ได้เวลา...เดิน!!

ไม่ได้มาชวนเดินขบวนหรือเดินประท้วงใครหรอกนะ ถึงแม้บรรยากาศบ้านเมืองยามนี้มันออกจะดึงดูดความน่าจะเป็น และความน่าสนใจก็ตาม

แต่วันนี้ มากระตุกชายเสื้อ (อีกแล้ว) ก็เพราะว่า มีข้อมูลในเชิงวิชาการมาตอกย้ำซ้ำเติมอีกหนว่า ผลการวัดจำนวนก้าวที่เดิน 4,000- 5,000-7,000-8,000 และ 10,000 ก้าวต่อวัน กับผลการออกกำลังกายของผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เป็นเวลานาน 10 ปี ..มีดังต่อไปนี้

คนที่เดิน 4,000 ก้าว ไม่มีโรคซึมเศร้า

คนที่เดิน 5,000 ก้าว สามารถป้องกันภาวะสมองเสื่อม โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได้

คนที่เดิน 7,000 ก้าว สามารถป้องกันโรคกระดูกพรุนและมะเร็งได้

คนที่เดิน 8,000 ก้าว ป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานได้

คนที่เดิน 10,000 ก้าว สามารถป้องกันโรคเมตาบอลิซึมได้

นพ.มยอง-วูลี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชีอิล ระบุว่า ตามผลการสำรวจพบว่า การเดินช่วยกระตุ้น 'สมอง' ลดการเกิดโรคความจำเสื่อม การเดินเอาชนะ 'การหลงลืม' การเดินช่วยเพิ่ม 'แรงจูงใจ' การเดินช่วยเพิ่มรสชาติของข้าว การเดินคือยารักษา 'โรคอ้วน' การเดินมีประสิทธิภาพในการรักษาโรค 'ปวดหลัง' การเดินยังรักษาโรค 'ความดันโลหิตสูง' การเดินคือยารักษา 'การสูบบุหรี่'

คนที่เดินทำให้ 'สมอง' กระปรี้กระเปร่า เมื่อความเครียดก่อตัว ให้ออกไปเดินเล่น 

ถ้าคุณหมดความมั่นใจ ก็แค่ลุกไปเดิน

ถ้า 'ร่างกาย' ของคุณเหนื่อย ให้เริ่มเดินก่อน

หากคุณรู้สึกหดหู่ใจเพียงแค่ออกไปเดิน

เมื่อคุณโกรธ ให้เดินออกไป

ในวันที่ไม่มีอะไรทำ ก็แค่เดินเล่นเป็นงานอดิเรก

ฉะนั้น ใครที่บอกไม่มีเวลาออกกำลัง ก็ลองลุกขึ้นเดิน!! เหนืออื่นใดรู้หรือไม่ว่า คนเราจะแก่เร็วแก่ช้า ก็วัดกันที่กำลังวังชาที่ขาของเรานะคะ.

"ป้าเอง"  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำถาม?!?ตามกระแส

rock star ของหลานลิซ่า กลายเป็นกระแสดังไปทั่วหล้า เรียกว่าในโซเชียลออนไลน์ มีภาพยืนกลางถนนเยาวราชอวดกันยกใหญ่ ก็น่าปลื้มอกปลื้มใจแทนซูเปอร์สตาร์ตัวกลั่นสัญชาติไทย

มุม..ที่ต้องตามให้ทันโลก

การได้ชื่อว่าเป็น "สว." หรือผู้สูงวัย มีดีเยอะแยะทีเดียว ถ้าหากเราสามารถปล่อยวางและยอมรับความจริงว่า วันนี้โลกอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่แล้ว เราควรจะต้องปล่อยให้พวกเขาสร้างโลกในแบบที่เขาอยากจะเห็นและอยากจะเป็น

เงียบเชียบ

มีกิจธุระอันจำเป็นต้องไปแถวตลาดโบ๊เบ๊ ซึ่งถือว่าเป็นตลาดขายส่งเสื้อผ้าที่ขึ้นหน้าขึ้นตาอย่างมาก เมื่อกลางสัปดาห์นี้เอง

บ๊ะจ่าง..มีเรื่องราว

เทศกาลไหว้บ๊ะจ่างผ่านพ้นไปแล้วอีก 1 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เอง และเชื่อว่า ในห้องไลน์ หรือตามโซเชียลจะมีเรื่องราวเล่าสู่กันฟังถึงประวัติเกี่ยวกับอาหารเมนูนี้ ที่แหล่งกำเนิดเกิดที่ประเทศจีน ด้วยความเชื่อและตำนานเล่าขานต่างๆ มามาย

ออกซิเจนบำบัด

เรื่องของการทำสมาธิ ไม่ว่าด้วยวิธีนั่ง เดินจงกรม สวดมนต์ หรือเล่นโยคะ รำมวยจีน เราตระหนักรู้ทั้งด้วยตัวเอง และจากคำบอกกล่าวของเพื่อนฝูงญาติมิตรว่า เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

ตลาดของชาวต่างประเทศ?!?

น่าตื่นเต้น ยินดีแทนพ่อค้าแม่ขายในตลาดนัดสวนจตุจักรนะคะ เพราะวันนี้ บรรยากาศกลับมาคึกคัก คนเดินช็อปปิ้งกันครึกโครมอีกหน หลังจากเงียบเหงาไปนานพอสมควรจากปัญหาการท่องเที่ยวที่ถดถอย ซึ่งมีเหตุต่อเนื่องจากการระบาดของโควิด-19