ดาบนี้คืนสนอง

ฉากจบ..หัวหน้าผู้ร้ายโดนพระเอกเหยียบอก เอาปืนจ่อหัว..

 “ขอไว้ชีวิตผมด้วยเถิด ผมจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี จะประกอบสัมมาอาชีพสุจริต และทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม อย่าฆ่าผมเลย”

ไม่ว่าจะเหี้ยมจะโหด ฆ่าคนมาไม่รู้จะกี่ศพ แต่พอมาเผชิญหน้ากับความตาย ผู้ร้ายในหนังทุกรายก็จะต้องพูดในลักษณะนี้ ซึ่งพระเอกบางคนก็ใจอ่อน..

แต่ก็มีที่ยังคงใจแข็งด้วยแรงแค้น ที่พ่อแม่น้องสาวถูกฆ่าด้วยน้ำมือหัวหน้าผู้ร้าย คำวิงวอนขอชีวิตจึงไม่เป็นผล..ปัง ปัง!

นี่..ที่หยิบยกเอาผู้ร้ายในจอหนังมาเกริ่นก็ไม่ใช่ไร พอดีเห็นข่าวที่คุณภูมิธรรม เวชยชัย พูดก่อนหน้าที่นายทักษิณจะไปขึ้นศาล..

“อย่าทำเลย ประเทศกำลังหนักแล้ว ประเทศยังต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา เพียงแค่คนไม่กี่คน ที่อยากมีอำนาจ ก็ควรจะใช้วิธีอื่น

อย่าใช้วิธีที่ทำให้ประเทศพังทลายไปมากกว่านี้ สงสารประเทศ สงสารประชาชน”!

ก็เลยให้จิตประหวัดไปถึงเรื่องราวเก่าๆ ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่ขณะนั้นกำลังมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน-สร้างความปรองดองของคนในชาติอย่างขมีขมัน

ในท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำ สังคมแตกแยก โรคระบาดโควิด สารพัดม็อบเดินว่อนตามท้องถนน แต่พลพรรคของพรรคเพื่อไทยที่มีคุณภูมิธรรมเป็นผู้หลัก-ผู้ใหญ่อยู่ด้วย

ไม่เคยเว้นว่างสักวันที่จะพูดโจมตี ใส่ร้าย ป้ายสี ปลุกกระแสทั้งจริง-ทั้งเท็จ สร้างความสับสน พร้อมๆ กับความพยายามขัดขวางไม่ให้การบริหารประเทศชาติเจริญรุดหน้า

ซ้ำ..คุณภูมิธรรมก็ร่วมอยู่ในขบวนการนั้น อย่างเช่นเคยกล่าว.. “การเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

 ที่แม้จะมีกลไกอำนาจหลายด้านเป็นเกราะคุ้มภัย แต่ผลงานนั้นกลับเป็นที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาประชาชนว่าไม่ได้ทำให้ประเทศก้าวหน้า..

 ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลภายใต้ผู้นำคนนี้กลับยิ่งฉุดรั้งความเจริญเกือบทุกด้านจนทำให้ประเทศถอยไปสู่ความล้าหลังไกลมาก

ประเด็นที่แสดงผลชัดเจนคือการดำเนินนโยบายผิดพลาดหลายอย่าง โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างถ้วนหน้า

ประชาชนประสบความยากจนฝืดเคือง ทำมาหากินด้วยความยากลำบากกันอย่างถ้วนทั่ว การดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ความไม่ชอบมาพากลในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน

รวมทั้งการทำลายหลักการ กติกา กฎหมายตามหลักสากลที่สังคมโลกยอมรับในยุคที่ผู้นำครองอำนาจเบ็ดเสร็จ  

ล้วนแล้วแต่กระทำขึ้นด้วยความย่ามใจโดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หรือการตรวจสอบใดๆ..”

ครับ..สภาพประเทศในเวลานั้นหนักหรือหนักกว่าในขณะนี้เสียด้วยซ้ำ แต่คุณภูมิธรรมนอกจากจะไม่ให้ความร่วมมือใดๆ กับรัฐบาลในการช่วยกันแก้ไขปัญหาแล้ว

วันๆ ยังจะใช้วิธี-คำพูดซ้ำเติมให้ประเทศพังทลาย-ย่อยยับลงไปอีก โดยไม่ได้รู้สึกสงสารประเทศ สงสารประชาชน อย่างใดไม่!

มาวันนี้ ที่ตัวเองเป็นรัฐบาล-บริหารประเทศชาติ แค่ 9 เดือนผ่าน ภาพประชาชนประสบความยากจนฝืดเคือง ทำมาหากินด้วยความยากลำบากกันอย่างถ้วนทั่ว ปรากฏชัด

การทำลายหลักการ กติกา กฎหมายด้วยความย่ามใจ ก็ปรากฏเห็น จนผู้คนเขาทนไม่ได้จึงได้ออกมาพูด มาวิจารณ์ไปตามสิทธิ-เสรีภาพที่พึงมี

แล้วยังงี้ คุณภูมิธรรมจะหน้าหนาไปหน่อยไหม ถึงได้ออกมาออดอ้อน-วิงวอนขอ “อย่าทำเลย ประเทศกำลังหนักแล้ว..

อย่าใช้วิธีที่ทำให้ประเทศพังทลายไปมากกว่านี้ สงสารประเทศ สงสารประชาชน”

ในเมื่อเคยก่อกรรมทำกับเขาไว้ ถ้า “ดาบนี้จะคืนสนอง”..

จะร้องขอชีวิตทำไมเล่า..หือ?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เสียดายเวลา

คิดถึงลุงตู่.. เปล่านะ..ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาพคนเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยฉีกขาด ไปออกรอบตีกอล์ฟกับรัฐมนตรี สส. นักธุรกิจที่เขาใหญ่นั่นหรอก!

“ทีวีดิจิทัล”กับอนาคต!

ปี..2571 คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมต.คมนาคม บอก รถไฟสายสีส้มด้านตะวันออก จากศูนย์วัฒนธรรมถึงมีนบุรี จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้

น้ำตาแตกทั้งอาเซียน

ขออีกวัน.. นานๆ ได้ออกงานที ก็ที่ได้ไปร่วมงานประกาศ “รางวัลภาพยนตร์ไทยครั้งที่ 32” ของชมรมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ ที่หอศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรมนั่นแหละ!

“ปุจฉา”ที่ต้องหาคำตอบ

“เราเคารพคำสั่งศาลครับ”! นี่..เป็นความรู้สึกของคุณพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษา ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)..

ตรรกะชี้นำที่ประหลาด

ออก..อย่างนี้ต้องลาออก! นั่นเป็นเสียงกระแทกแดกดันแบบอย่าง “ร็อกเกอร์” มาดเท่ คุณบิลลี่ โอแกน ซึ่งฟังทีไรก็ให้เกิดอารมณ์ร่วม พร้อมชูแขนตะโกนตามหนักแน่น.. “อย่างนี้ต้องลาออก”!

สว.ของประชาชน?

“Miss Universe Thailand 2024”.. รู้กันแล้วใช่ไหม..ชื่อ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” เป็นสาวภูเก็ต วัย 20 ปี สูง 180 ซม. ส่วนจะเหมาะสมกับตำแหน่งมงฯ หรือไม่อย่างไร..