บันทึกหน้า 4

เรียกว่าสายตาทางการเมืองใน วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567 ต่างจับจ้องไปที่เวที “อิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี” เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ โดยมีผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับจังหวัด จากทั้ง 77 จังหวัดใน 20 กลุ่มอาชีพ รวม 2,995 คน เข้าสู่การเลือกเพื่อให้ได้ สว.จำนวน 200 คน และสำรอง 100 คน ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องบล็อกโหวตและฮั้วกันกระหน่ำ แต่ดูเหมือน กกต.ภายใต้ “อิทธิพร บุญประคอง” นั่งเป็นประธาน กกต. หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ากฎหมายเลือก สว.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญแล้ว ก็เรียกว่ามีไฟเขียวผ่านตลอดทาง ทำให้แสดงความมั่นใจอย่างเหลือล้นว่าจะได้ สว. 200 ชีวิต และสำรองอีก 100 รายได้แน่นอน...๐

โดยงานนี้ในการคัดเลือกรอบแรก ต้องบอกว่าก็ต้องบอกว่า “บิ๊กเนม” หลายคนก็ร่วงระนาว ไม่ว่าจะเป็น “นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” อดีตรองนายกรัฐมนตรี,  “ดิเรก ถึงฝั่ง” อดีต สว., “พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์” อดีตอาจารย์ธรรมศาสตร์,  นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต สส. ในขณะที่หลายคนก็ผ่านเข้าสู่รอบสอง ไม่ว่าจะเป็น “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” หรือทนายตั้ม, พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร., “วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี” อดีตผู้ว่าฯ สมุทรสาคร, “นันทนา นันทวโรภาส” นักพูด, “อังคณา นีละไพจิตร” อดีต กสม., “บรรจง นะแส” แกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้าน โดยเฉพาะเต็งจ๋าอย่าง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกฯ”...๐

โดยงานนี้ “สมชาย” ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับการคัดเลือก  สว.ว่ามีกำลังใจพิเศษจากศรีภรรยาคือ เจ๊แดง “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” และถ้าสมชายตู้เย็นได้เป็น สว.จริง รวมทั้งก้าวไปถึงประมุขสภาสูง แล้วก็บอกได้คำเดียวว่า ประเทศไทยได้ย้อนยุคกลับไปเมื่อครั้งที่ตระกูลชินวัตรและวงศ์วานว่านเครือครองประเทศที่นั่งทั้งเก้าอี้นายกฯ เก้าอี้ผู้บัญชาการทหารบก และเก้าอี้ ผบ.ตร.อีกครั้งแล้ว...๐

แต่ที่ขำไม่ออกอย่างยิ่งในเรื่องบล็อกโหวต โดยเฉพาะการแฉโพยที่มีชื่อของ “โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน” หรือไอลอว์หรานั้น เพราะล่าสุดฟังคำให้สัมภาษณ์ของ “ยิ่งชีพ อัชฌานนท์” ผู้จัดการไอลอว์ ก็ได้แต่งงเป็นไก่ตาแตก เข้าไปอีก เพราะบอกเรื่องไลน์ที่หลุดออกมาว่า “ไม่รู้คนที่ส่งเป็นใคร เขาถูกใครแอบอ้างมา ไม่รู้ที่มา อยากให้คนแฉมาคุยหน่อย น่าจะตรวจสอบไม่ยาก เพราะไอลอว์มีไม่กี่คน” อ้าว ในเมื่อบอกว่ามีไม่กี่คน ไล่เบี้ยเองก็น่าจะรู้แล้วมิใช่เหรอ ทำไมต้องลากคนออกมาแฉโพยด้วยเล่า ยิ่งแจงก็ยิ่งเหมือนลิงแก้แหอย่างไรอย่างนั้นนะจ๊ะ...๐

หันกลับมาเรื่องปากท้องกันบ้าง เพราะดูเหมือนตั้งแต่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเป็นต้นมา ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เรียกว่าเปลืองน้ำ เปลืองไฟ และเปลืองข้าวกันจริงๆ โดยล่าสุดแม้มีการแถลงใหญ่โตว่าด้วย มาตรการกระตุ้นตลาดทุน รวมถึงมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะขายให้ฝรั่งมังค่า ซื้อคอนโดมิเนียมได้ 75% จากเดิม 49% และขยายเวลาให้เช่าจาก 30 ปีเป็น 99 ปีนั้น ชาวบ้านชาวช่องเขาถามว่า คนทำมาหากินหาเช้ากินค่ำนั้นได้ประโยชน์โพดผลอะไรบ้างจ๊ะท่านนายกฯ เศรษฐา...๐

