“ผมก็กินข้าวนะ”

เสียงแว่วจากคลองหลอดว่า  “มท. หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ยัวะจัด หลังทราบว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)  ยอมให้  8 บริษัทสื่อสารโทรคมนาคมชื่อดัง พาดสายสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง และสร้างความเสียหายให้รัฐเป็นเงินหมื่นล้านบาท 

มีรายงานจากว่า  “มท. 1” ได้สั่งให้จัดการอย่างเร่งด่วน เพราะมองว่า เป็นการทำธุรกิจที่อาจเข้าข่ายไม่สุจริต และอาจจะเป็นการเอาเปรียบประชาชน เพราะการไฟฟ้า ไม่เก็บหนี้บริษัทสื่อสาร ไม่ตัดสายสื่อสารที่ค้างชำระ   ที่สำคัญมาตรฐานยังแตกต่างจาก ชาวบ้านติดค้างค่าไฟฟ้า 2 -3เดือน กลับมาตัดไฟ ยกมิเตอร์ ประชาชน 

ล่าสุด ปลัดกระทรวงมหาดไทย รับลูกรับทันที  และมีคำสั่งด่วนที่สุด ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2567  ถึง ผู้ว่ากฟภ. ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยให้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา รวมทั้งดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และรายงานผลการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทยทราบ ทุกวันที่ 5 ของเดือน จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการ

ปะหน้า “อนุทิน” บอกว่า   เพิ่งทราบหลังได้รับรายงานก็ตกใจเหมือนกัน ทั้งนี้  มีคนบอกการพาดสายเป็นการลักลอบไปพาด ตนเองก็บอกไปว่า “ผมก็กินข้าวนะ”  เพราะว่าการพาดต้องมีกระบวนการ ของการพาดสายกับเสาไฟฟ้าเป็นระยะทางพันๆกิโลเมตรทั่วประเทศไทย ซึ่งตนเองเชื่อว่าไม่มีใครที่มองไม่เห็น 

เห็นว่าตอนนี้ กฟภ. ก็ลงบัญชีส่วนนี้ไว้หมื่นกว่าล้าน และตกลงกันได้แล้วว่าจะจ่ายที่ 6.5 พันล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ก็ต้องไปเร่งเรียกเก็บ ซึ่งรัฐมนตรีสั่งเรื่องนี้ไปแล้ว พอตกลงแล้วทางบัญชีก็ต้องรับรู้เป็นรายได้ ปรากฎในงบการเงินอยู่ในบัญชีลูกหนี้ บริษัทไหนที่ลูกหนี้เยอะๆแสดงว่าไม่มีเงินสด 

ดังนั้นจึงต้องไปเร่งเก็บ  จริงๆแล้วค่าพาดสายต่างๆ อยู่ในต้นทุนของผู้ประกอบการอยู่แล้ว ถ้ามาพาดฟรีๆ ก็แสดงว่าไม่มีต้นทุนซึ่งเดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่

 “ชาวบ้านไม่จ่ายค่าไฟยังมีตัดไฟ อันนี้เป็นหมื่นล้านยิ่งต้องจ่าย ถ้าไม่ดำเนินการก็ 157  ซึ่งก็ผู้บริหารทั้งหมด   แต่ไม่ใช่รัฐมนตรีผิด157 ก็แล้วกันเพราะว่าผมสั่งไปแล้ว”

แหม...ดีนะที่  “มท.หนู” เห็นตัวเลขหนี้เสียก่อน มิเช่นนั้นอาจกลายเป็น “ดินพอกหางหมู” ยอมให้ติดหนี้เป็นหมื่นเป็นแสนล้านบาทก็เป็นได้  

 

ช่างสงสัย  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ออร่าจับมาก

ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

“ไม่ต้องรอมติพรรค”

“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทันเกมทักษิณ

โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”

ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ

หัวหน้าแก๊งเด็ก

พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย

ไร้บอดี้การ์ด

ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน