
เมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดไฟเขียวให้ยูเครนสามารถใช้อาวุธอเมริกันโจมตีเป้าหมายในดินแดนของรัสเซีย นั่นย่อมเท่ากับเป็นการเปิดเกมใหม่ที่จะทำให้มอสโกต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้เช่นกัน
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเคยประกาศว่า หากตะวันตกอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธของตนถล่มดินแดนรัสเซียก็ย่อมหมายความว่าตะวันตกประกาศสงครามกับมอสโกโดยตรง
เกมสงครามยูเครนก็จะถูกยกระดับไปสู่การเผชิญหน้าที่กว้างขวางขึ้นอย่างไม่มีข้อสงสัย
แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครนเตือนแล้วว่าถ้าเขาถูกบังคับให้ทำสงครามแบบ “มัดมือชก” โอกาสพ่ายแพ้ก็จะมีสูง
และหากยูเครนแพ้, ยุโรปก็เตรียมทำสงครามกับรัสเซียได้
หลังจากลังเลอยู่หลายเดือน ไบเดนก็ยอมอนุมัติให้ยูเครนใช้อาวุธที่ได้รับจากสหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายในรัสเซียที่กำลังทำการโจมตีเมืองคาร์คิฟ
เป็นไปตามคำขอจากทางกรุงเคียฟเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้ว
เป็นการเปิดเผยของรัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน เองที่เป็นคนออกข่าวว่าไบเดนยอมลดเงื่อนไขดั้งเดิมแล้ว
แต่ยังยืนยันว่าเป็นการช่วยยูเครน “ป้องกันตัวเอง”
มิใช่เป็นการ “รุกคืบเข้าครอบครองดินแดนของรัสเซีย”
บลิงเคนเปิดเผยเรื่องนี้ระหว่างการแถลงข่าวหลังร่วมประชุมไม่เป็นทางการกับรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกกลุ่มองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
แต่แม้จะถูกซักถามก็ไม่ยอมชี้แจงว่าภายใต้กติกาใหม่นี้ทหารยูเครนจะสามารถขยายพื้นที่และเป้าหมายการโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซียหรือไม่อย่างไร
เพียงแค่บอกว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายของไบเดน ที่เดิมทีปฏิเสธการใช้อาวุธอเมริกันเข้าไปในรัสเซีย มีสาเหตุจากการ “ปรับยุทธศาสตร์ไปตามเงื่อนไขในสนามรบ”
โดยใช้คำว่า adapt and adjust
ซึ่งกินความหมายกว้างขวางมาก ตีความได้ทั้ง “ปรับ, เปลี่ยนได้ในทุกรูปแบบ”
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า “ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ยูเครนได้ขออนุญาตใช้อาวุธที่เราให้ไปเพื่อป้องกันการรุกรานนี้ รวมถึงต่อต้านกำลังของรัสเซียที่มาระดมพลที่บริเวณชายแดนในฝั่งรัสเซียเพื่อการรุกโจมตีเข้ามาในยูเครน”
บลิงเคนบอกต่อว่า “เรื่องนั้นไปถึงท่านประธานาธิบดี และอย่างที่ท่านได้ยินกัน ท่าน (ไบเดน) ได้อนุมัติการใช้อาวุธเพื่อวัตถุประสงค์นั้นแล้ว”
และสำทับว่าต่อแต่นี้ไปวอชิงตันก็จะยังคง “ปรับตัว” และ”ปรับเปลี่ยน” ท่าทีตามความจำเป็นของสถานการณ์
การปรับเปลี่ยนล่าสุดเกิดจากการที่รัสเซียเปิดฉากถล่มคาร์คิฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 30 กม.อย่างต่อเนื่อง
ระเบิดหลายลูกไปลงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกลางเมือง เซเลนสกีตอบโต้ว่านี่เป็นการกระทำของ “ผู้ก่อการร้ายรัสเซีย” ที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนอย่างไร้ความรับผิดชอบ
ความจริง ไบเดนไม่ได้เพิ่งปรับท่าทีกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ไบเดนผ่อนปรนกับยูเครนมากขึ้นโดยได้เปิดไฟเขียวให้สหรัฐฯ จัดส่งขีปนาวุธพิสัยไกลที่เรียกว่า ATACMS ให้กรุงเคียฟเป็นการเพิ่มศักยภาพการทำสงครามของยูเครนอย่างเห็นได้ชัด
