ว่ากันว่าปีนี้...ถือเป็น ปีแห่งการเลือกตั้ง ที่มีความสำคัญเอามากๆ ถึงขั้นนิตยสารระดับโลกอย่าง Time Magazine ยังต้องเน้นความสำคัญเอาไว้ว่า “2024 is not just an election year. It’s perhaps the election year.” เพราะไม่ว่าประเทศใหญ่ๆ ที่มีบทบาท อิทธิพล ต่อโลกทั้งโลก อย่างอเมริกา-รัสเซีย-อินเดีย ฯลฯ ต่างก็ต้องเลือกโน่น-เลือกนี่ ภายในช่วงปีนี้ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
แม้แต่บ้านเรา...ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ก็ยังดันต้องมาเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ วุฒิสมาชิก อีกกว่า 200 คน เพื่อเข้าไปทำหน้าที่แทนผู้ซึ่งหมดวาระไปตามสภาพ โดยใครจะเลือกใคร-ไม่เลือกใคร ออกจะเป็นอะไรที่น่าปวดหัวฉิบหาย น่าจะยุ่งตายโหง-ยุ่งตายห่าไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะก่อนการลงรับสมัคร ระหว่างการรับเลือก ไปจนถึงหลังจากได้รับการเลือกเฟ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุเพราะกระบวนการ ขั้นตอน ที่ถูกกำหนดไว้ในตัวบทกฎหมาย น่าจะสร้างความปวดเศียร เวียนเกล้า ความวิงเวียน ให้กับบรรดาผู้สมัคร รวมไปถึงผู้เลือก ในแต่ละขั้นตอน จนอาจต้องพกยาหม่อง ยาดมยาลม ไว้เป็นเข่งๆ เอาเลยก็ไม่แน่...
ส่วนผู้ที่ เหลือรอด จากกระบวนการเลือกตั้งในลักษณะเช่นนี้...จะเป็นผู้ที่เหมาะสม สอดคล้องกับการทำ หน้าที่ ในลักษณะดังกล่าวหรือไม่? อย่างไร? ก็คงยากที่จะสรุปได้ เพราะไม่ว่าจะเลือกกันในแบบไหน? อย่างไร? แต่ถ้าหากผู้เลือกหรือผู้ได้รับเลือก ไม่มีธรรม ซะอย่าง!!! ไม่ว่าจะออกแบบ ดีไซน์ ให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปแบบเรียบๆ-ง่ายๆ หรือเพียรพยายามสร้างความสลับซับซ้อน พิสดาร เพียงใด ผลที่ออกมามันคงไม่ได้ผิดแผก แตกต่าง ไปจากกันซักกี่มาก-น้อย และถึงจะเลือกซักกี่ครั้ง-กี่หนก็ตาม นั่นคือ...ออกไปในแนว ประชาธิป-ตาย แทนที่จะเป็น ประชาธิปไตย อย่างที่ปรารถนาและต้องการ...
เพราะดังที่ อภิมหาพระ ท่านอาจารย์ พุทธทาสภิกขุ ท่านได้ฟันธงและฟันเฟิร์มไว้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นแหละว่า “ประชาธิปไตย...ที่ว่าของประชาชน-เพื่อประชาชน-โดยประชาชนนั้น ใช้ได้เฉพาะประชาชนที่มีธรรมเท่านั้น ถ้าประชาชนไม่มีธรรมเสียอย่าง มันก็เป็นได้แค่ประชาธิป-ตายเท่านั้นเอง” และอาจด้วยเหตุนี้หรือไม่? อย่างไร? คงต้องไปคิดๆ กันเอาเอง ที่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหน? อย่างไร? เมื่อไหร่? พรรค เผาไทย กับพรรค ก้าวสะเปะสะปะ เขาเลยมักจะ นอนมา โดยหลังจากนั้น...หนีไม่พ้นต้องนิมนต์ พระ เอาไว้สวดนำหน้า เพื่อที่จะแบกขึ้นเมรุ เตรียมเผาหลอก-เผาจริง กันในภายหลังอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ...
