เห็นว่า...รัฐบาลท่านชักจะเอาจริง-เอาจัง กับเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ถึงขั้นป่าวประกาศให้ปีเสือปีนี้ เป็น “ปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน” เอาเลยถึงขั้นนั้น ซึ่งก็คงต้องขออนุโมทนา สาธุ เอาไว้ ณ ที่นี้ ส่วนจะแก้ได้-แก้ไม่ได้ คงต้องค่อยไปว่ากันอีกที เอาเป็นว่า...เพียงแค่แสดงออกถึงความมุ่งมั่น ตั้งอก ตั้งใจ ย่อมต้องถือเป็นพระคุณอย่างยิ่ง อันหาที่สุดมิได้ ส่วนจะเป็นไปตามคำสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน หรือไม่ เพียงใด อันนั้น...ก็ลองไปฮึ้มฮึมฮึ้มหึ่ม กันเอาเองก็แล้วกัน...
------------------------------------------------
คือเรื่องของ “หนี้” นั้น...โดยลักษณะทั่วๆ ไป มันออกจะเป็นอะไรที่น่าชิงชัง รังเกียจ มิใช่น้อย ยิ่งประเภทผู้ที่เคยต้องผ่านประสบการณ์ “การแลกเช็ค” แบบชนิดเดือนต่อเดือน หรือแม้กระทั่งวันต่อวัน อย่าง “ท่านขุนน้อย” ในช่วงวัยหนุ่ม วัยฉกรรจ์เป็นต้น
ที่สุดท้าย...เมื่อชักเริ่มแก่ เริ่มหมดความกระตือรือร้น ต่อการหมุนโน่น หมุนนี่ แลกโน่น แลกนี่ เลยหนีไม่พ้นต้องเกิดอาการ “ตกผลึก” จนก่อให้เกิดเกิดความซาบซึ้ง ดื่มด่ำ ประทับใจ เอามากๆ กับ “วาทะ” ที่ไม่รู้ว่าใครกันแน่เป็นผู้เอ่ยเอาไว้ นั่นคือ...“การไม่มีหนี้-เป็นลาภอันประเสริฐ” อะไรทำนองนั้น การหาทางตัดบ่วงหนี้ ตัดวัฏจักร วงจร แห่งการเป็นหนี้ด้วยหลักการแห่งศาสนา คือหลัก “อตัมมยตา” หรือประเภท “กูไม่เอากับมึง...แล้วโว้ย!!!” (ตามคำแปลของท่านพุทธทาส) จึงพอจะนำมาซึ่งวิถีทาง วิถีชีวิต แบบราบๆ-เรียบๆ เบาๆ-สบายๆ ไปตามเรื่อง-ตามราว...
-------------------------------------------------
แต่สำหรับผู้คนบางคน บางกลุ่ม บางราย หรือแม้แต่บาง “บริษัท” อันได้แก่บรรดาผู้ประกอบการ ประกอบกิจการ ทั้งหลายก็เถอะ!!! เขาอาจไม่คิดทำนองนั้น คือกลับคิดไปประมาณคล้ายๆ...การเป็นหนี้ คือการสร้าง “แรงกระตุ้น” ชนิดหนึ่ง หรือเป็นตัวเร่ง เป็นตัวผลักดัน ให้เกิดการ “ทะยานไปข้างหน้า” ไม่ต้องตกหล่น ตามหลัง ใครต่อใคร ไม่ว่าที่อยู่ในลู่วิ่งเดียวกัน หรือนอกเหนือไปจากนั้น ยิ่งสามารถสร้างหนี้ หรือเป็นหนี้ให้มากๆ เข้าไว้ แทนที่จะเป็นอะไรที่น่าขนลุก ขนพอง น่าหวาดหวั่น ขวัญสยอง กลับเป็นอะไรที่เก๋ ที่เท่ หรือกระทั่งเป็นเครื่องสะท้อนตบะและบารมี เอาเลยถึงขั้นนั้น ยิ่งถ้าหากลองได้เอ่ยปากถึงปริมาณหนี้ มูลหนี้ ระดับร้อยล้าน พันล้าน ขึ้นไป ยิ่งออกอาการ “เก๋...ซะไม่มี” ยิ่งขึ้นไปใหญ่...