หนึ่งวันก่อนการแถลงข่าวเรื่องนี้ของบลิงเคน วอชิงตันมีนโยบายห้ามกองทัพยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลประเภทนี้ซึ่งมีพิสัยการโจมตีไกลสุด 300 กม. รวมถึงอาวุธระยะไกลอื่นๆ ที่สหรัฐฯ ช่วยเหลือ โจมตีเข้าไปในรัสเซีย
ที่มีการปรับท่าทีของอเมริกานั้นเป็นเพราะประเทศอื่นๆ ใกล้ยูเครนต่างก็เริ่มแสดงความกังวลว่ายูเครนอาจจะกำลังเพลี่ยงพล้ำรัสเซียในสมรภูมิรบในยูเครน
หนึ่งในประเทศที่แสดงความร้อนรนเป็นพิเศษคือเอสโตเนีย ซึ่งถือว่าตนเองเป็นรัฐแนวหน้า
เอสโตเนียเป็นสมาชิกนาโตและมีเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนจ้องมองข้ามแม่น้ำนาร์วาที่ป้อมปราการอิวานโกรอดของรัสเซีย
รัฐบอลติกเล็กๆ แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
วันนี้ เอสโตเนียกลัวว่าหากรัสเซียเอาชนะยูเครนได้ เป้าหมายต่อไปของปูตินคือประเทศในทะเลบอลติก
มีความหวั่นหวาดในเหล่าบรรดาประเทศบอลติกว่ามอสโกอาจต้องการจะให้กลุ่มตนกลับไปอยู่ใต้อิทธิพลของรัสเซียอีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลเอสโตเนียจึงได้ทุ่มงบประมาณและอาวุธเพื่อช่วยเหลือยูเครน โดยบริจาคแล้วกว่ากว่า 1% ของ GDP
“หากประเทศนาโตทุกประเทศทำเช่นนี้” คาจา คัลลาส นายกรัฐมนตรีของเอสโตเนียประกาศ “ยูเครนคงเป็นผู้ชนะ”
เป็นที่รู้กันว่ายูเครนขาดแคลนปืนใหญ่ กระสุน ระบบป้องกันทางอากาศ
นักข่าวถามว่าเอสโตเนียมี “แผนสำรอง” อย่างไร
นายกฯ ตอบว่า “เราไม่มีแผน B เพราะเราไม่ต้องการเห็นรัสเซียชนะยูเครน”
“ดังนั้น เราจึงต้องเน้นไปที่แผน A เพื่อช่วยให้ยูเครนต่อต้านการรุกรานของรัสเซียให้สำเร็จ
“เราต้องไม่ยอมมองโลกในแง่ร้าย หากยูเครนเข้าร่วมกับนาโต เราก็จะไม่มีวันแพ้”
นายกฯ หญิงของเอสโตเนียคนนี้ปัจจุบันอายุ 46 ปี และเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2021
ชาวเอสโตเนียจำนวนมากไม่พอใจกับการขึ้นภาษีเพื่อจ่ายค่าสนับสนุนการป้องกันประเทศยูเครน
แต่นายกฯ คาจา คัลลาส ต้องการให้ตะวันตกตื่นขึ้นกับสิ่งที่เธอมองว่าเป็นภัยคุกคามที่มีอยู่จากท่าทีของรัสเซียที่ก้าวร้าวครั้งนี้
“รัสเซียต้องการหว่านความกลัวในสังคมของเรา” เธอบอกนักข่าว
เธอเรียกการรุกรานของรัสเซียเป็น “สงครามไฮบริด”
“การโจมตีแบบผสมผสาน” หรือที่รู้จักกันในชื่อสงคราม “จำกัดเขต” หรือ “สงครามสีเทา” อันเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรที่สงสัยว่าดำเนินการโดยฝ่ายตรงข้าม
โดยรัสเซียไม่จำเป็นต้องยิงปืน ไม่มีใครถูกฆ่า และมักถูกตำหนิ ปักหมุดยาก-แต่ความเสียหายก็อาจเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวาง
ตัวอย่างคือ การระเบิดลึกลับใต้น้ำที่ทำให้ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมใต้ทะเลบอลติกระเบิดในปี 2022
อีกตัวอย่างหนึ่งคือ ข้อกล่าวหาล่าสุดว่ารัสเซียแทรกแซงทางอิเล็กทรอนิกส์ในเที่ยวบินที่แล่นผ่านใกล้กับเขตคาลินินกราดบนชายฝั่งทะเลบอลติก
ในรายงานประจำปีล่าสุด Kapo หน่วยงานรักษาความปลอดภัยภายในของเอสโตเนียยกตัวอย่างฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ที่โรงเรียนหลายร้อยแห่งในเอสโตเนียและรัฐบอลติกอื่นๆ ได้รับอีเมลแจ้งว่ามีการทิ้งระเบิดในอาคารเรียน
รายงานระบุ "ภัยคุกคามดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่การสร้างความตึงเครียดทางจิตใจและอารมณ์โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเปราะบางที่สุด ซึ่งคุกคามความปลอดภัยของเด็กๆ"
เธอถูกถามว่าเอสโตเนียมีความเสี่ยงเพียงใดต่อการรุกรานของรัสเซียในอนาคต?
คำตอบคือ: ไม่มีใครควรประเมินความทะเยอทะยานของปูตินต่ำเกินไปเป็นอันขาด!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