แต่ก็นั่นแหละ...แม้แต่ ประชาธิปไตยอเมริกา ที่ถือเป็นต้นแบบ แม่แบบ ของประชาธิปไตยแทบจะทั่วทั้งโลกก็เถอะ การที่จะต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง ทรัมป์บ้า กับ โจ ซึมเซา ขึ้นเป็นผู้นำประเทศในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปลายปีนี้ ย่อมทำให้บรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย น่าจะปวดเศียร เวียนเกล้า กันไปมิใช่น้อย คือต้องตัดสินใจว่าจะเลือกคน บ้า หรือคน เอ๋อ กันไปตามมี-ตามเกิด โดยไม่ว่าจะเลือกใครก็ตาม โอกาสที่จะช่วยประเทศอเมริกาให้กลับมา Great Again ก็ออกจะลำบาก ยากเย็น ไปด้วยกันทั้งสิ้น อันเนื่องมาจากบรรดา หนี้สิน ที่ผู้นำประเทศ หรือผู้นำประชาธิปไตยทั้งหลาย ได้ร่วมกันสร้างสม สะสม เอาไว้กว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์เข้าไปแล้ว ย่อมทำให้ประเทศทั้งประเทศ ตลอดไปจนผู้คน พลเมือง มีอันต้องแห้งเหี่ยว หัวโต ไปอีกตราบนานเท่านาน...
อาจเพราะด้วยเหตุทำนองนี้นี่เอง...ที่ทำให้ ประชาธิปไตย เลยไม่ใช่เป็น คำตอบสำเร็จรูป ไปซะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผัวกิน-เมียหาย พ่อตาดม-แม่ยายฟื้น ฯลฯ แต่กลับเป็นสิ่งที่ อันตราย มิใช่น้อย โดยเฉพาะถ้าประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ เต็มไปด้วย ประชาชนที่ไม่มีธรรม ซะเป็นส่วนใหญ่ หรือเป็นประชาชนที่มี ความเปราะบางทางสติ-ปัญญา ดังที่อภิมหานักวิทยาศาสตร์ นักค้นคว้าและวิจัย Dr.Gerald Crabtree ท่านสรุปไว้ในรายงานการวิจัยเรื่อง Our fragile intellect เมื่อช่วงปี ค.ศ.2021 ชนิดถึงกับต้องเสนอให้อาศัย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เป็นตัวกำหนดรูปแบบการเมือง การปกครอง แทนที่จะอาศัย ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ หรืออาศัย ความเชื่อ ประเภทที่ว่าระบอบที่เลวน้อยที่สุดกว่าระบอบอื่นๆ ก็คือระบอบประชาธิปไตยแต่เพียงเท่านั้นเอง...
อย่างไรก็ตาม...แม้ว่าอภิมหานักวิทยาศาสตร์รายนี้...ท่านจะไม่ได้ระบุไว้ชัดเจน ว่าอะไรคือระบอบที่เหมาะสม สอดคล้องกับประชาชนที่มี ความเปราะบางทางสติ-ปัญญา ยิ่งเข้าไปทุกที แต่ที่น่าสนใจเอามากๆ ก็คือท่านพร้อมที่จะ ฟันธง ลงไปเลยว่า...“วิธีที่ดีที่สุด ในการรับมือกับสภาวะเช่นนี้ ก็คือการอาศัย...ศีลธรรม หรือการฟื้นฟูความดีงามในหมู่มนุษย์ให้หวนคืนกลับมาให้จงได้” อันเป็นสิ่งที่สอดคล้อง ต้องกัน กับอภิมหาพระอย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุ ที่สรุปไว้แบบสั้นๆ แต่ตรงไป-ตรงมา ประมาณว่า ถ้าศีลธรรมไม่กลับมา...โลกาจะวินาศ นั่นแล ด้วยเหตุนี้...ไม่ว่าจะเลือกตั้งกันแบบไหน? อย่างไร? เมื่อไหร่? แต่ถ้าความเป็นไปของบ้านเมืองโดยทั่วไป ยังคงไหลรูดไปสู่สภาพ เมืองใดไร้ธรรมอำไพ อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าจะเลือกใคร-ไม่เลือกใคร แต่โอกาสที่ เมืองนั้น...บรรลัยแน่นอน!!! ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร
จาก 'น้ำตา' ถึง 'รอยยิ้ม' พระราชินี
ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา...ได้อ่านข่าวพระราชาและพระราชินีสเปน เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเยียนผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในเมืองปอร์ตา แคว้นบาเลนเซีย