บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ถึงคราว กกต.ออกโรงโต้กลับบ้าง หลังจาก "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" พล่านแถลงสะท้อนความจนตรอก เปิดศึกกับองค์กรที่มีส่วนดำเนินคดียุบพรรค อ้างศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจยุบพรรค ส่วน กกต.ก็ยื่นคำร้องโดยมิชอบ "ปกรณ์ มหรรณพ" รับหน้าที่ตัวแทน 7 เสือ กกต. สอนกฎหมายก้าวไกล โดยเฉพาะนิยามคำว่า "มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า"  "คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับลงวันที่ 31 ม.ค.2567 ได้ระบุชัดเจนว่าการกระทำของผู้ถูกร้อง เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำวินิจฉัยนี้ทำให้ กกต. ไม่อาจจะทำอย่างอื่นได้ เมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการตามมาตรา 92 (1) (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ถือว่า กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้แล้ว ถ้าขนาดที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ใช่หลักฐานอันควรเชื่อถือได้ กกต.คงตอบกับสังคมยาก"

๐ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา "ชัยธวัช ตุลาธน" สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล สวนกลับทันควัน กกต. ตีความแบบศรีธนญชัย ตะแบงว่าต้องมีกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงสืบสวนสอบสวนเป็นเบื้องต้น แถมย้อนว่าคำสั่งศาลผูกพันใคร เพราะแค่สั่งให้นายพิธากับพรรคก้าวไกลเลิกแสดงความคิดเห็นรณรงค์ยกเลิก 112 และห้ามไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยกระบวนการนิติบัญญัติ ถึงกับอึ้ง ฟังแล้วเสมือนถือกฎหมายคนละฉบับ แต่เจ้าตัวพูดเองว่าสุดท้ายคงเป็นประเด็นที่ต้องไปต่อสู้กันในศาล ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าคำพิพากษาออกมาเป็นลบจะจบมั้ย อย่าร้องงอแงเหมือนเล่นขายของก็แล้วกัน

๐ ปลุกไม่ขึ้น! หลังเว็บไซต์รัฐสภาเปิดรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 รัฐธรรมนูญ ของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ที่นางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน ร่วมกันเสนอ โดยมีเนื้อหาให้นิรโทษกรรมแก่การกระทำความผิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.2549 จนถึงวันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ซึ่งหลักๆ แล้วเป็นคดีความผิดตามประกาศและคำสั่งของ คสช.ที่สำคัญ รวมถึงคดี 112 ด้วย โดยปิดการแสดงความคิดเห็นไปแล้ว ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 พ.ค.-12 มิ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 90,503 คน ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับร่างดังกล่าว 64.66% เห็นด้วยเพียง 35.34%

๐ ผ่านไปเกือบสัปดาห์ ตั้งแต่ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ออกปากแขวะคนในป่า ซึ่งในทางการเมืองรู้กันว่า หมายถึง "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มีฐานบัญชาการใหญ่อยู่ในมูลนิธิป่ารอยต่อฯ จนป่านนี้ยังไม่มีลูกพรรคพลังประชารัฐสักคนออกมาซัดกลับ ต่างจากเมื่อก่อนลิบลับ แค่อ้าปากก็โดนรุมถล่มแล้ว หนำซ้ำมือขวาอย่าง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค ได้แต่ท่องๆ คำว่า "อย่าคิดมาก" ให้สัมภาษณ์สื่อวันก่อน ฟังแล้วยังงงว่าปกป้องผิดคนหรือเปล่า ทำเอาคนค่อนแคะกันทั้งเมืองว่าลูกพรรค พปชร. กลัวทักษิณมากกว่าเจ้านายตัวเองซะอีก ขณะที่สายในป่าเมาธ์ว่าไม่ใช่แบบนั้น แต่เพราะลุงป้อมสั่งห้ามไม่ให้ใครออกมาพูดอะไร กำชับหนักหนาให้ทุกคนอยู่นิ่งๆ ไว้ก่อน แต่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกรู้สา เพราะการที่ "ลุงป้อม" ไม่ยอมไปร่วมดินเนอร์กับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนนี้ ทั้งที่ พปชร.เป็นเจ้าภาพ ก็ส่งสัญญาณชัดยิ่งกว่าชัด.

 

ลี้คิมฮวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

บ้านจันทร์ส่องหล้าแตกแน่! เบิร์ธเดย์ครบ 75 ปี "นายใหญ่" ทั้งที หนำซ้ำเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี ที่ได้กลับมาฉลองบนแผ่นดินบ้านเกิดตัวเอง รับรองบรรดานักการเมืองทั้งเพื่อไทยและต่างพรรคแห่ตบเท้ากันคึกคัก ถึงแม้ "อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่า “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet” ที่ลุ่มๆ ดอนๆ มาโดยตลอด หากยึดตามที่ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ผู้บริหารชาติผ่านสื่อสังคมออนไลน์เลียนแบบ “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

บันทึกหน้า 4

ความคิด เป็นไปตามโผ การประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 โดย พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่อาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ผลปรากฏว่า นายมงคล สุระสัจจะ ได้รับเลือกเป็นประธาน สว.คนใหม่ ได้ 159 คะแนน

บันทึกหน้า 4

ชื่นมื่นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.-20 ก.ค. ผู้มีอำนาจทางการเมืองตัวจริงไปปรากฏกายรวมตัวกันที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยช่วงเย็นวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ

บันทึกหน้า 4

บันทึกบรรทัดแรก ขอแสดงความยินดีกับ "เศรษฐา ทวีสิน"

บันทึกหน้า 4

ยิ่งใกล้เปิดฉากสภาน้ำเงิน เลือก 3 เก้าอี้ใหญ่ ฝุ่นยิ่งตลบ เล่นเอา สว. พันธุ์ใหม่ ระดมพลัง 30 คน ปิดชั้น 7 ตึกหรูย่านรัชดาฯ หารือกันเคร่งเครียด 4 ชั่วโมง ก่อนจะเคาะชื่อ "บุญส่ง น้อยโสภณ" ชิงตำแหน่งรองประธาน สว.