-------------------------------------------------
คือมันเป็นแนวคิด วิธีคิด ของบรรดาผู้ที่พร้อมจะยืนหยัดอยู่ใน “โลกแห่งทุนนิยม” ทั้งหลายนั่นแหละทั่น!!! ไม่ได้ถือเป็นเรื่องแปลก ไม่ว่าจะในระดับปัจเจกบุคคล องค์กร ห้างร้านและบริษัท ฯลฯ ตลอดไปจนถึงชาติ ถึงประเทศแต่ละประเทศเอาเลยก็ว่าได้ การเป็นหนี้มันเลยไม่ต่างอะไรไปจาก “ธรรมชาติ” ชนิดหนึ่งแห่งระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม อันเป็นระบบที่มุ่งมั่น เพียรพยายามที่จะสร้าง “แรงกระตุ้น” ให้กับทุกภาค ทุกสัดส่วน หรือแม้กระทั่งลึกลงไปถึงตัวบุคคล อย่างไม่มีข้อยกเว้นใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย โลกทั้งโลกในทุกวันนี้...จึงกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยหนี้ ยิ่งประเทศที่เพียรพยายามก้าวหน้า ก้าวไกล ยิ่งขึ้นไปเท่าไหร่ ตัวเลขหนี้สินกับตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือตัวเลข “จีดีพี” มันจึงวิ่งไล่กวดกันไป-กันมา ชนิดสุดท้าย...หนีไม่พ้นต้องเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ไปด้วยกันทั้งคู่...
----------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...ภายใต้ความก้าวหน้า ทันสมัย ความยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ไม่ว่าระดับประเทศ บริษัท หรือลึกลงไปแต่ละปัจเจกบุคคลก็เถอะ ส่วนใหญ่แล้วมันมักจะมี “หนี้” สอดแทรกเอาไว้เป็นไส้ใน โดยถ้าหากเมื่อไหร่ ตอนไหน อย่างไร ที่สิ่งที่เรียกว่า “หนี้” มันสำแดงเดชไปในทางที่ “ไม่พึงประสงค์” ขึ้นมา ตอนนั้นนั่นแหละ...ต่างหนีไม่พ้นต้องฉิบหาย วายป่วง หกคะเมนตีลังกา หัวทิ่ม หัวคะมำ หมดตบะ หมดบารมี หมดความยิ่งใหญ่ เกรียงไกร ไม่หลงเหลือความเก๋ ความเท่ใดๆ ต่อไปได้อีก การขึ้นๆ-ลงๆ มีลาภ-เสื่อมลาภ มียศ-เสื่อมยศ มีอำนาจ-เสื่อมอำนาจ ฯลฯ มันจึงกลายเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าระดับชาติ ระดับห้างร้านและบริษัท ไปจนถึงระดับปุถุชนคนธรรมดา ที่ต่างหนีไม่พ้นต้อง “เหนื่อยฉิบหาย” ไม่ผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันและกันแต่อย่างใด...
--------------------------------------------------------
ดังนั้น...การแก้หนี้ หรือแก้ปัญหาหนี้ เอาไป-เอามาแล้ว มันคงไม่ได้เกี่ยวกับรายละเอียดทางคณิตศาสตร์ ทางบัญชี หรือแม้แต่ขีดความสามารถในการหมุนโน่น หมุนนี่ แบบชนิดไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อยมากมายซักเท่าไหร่ ถึงจะเก่งในการแลกเช็ค เฉลียวฉลาดในการเอาโน่น เอานี่ ไปจำนำ จำนอง แบบประเภทคุณพี่ “โทนี่-โทนาฟ” ที่เคยถึงขั้นคิดจะเอา “ทะเล” มาเป็นหลักประกันสำหรับการกู้หนี้ สร้างหนี้ ไปโน่นเลย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ “หนี้” มันสำแดงเดชไปในทางที่ “ไม่พึงประสงค์” ขึ้นมาแล้ว ก็ล้วนแล้วแต่ต้องฉิบหาย วายป่วง หมดรูป หมดร่าง หมดสภาพ หมดเครดิต เดบิต กลายเป็นอะไรที่น่าชิงชัง รังเกียจ เผลอๆ...ถึงขั้นน่าทุเรศ เวทนา เอาเลยถึงขั้นนั้น....
