ปูตินยกระดับสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-รัสเซีย

บัดนี้เกาหลีเหนือสามารถส่งกระสุนอาวุธต่างๆ ช่วยรัสเซียทำศึกยูเครน แม้กระทั่งส่งกองทัพเกาหลีเข้ารบโดยตรง ดังที่ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า ปูตินคือเพื่อนแท้ที่ดีที่สุด

19 มิถุนายน 2024 วลาดีมีร์ ปูติน (Vladimir Putin) ประธานาธิบดีรัสเซีย เยือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ จากข้อมูลที่ปรากฏเห็นชัดว่าสัมพันธ์เกาหลีเหนือ-รัสเซียสูงขึ้นอีกระดับแล้ว สอดคล้องบริบทล่าสุด บทความนี้นำเสนอบางประเด็นพร้อมการวิเคราะห์ ดังนี้

ภาพ: ประธานาธิบดีรัสเซียเยือนเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการ

เครดิตภาพ: http://www.rodong.rep.kp/en/index.php?MTVAMjAyNC0wNi0xOS1IMDExQA==

เพื่อนแท้กับเพื่อนเก่า:

คิม จองอึน (Kim Jong-un) ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า ประธานาธิบดีปูตินคือเพื่อนแท้ที่ดีที่สุด (The most honest friends) สัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ระดับเป็นพันธมิตรแล้ว (alliance)

ประธานาธิบดีปูตินเคยเยือนเกาหลีเหนือหลายครั้ง ครั้งแรกเมื่อกรกฎาคม 2000 ตอนนั้น คิม จองอิล (Kim Jong-il) เป็นผู้นำประเทศ สองประเทศฟื้นฟูความสัมพันธ์สู่ระดับปกติ ในปีนั้นได้ลงนามข้อตกลง Good-Neighborly Friendship and Cooperation Treaty ปีถัดมา (2001) ลงนามข้อตกลงทางการทหาร ช่วยเกาหลีเหนือพัฒนากองทัพให้ดีขึ้นในระดับหนึ่ง 

ปูตินจึงมีความสัมพันธ์กับผู้นำฝ่ายเหนือตั้งแต่รุ่นพ่อมาถึงรุ่นลูก

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า รัสเซียให้ความสำคัญกับเพื่อนเก่า (สมัยรัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียต) และเป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง สหภาพโซเวียตช่วยปลดปล่อยเกาหลีจากอาณานิคมญี่ปุ่น ปีนี้ (2024) เกาหลีเหนือฉลองเอกราช 75 ปี หลายทศวรรษที่ผ่านมาทั้งสองร่วมมือด้านต่างๆ มากมาย ล่าสุดเราได้ทบทวนความร่วมมือทั้งหมดและลงนามสนธิสัญญาฉบับใหม่ (ยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน) ร่วมมือมากขึ้น ลึกซึ้งขึ้นอีก มองอนาคตร่วมกัน ยอมรับว่าการค้าทวิภาคียังน้อยแต่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เฉพาะปี 2023 โตขึ้น 9 เท่าและยังโตต่อเนื่อง พัฒนาเส้นทางรถไฟ Khasan-Rajin railway ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด (เส้นทางนี้ยาว 240 กิโลเมตร จากเกาหลีเหนือเข้าจีนสู่รัสเซียแล้วเชื่อมกับ Trans-Siberian Railway เส้นทางนี้ผูกพันกับรัฐบาลปูตินย้อนหลังถึงสมัยคิม จองอิล เป็นเส้นทางที่ผู้นำฝ่ายเหนือใช้เดินทางสู่รัสเซียมาแล้วหลายครั้ง) เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 3 ประเทศ ส่งเสริมการค้าการลงทุน การไปมาหาสู่

ทั้งคู่เห็นพ้องสร้างระเบียบโลกพหุภาคีที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นธรรมมากขึ้น ตั้งบนกฎหมายระหว่างประเทศ ยอมรับวัฒนธรรมกับอารยธรรมอันหลากหลาย

รัสเซียกับเกาหลีเหนือต่างมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นตัวของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครมาข่มขู่ชี้นำ ต่อต้านการคว่ำบาตรด้วยเหตุผลทางการเมือง (ไม่สอดคล้องกฎหมายระหว่างประเทศ) พฤติกรรมไร้ความชอบธรรมเหล่านั้นบั่นทอนระบบเศรษฐกิจการเมืองโลก

แม้เผชิญแรงกดดันจากต่างชาติ เราทั้งสองประเทศสามารถรักษาอธิปไตยกับเอกราช เราต่อต้านการคว่ำบาตรจากพวกตะวันตกที่หวังรักษาความเป็นเจ้า รัสเซียเห็นสมควรทบทวนข้อมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของคณะมนตรีความมั่นคง

