บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” “ทักษิณ   ชินวัตร” นายใหญ่เพื่อไทย และความหวังใหม่ของฝ่ายอนุรักษ์ ปรากฏตัวสยบข่าวหนีคดีไปต่างประเทศ ผ่านงานบวชที่ จ.ปทุมธานี โชว์พลังการเมืองอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการปลุกพลังคนเสื้อแดงขึ้นสู่กับเครื่องจักรสีส้ม พร้อมส่งสัญญาณทางการเมืองว่าตัวเองยังมีอิทธิฤทธิ์อยู่เต็มขั้น  

"ผมได้ยินมาว่า พี่น้องเสื้อแดงปทุมธานีแข็งแรงมาก ผมกลับมาแล้วนะ พี่น้องชาวเสื้อแดงก็ต้องกลับมาอยู่ด้วยกันนะ หลายคนกอดผมร้องไห้ นึกไม่ถึงว่าผมจะกลับมา และบางทีผมก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าผมจะได้กลับมา"

"การกลับมาครั้งนี้ถือว่าผมเป็นหนี้บุญคุณหลายด้าน โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยลืมผม ไม่ว่าจะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ไม่ลืมผม" 

"ก็คิดว่าผมจะตอบแทนพี่น้องคนไทยและพระเจ้าอยู่หัวของเราอย่างไร เพราะสำหรับผมถือว่าชีวิตที่เหลือนั้นคือกำไร ก็อยากจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน บ้านเมืองและสถาบันพระมหากษัตริย์" 

 ทักษิณ กล่าวไว้ระหว่างเป็นประธานงานเลี้ยงฉลองบวช นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ลูกชายนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ที่ลานเทศบาลตำบลธัญบุรี (คลองเจ็ด) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี (8 มิ.ย.67)

คำพูดของ “นายใหญ่” เวลาขอความช่วยเหลือ ไม่ทราบว่าคนเสื้อแดงจะคุ้นๆ บ้างไหม หลังก่อนหน้านี้ก็เคยถีบหัวส่งอย่างไม่ไยดี เมื่อย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555 ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก่อนการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ล้างผิดให้ “ทักษิณ” ในคดีทุจริตคอร์รัปชัน ในการจัดการชุมนุมรำลึก 2 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  ทักษิณ วิดีโอคอลจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังเวทีแยกราชประสงค์ พูดคุยกับคนเสื้อแดงประมาณ 45 นาที 

โดยตอนหนึ่ง ทักษิณ กล่าวว่า “พี่น้องนี่ทำมาเยอะแล้ว แต่เมื่อทำมาถึงจุดหนึ่ง ก็หมายความว่า เหมือนกับผมจะว่ายน้ำ ผมจะข้ามฝั่ง พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมา ถึงฝั่งเรียบร้อยแล้ว ผมต้องเดินทางต่อขึ้นภูเขา พี่น้องจะแบกเรือมาขึ้นภูเขาทำไม ถึงเวลาที่ผมจะขอนั่งรถขึ้นเขา แต่ผมไม่เคยลืมคนที่ขับเรือมาส่งผม แล้วผมจะต้องหันกลับไปขอบคุณคนที่ขับเรือมาส่งผม เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน ก็หวังว่าพี่น้องคงจะเข้าใจว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่ของเรามาสุดทาง แต่ไม่ได้หมายความว่าเลิกทำหน้าที่ ต้องดูต่อไปว่า ใครเบี้ยว ใครมากระชากประชาธิปไตยเราอีก ใครกำลังจะยัดเยียดความไม่เป็นธรรมต่ออีก” 

การพูดดังกล่าวเป็นเหตุให้ สส.พรรคเพื่อไทย เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในเวลาต่อมา ก่อนเป็นเหตุให้ กปปส.ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กระทั่งเป็นเหตุให้เกิดรัฐประหารโดย คสช.   

กลับมาที่ปัจจุบัน “ทักษิณ” เรียกใช้มุกเดิมกลับมาอีกครั้ง ไม่รู้คนเสื้อแดงจะว่าอย่างไรหนอ หากนึกภาพไม่ออก ก็ขอให้ฟัง “จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตประธาน นปช. เยอะๆ 

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ “ทักษิณ” ยังพาดพิงคนในบ้านป่าฯ ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย งานนี้จึงทำให้เกิดการตีความว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อยู่เบื้องหลังกลุ่ม 40 สว. ยื่นตรวจสอบการกระทำของ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

การท้ารบของ “ทักษิณ” ต่อ “บิ๊กป้อม” น่าจะกระทบต่อสถานะพรรคร่วมรัฐบาล และจับตาว่าหลังจากนี้จะสร้างแรงกระเพื่อมและจุดแตกหักอย่างไร  

ทั้งนื้เชื่อว่าจะเกิดหลังคำตัดสินคดีของ “เศรษฐา” ไม่ว่าจะอยู่หรือจะไป หากเพื่อไทย ยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ จะต้องมีการเขี่ยคนในพรรคพลังประชารัฐพ้น ครม. และคนคนนั้น ก็คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ น้องชาย “บิ๊กป้อม” นั้นเอง

ส่วน รมต. และมุ้งๆ อื่นใน พปชร. ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพะเยา กลุ่มกำแพงเพชร กลุ่มเพชรบูรณ์  ฯลฯ คงกลับบ้านเก่า ไม่รอตายซากไปพร้อม “ลุงป้อม” ที่ยังไม่ยอมกลับไปเลี้ยงหลานเสียที.  

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ความคิด เป็นไปตามโผ การประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 โดย พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่อาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ผลปรากฏว่า นายมงคล สุระสัจจะ ได้รับเลือกเป็นประธาน สว.คนใหม่ ได้ 159 คะแนน

บันทึกหน้า 4

ชื่นมื่นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 19 ก.ค.-20 ก.ค. ผู้มีอำนาจทางการเมืองตัวจริงไปปรากฏกายรวมตัวกันที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยช่วงเย็นวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ

บันทึกหน้า 4

บันทึกบรรทัดแรก ขอแสดงความยินดีกับ "เศรษฐา ทวีสิน"

บันทึกหน้า 4

ยิ่งใกล้เปิดฉากสภาน้ำเงิน เลือก 3 เก้าอี้ใหญ่ ฝุ่นยิ่งตลบ เล่นเอา สว. พันธุ์ใหม่ ระดมพลัง 30 คน ปิดชั้น 7 ตึกหรูย่านรัชดาฯ หารือกันเคร่งเครียด 4 ชั่วโมง ก่อนจะเคาะชื่อ "บุญส่ง น้อยโสภณ" ชิงตำแหน่งรองประธาน สว.

ครบรอบ 50 ปี

"เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น ถือว่าเป็นคนการเมือง ผู้กว้างขวาง และ เป็นบุคคลคนสำคัญอย่างมากในช่วงรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์" มาจนถึงการย้ายชายคาจากพรรคพลังประชารัฐมา ร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ สู้ศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

บันทึกหน้า 4

ต้องบอกว่าอากาศยามนี้วิปริตแปรปรวนแทบไม่ต่างจากสถานการณ์ในบ้านเมืองไทย เพราะแม้ไม่มีวิกฤตใดๆ ในโลกหรือในประเทศอย่าง “วิกฤตต้มยำกุ้ง” หรือ “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์”