เพราะมาตรการที่ออกมานั้น ต้องบอกว่าช่วยแต่คนรวยและกลุ่มทุนทั้งสิ้น โดยเฉพาะกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนที่จะช่วยชาวบ้านจริงๆ ตามปากบอกอย่าง “ดิจิทัลวอลเล็ต” นั้นก็พิรี้พิไร ยืดเวลา รวมทั้งปรับแต่งรายละเอียดจนเลิกอ้างได้แล้วว่า หากแจกจริงจะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ เพราะเมื่อถึงตอนนั้น หลายครอบครัวคงไม่มีอะไรกินแล้ว เพราะ เรื่องพื้นฐานที่รัฐบาลมีอำนาจสั่งช่วยลดภาระค่าครองชีพ ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟนั้น ก็ไม่มีมาตรการอะไรชัดเจน รวมถึงค่าน้ำมัน ทั้งเบนซินที่จะ 2 ลิตรร้อยอยู่รอมร่อ ไม่ต้องพูดถึงดีเซลที่ทะลุ 30 บาทไปนานแล้ว...๐

และที่แปลกแต่จริงเข้าไปอีก โครงการที่ชาวบ้านเขาชอบกันเหลือหลาย และ กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงแบบ “โครงการคนละครึ่ง” นั้นกลับพับเก็บ เพราะกลัวเสียหน้า เนื่องจากเป็นโครงการรัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่พอกองทุนวายุภักษ์กลับเห็นดีเห็นงาม เพราะนอกจากตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยคนรวยแล้ว ยังเกิดขึ้นในสมัยทักษิณใช่หรือไม่ แล้วอย่างนี้โครงการแลนด์บริดจ์และอีอีซี ทำไมสานต่อ ไม่ยกเลิกเล่า ในเมื่อเห็นว่าโครงการยุคลุงตู่มันน่าขยะแขยงนัก หรือเพราะว่าเห็นว่าทั้ง 2 โครงการมีช่องทางในการทำมาหากินกันล่ะจ๊ะ...๐.

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาส่งผลถึงประเทศไทยอย่างรุนแรง ทำให้ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่มลงมา เป็นการประจานระบบราชการไทยและรัฐบาลอีกครั้ง สำหรับ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

” แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาส่งแรงสะเทือนถึงประเทศไทย ไม่เพียงทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะตึก สตง.ถล่ม และต่อมายังมีตึกราชการต่างๆ เริ่มทรุดตัว

บันทึกหน้า 4

รายงานสถานการณ์จากศูนย์เอราวัณ กรณีเหตุแผ่นดินไหว ข้อมูล ณ เวลา 06.00 น. พบว่า ในขณะนี้พบผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 32 ราย เสียชีวิต 17 ราย และสูญหาย 83 ราย

บันทึกหน้า 4

หลังเปิดแผลรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ยุทธการจากนี้ต้อง “โรยเกลือ” เพื่อให้แผลแสบเจียนตาย เมื่อฝ่ายค้านมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองตรวจสอบ “นายกฯ อิ๊งค์” มีน้ำหนักและมัดแน่น ก็จงยื่นตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มัวแต่คิดว่าเป็นเรื่องของ “นิติสงคราม” หากมัวแต่คิดแบบนั้นเท่ากับติดกับดักความคิดตัวเอง

บันทึกหน้า 4

ในที่สุด “ลิเกการเมือง” ว่าด้วยศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จบอย่างเป็นทางการแล้ว โดย มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 488 เสียง ก็ลงมติเห็นด้วยในการไม่ไว้วางใจ 162 เสียง ไว้วางใจ 319 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ไม่ลงคะแนนไม่มี ซึ่งก็เรียบร้อยตามที่ “นายใหญ่” สั่งมานั่นเอง ...๐

บันทึกหน้า 4

การอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านไปแล้ว บรรยากาศการอภิปรายมีประท้วงกันบ้าง คำว่า "กี้่กี้" ดังสนั่นสภาและโซเชียลมีเดีย ถือเป็นสีสันการเมือง