----------------------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้นี่เอง...ที่ทำให้การแก้หนี้ หรือแก้ปัญหาหนี้ มันเลยมีความสัมพันธ์อย่างแยกไม่ออกกับรายละเอียดทาง “จิตใจ” คือถ้าหากสามารถควบคุม ระงับยับยั้ง ความปรารถนาหรือความต้องการใดๆ ที่มันไม่สอดคล้องกับ “ตัวตนของตน” อย่างแท้จริง ไม่ให้อะไรต่อมิอะไรมันออกไปทาง “เกินไป” หรือ “เกินกำลัง” มีสติ มีปัญญา และมีเหตุมีผลรองรับเอาไว้เสมอๆ ในระหว่างที่ต้องก้าวออกไปยังอนาคตเบื้องหน้า อันนี้นี่แหละ...ที่อาจถือเป็นความหมาย คำจำกัดความ ของคำว่า “ความพอเพียง” ที่อดีต “ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9” ท่านได้ทรงพร่ำสอน พร่ำเตือน ตั้งแต่ระดับประเทศ สังคม ลงมาถึงระดับบริษัท ห้างร้าน ไปจนถึงปัจเจกบุคคล มานานนับเป็นทศวรรษ...
---------------------------------------------------------
ดังนั้น...ไม่ว่ารัฐบาลท่านคิดจะแก้หนี้ แก้ปัญหาหนี้ ไปในแนวไหน ทิศทางไหน ไม่ว่าจะสำเร็จ-ไม่สำเร็จหรือไม่ เมื่อไหร่และตอนไหน หรือจะต้อง “ฮึ้มฮึม-ฮึ้มหึ่ม” กันไปอีกนานเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ก็เถอะ บรรดาปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ-ทั่นๆ น่าที่จะน้อมเกล้า รับเอาคำพูด คำเตือน ของ “ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9” มาใส่หัวกบาลให้มากๆ เข้าไว้ ให้แผ่ซ่านและซึมลึกลงไปถึง “หัวจิต-หัวใจ” แทนที่จะลอยคอและรอคอยรัฐบาลกันลูกเดียว...
----------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก “Epictetus” (อีกครั้ง...และอีกครั้ง)... “Fortify yourself with contentment, for this an impregnable fortress.- จงสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวท่านด้วยความสันโดษ (พอเพียง) เพราะนี่คือป้อมปราการที่มิมีผู้ใดจะตีแตก...”
--------------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่าถึงกับต้องไปถือสาหาความ
ถือซะว่า...ท่านอาจ หาเสียง มาซะจนเคย!!! คือการประกาศจะสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.มาก่อนล่วงหน้า 2 ปีเนี่ย ย่อมมิใช่น้อยๆ
ต้องเริ่มต้นด้วยการทำลาย 'ความเกลียด'
นับตั้งแต่คุณน้า ชัชชาติ บุรุษผู้กล้ามใหญ่ที่สุดในปฐพี ท่านแลนด์สไลด์ แอฝะล้านช์ หิมะถล่ม ดินทลาย ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
ว่ากันไปเรื่อยๆ!!!
เห็นว่า...ตั้งแต่สัปดาห์หน้า วันที่ 1 มิ.ย. บรรดา ขาเฮ และ ขาหื่น ทั้งหลาย
ว่าด้วย...ชัยชนะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
อืมม์ม์ม์...ต้องเรียกว่าทั้ง แลนด์ ทั้ง สไลด์ เอาเลยทีเดียวเจียว สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้
จาก กทม.ถึงความเป็นชาติ เป็นสังคมไทย
ขณะกำลังปั่นต้นฉบับชิ้นนี้...ก็ยังไม่มีโอกาสรับรู้ได้เลยว่า ตกลงใครเป็นหมู่ เป็นจ่า เป็นสารวัตรกันแน่!!!
ว่าด้วย...อนาคตของ “บิ๊กตู่”
หมู่นี้รู้สึกว่า...เสียงด่า เสียงทอ ท่านนายกฯ บิ๊กตู่ ของหมู่เฮา น่าจะซาๆ ไปพอสมควร จะด้วยเหตุเพราะใครต่อใครหันไปสนใจเรื่องอื่น