พวกตะวันตกที่หวังรักษาความเป็นเจ้าเป็นต้นเหตุความตึงเครียด การเผชิญหน้าทางทหารกับการเมืองระหว่างประเทศในที่ต่างๆ รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ บ่อนทำลายความมั่นคงกับเสถียรภาพภูมิภาค รัฐบาลเกาหลีเหนือมีความชอบธรรมที่จะเพิ่มขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศ เพื่อรักษาอธิปไตยกับความมั่นคงแห่งชาติ

รัสเซียแน่วแน่ในการใช้การทูตการเมืองระหว่างประเทศขจัดความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี วางระเบียบโครงสร้างเพื่อสันติภาพ เสถียรภาพของภูมิภาค

Hyun Seung-soo จาก Korea Institute for National Unification ชี้ว่าปูตินต้องการแสดงให้โลกรู้ว่าสัมพันธ์รัสเซีย-เกาหลีเหนือเข้มข้นเหมือนสมัยสงครามเย็น ร่วมต้านสหรัฐกับพวก ร่วมมือด้านต่างๆ ที่ไม่ขัดข้อมติคณะมนตรีความมั่นคง

ยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน:

การเยือนครั้งนี้ได้ลงนามสนธิสัญญายุทธศาสตร์แบบรอบด้าน (Treaty on Comprehensive Strategic Partnership) เพิ่มขยายความร่วมมือทุกมิติ นำความอยู่ดีมีสุขแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ พิทักษ์สันติภาพ ความมั่นคงภูมิภาคและของโลก บนประโยชน์ร่วมของเกาหลีเหนือกับรัสเซีย สอดคล้องกับบริบทของทั้งสอง มองอนาคตร่วมกัน สร้างโลกพหุภาคี ปราศจากการครอบงำทำให้ตกเป็นทาส ต่อต้านมหาอำนาจผู้เป็นเจ้า (hegemony)

แต่ไหนแต่ไรรัฐบาลรัสเซียช่วยเหลือทางทหารแก่เกาหลีเหนือเป็นระยะ มากบ้างน้อยบ้างตามสถานการณ์ อาวุธหลักหลายชิ้นของฝ่ายเหนือมาจากรัสเซีย นับจากนี้เป็นต้นไป 2 ประเทศประกาศความร่วมมือทางทหารเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญายุทธศาสตร์แบบรอบด้าน

อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือทางทหารจะเป็นเช่นไรต้องติดตามต่อไป Doo Jin-ho จาก Korea Institute for Defense Analyses คิดว่ารัสเซียอาจช่วยเกาหลีเหนือด้านเทคโนโลยีอวกาศ เช่น ดาวเทียมจารกรรม แต่ไม่น่าจะถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สุ่มเสี่ยงอ่อนไหว

ช่วยเหลือเมื่ออีกฝ่ายถูกรุกราน:

สนธิสัญญายุทธศาสตร์แบบรอบด้าน 2024 ด้านระบุชัดว่าความร่วมมือทางทหารรวมถึงการช่วยเหลือเมื่ออีกฝ่ายถูกรุกราน

การช่วยเหลือเมื่ออีกฝ่ายถูกรุกรานเป็นคำที่ชัดเจน แต่ข้อมูลที่ปรากฏเป็นเพียงกรอบแนวทางกว้างๆ ไม่ได้ระบุรายละเอียดความช่วยเหลือ เช่น จะส่งทหารเข้าช่วยรบหรือไม่ เป็นไปได้ว่าขึ้นกับสถานการณ์ขณะนั้นด้วย ภัยคุกคามที่ว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่ให้ได้ทันทีคือข้อมูลข่าวสาร การเคลื่อนไหวของกองทัพสหรัฐกับพวกในย่านนั้น

สนธิสัญญายุทธศาสตร์แบบรอบด้าน 2024 ที่ทำกับเกาหลีเหนือเห็นชัดว่าปูตินเปิดหน้าสู้ฝ่ายสหรัฐ ยึดหลักสร้างสันติภาพด้วยกำลัง ไม่คิดทำสงครามแต่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว

ในยามที่สงครามยังไม่เกิด ช่วยให้รัฐบาลเกาหลีเหนืออุ่นใจและฮึกเหิมขึ้นมาก

ที่ผ่านมาทางการสหรัฐมักกล่าวหาเกาหลีเหนือส่งขีปนาวุธ กระสุนปืนใหญ่มากมายช่วยรัสเซียรบยูเครน บัดนี้เกาหลีเหนือสามารถส่งกระสุนอาวุธต่างๆ ช่วยรัสเซียทำศึกยูเครน แม้กระทั่งส่งกองทัพของตนเข้ารบโดยตรง อันที่จริงเรื่องนี้ไม่มีอะไรแปลก ในเมื่อรัฐบาลสหรัฐกับพวกส่งอาวุธช่วยยูเครนครั้งแล้วครั้งเล่า รัสเซียก็มีมิตรประเทศที่ช่วยเหลือตนเช่นกัน

ในมุมกองทัพ เป็นโอกาสที่เกาหลีเหนือได้ระบายกระสุน ขีปนาวุธที่เก็บสะสมมานานหลายปี โดยรัสเซียซื้อไม่อั้น ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

ในภาพกว้าง:

ถ้ามองในภาพกว้าง สนธิสัญญายุทธศาสตร์แบบรอบด้าน 2024 ที่ทำกับเกาหลีเหนือบ่งชี้ว่าประธานาธิบดีปูตินกำลังกระชับความร่วมมือกับมิตรประเทศของตน ปูตินพูดพาดพิงถึงสงครามยูเครน ถึงพวกตะวันตกที่ต้องการรักษาความเป็นเจ้า

เมื่อนาโตที่มีรัฐบาลสหรัฐเป็นแกนนำ กำลังสู้กับรัสเซียในยูเครน ปูตินจึงยกระดับความร่วมมือกับเกาหลีเหนือคุกคามสหรัฐกับพวกในย่านนี้

เมื่อรัฐบาลสหรัฐกับพวกเพิ่มขีดความสามารถทางทหารตามยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก การช่วยพัฒนากองทัพเกาหลีเหนือช่วยรัสเซียกับจีนก็เช่นกัน แม้รัสเซีย-จีน-เกาหลีเหนือไม่เอ่ยถึงความร่วมมือในทางสามเส้าแบบสหรัฐ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ แน่ล่ะรัสเซียแสดงบทบาทด้านการทหาร ส่วนจีนแสดงบทบาทด้านเศรษฐกิจ

งานนี้เกาหลีเหนือได้ประโยชน์เต็มๆ อุ่นใจมากขึ้นเพราะรัสเซียจะช่วยเมื่อถูกรุกราน แต่จะผลักดันให้เผชิญหน้ามากขึ้น คาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้น อีกไม่นานเกาหลีเหนือคงอวดโฉมอาวุธรุ่นใหม่ให้สื่อตะวันตกได้ตีข่าวภัยคุกคามที่รุนแรงขึ้น นโยบายให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์นับวันจะยิ่งเลือนราง ในทางตรงข้ามต่างใช้หลักป้องปรามด้วยนิวเคลียร์เข้มข้นยิ่งขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กระสุนนัดเดียวเปลี่ยนโลก

บรรยากาศหาเสียงตอนนี้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นใดอีก ทรัมป์ควรชนะเลือกตั้ง กระสุนนัดเดียวชี้ขาดผลเลือกตั้ง ชี้นำโลกอนาคตควรทำตามนโยบายทรัมป์

ทำไมสมาชิกอาเซียนสนใจเข้าBRICS

ประเทศไทย มาเลเซีย และเวียดนามพยายามสัมพันธ์ดีกับมหาอำนาจทั้งหลาย ไม่อิงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจนเกินตัว มอง BRICS เป็นโอกาสใหม่

ระบบโลกที่บิดเบี้ยว (2) สงครามยูเครน

เงื่อนไขสงบศึกของปูติน การใช้ทรัพย์รัสเซียที่ยึดได้เป็นหลักฐานชี้ว่าต่างฝ่ายต่างยืนยันรบต่อ บ่งชี้ระเบียบโลกที่บิดเบี้ยว ต้องสู้กันต่อไป

ระเบียบโลกที่บิดเบี้ยว (1)

สัจนิยมมีข้อดีหลายอย่างแต่เปิดช่องให้รัฐบาลบางประเทศตีความว่าสามารถรุกรานประเทศอื่นๆ เป็นเรื่องปกติของโลก บางประเทศพยายามทำให้ดูดีอ้างว่าเป็นการป้องกันตนเอง

ไล่ ชิงเต๋อจะพาไต้หวันรบจีนไหม (2)

การประกาศเอกราชอาจอยู่ในแผนที่ต้องดำเนินตามขั้นตอน ดังผู้เชี่ยวชาญตะวันตกบางคนวิเคราะห์ว่ากองทัพจีนจะบุกไต้หวันในสมัยรัฐบาลไล่ชุดนี้