตาม

แต่พูดให้ "สะดุดคิด" ทองแท้ปิดหลังพระ แม้ไม่ไหลออกไปข้างหน้าให้คนเห็น ทองก็คือทอง

ด้วยผลงานบริหาร ๙ ปีที่ก่นด่ากัน ถึงวันนี้ ทองไหล-ไม่ไหลออกมา ผมไม่รู้

รู้แต่ว่าชาวบ้าน "เขารู้-เขาเห็น-เขาสัมผัสรับรู้ได้แล้ว" ในสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ "เพียรทำ-เพียรสร้าง" ไว้ให้กับสังคมชาติ

แต่ก็ต้องขอบคุณ "รัฐบาลเพื่อไทย"

เพราะความเป็น "ขี้เถ้า" เศรษฐานั่นแหละ ช่วยขัดสนิมโจรที่จับทองลุงตู่จนหมองมา ๙ ปี ให้ "ไฝฝ้า-ราคี" สลายไป

ในความเป็น "ทอง" ในเนื้อ

ก็ไม่จำเป็นให้ใครต้องมา "ปิดทอง" ในทองอีก!

-เปลว สีเงิน

๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