ผู้นำไต้หวันหวังว่าจีนจะยอมรับการมีอยู่ของประเทศไต้หวัน เคารพการตัดสินใจของคนไต้หวัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่เรื่องนี้จะสู่สงครามแทนสันติหรือไม่
20 พฤษภาคม 2024 ไล่ ชิงเต๋อ (Lai Ching-te) ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของไต้หวันจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party) หรือ DPP พรรคแกนนำผู้บริหารประเทศสมัยที่ 3 ติดต่อกัน กล่าวสุนทรพจน์ในวันรับตำแหน่ง มีสาระสำคัญดังนี้
ภาพ: ไล่ ชิงเต๋อ ในวันรับตำแหน่งประธานาธิบดี
เครดิตภาพ: https://www.taipeitimes.com/News/front/archives/2024/05/20/2003818143
ผลประโยชน์ของประชาชนต้องมาก่อน:
ในฐานะสังคมประชาธิปไตยต้องคำนึงประชาชนก่อนเสมอ รัฐบาลจะตอบสนองความคิดเห็นประชาชน ดำเนินนโยบายที่ประชาชนให้ความสำคัญ ยึดมั่นประชาธิปไตยของเรา รักษาสันติภาพอินโด-แปซิฟิก ส่งเสริมโลกให้อยู่ดีมีสุข
ประชาธิปไตย สันติภาพ และการอยู่ดีมีสุขของไต้หวันสัมพันธ์กับโลก นานาชาติได้ประจักษ์ว่าคนไต้หวันยึดถือประชาธิปไตยและเสรีภาพอย่างไร นำเกียรติยศสู่ชาวไต้หวันทั้งมวล รัฐบาลจะใช้ความเป็นประชาธิปไตยสนับสนุนการพัฒนา ร่วมมือกับนานาชาติลึกซึ้งยิ่งขึ้น ร่วมมือกับชาติประชาธิปไตยอื่นๆ สร้างสังคมประชาธิปไตยโลก
ไม่มีใครชนะในสงคราม แต่สันติภาพต้องจ่ายราคา ไต้หวันตั้งอยู่ตรงแนวห่วงโซ่เกาะแรก (first island chain) ความเป็นไปของไต้หวันมีผลต่อโลก นานาชาติพูดว่าสันติภาพและเสถียรภาพช่องแคบไต้หวันแยกไม่ออกจากความมั่นคงและการอยู่ดีมีสุขของโลก สหรัฐดำเนินนโยบายรักษาความมั่นคงอินโด-แปซิฟิกอย่างแน่วแน่
รัฐบาลนี้เลือกสันติภาพ การอยู่ดีมีสุขมาจากสันติภาพและมีเสถียรภาพ เช่นเดียวกับที่คนไต้หวันเป็นคนรักสันติ ตนหวังว่าจีนจะยอมรับการมีอยู่ของสาธารณรัฐจีน (Republic of China) เคารพการตัดสินใจของคนไต้หวัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
เนื่องด้วยจีนต้องการผนวกไต้หวัน เราจึงต้องเตรียมพร้อมป้องกันตัวเองด้วย 3 นโยบายหลัก ได้แก่ เสริมสร้างการป้องกันประเทศ พัฒนาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รักษาความสัมพันธ์ 2 ฝั่งช่องแคบไต้หวัน และยึดมั่นหลักประชาธิปไตย
นอกจากนี้จะร่วมมือกับชาติประชาธิปไตยอื่นๆ สร้างสันติภาพด้วยการป้องปรามและป้องกันสงคราม (deterrence and prevent war) ให้เกิดสันติภาพด้วยมีกำลังเข้มแข็ง
อนาคตไต้หวันคืออนาคตโลก:
ไต้หวันต้องการโลกเช่นเดียวกับที่โลกต้องการไต้หวัน เรามีบทบาทสำคัญ ไต้หวันก้าวหน้าทางด้านเซมิคอนดักเตอร์กับ AI เป็นซัพพลายเชนสำคัญของชาติประชาธิปไตย ไต้หวันจึงมีผลต่อเศรษฐกิจโลก มีผลต่อการอยู่ดีมีสุขของนานาชาติ อนาคตไต้หวันจึงเป็นอนาคตโลก
สร้างสันติภาพด้วยมีกำลังเข้มแข็ง ส่งเสริมอุตสาหกรรมด้านเซมิคอนดักเตอร์ AI การทหาร ความมั่นคง และการเฝ้าระวัง (surveillance)
ด้านชีวิตความเป็นอยู่ นอกจากพัฒนาเศรษฐกิจ รัฐบาลจะเพิ่มขยายการดูแลเด็กเล็ก ผู้สูงวัย บริการดูแลถึงบ้าน ดูแลราคาบ้านที่พักอาศัย
สุดท้ายนี้ถ้าคนไต้หวันชื่นชมประเทศตัวเอง ดูแลพัฒนาบ้านถิ่นฐานบ้านเกิด นานาชาติจะเห็นความรุ่งเรืองของประเทศและจะเคารพรักไต้หวัน ชื่นชมว่าเป็นประเทศที่เจริญแล้ว
สุนทรพจน์รับตำแหน่งนี้สะท้อนท่าทีหลักของผู้นำไต้หวันคนใหม่ นำสู่การวิพากษ์ การตอบโต้จากจีน
ใช้คำว่าสาธารณรัฐจีน:
Global Times สื่อจีนโจมตีสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไล่ที่ใช้คำว่าสาธารณรัฐจีน (Republic of China) จีนกับไต้หวันต่างยอมรับซึ่งกันและกัน
ในมุมจีน ไต้หวันเป็นเพียงเกาะ เป็นมณฑลหนึ่งของจีน ไม่ใช่ประเทศ สหประชาชาติยืนยันเช่นนี้ว่าไต้หวันไม่ใช่ประเทศ
รัฐบาลจีนเปรียบรูปร่างประเทศเหมือนไก่ตัวหนึ่งที่ลำตัวหันหน้าไปทางขวามือ พื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือส่วนหัว ภาคกลางคือส่วนลำตัว พื้นที่ทางภาคตะวันตกคือส่วนท้าย เกาะไต้หวันกับเกาะไหหลำ คือขา 2 ขา
ในมุมมองจีน เกาะไต้หวันเป็นเพียงขาข้างหนึ่งของไก่ทั้งตัวเท่านั้น
ภายใต้มุมมองเช่นนี้การที่ฝ่ายไต้หวันจะพยายามเรียกร้องขอความ “เท่าเทียม” กับจีน จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนไม่น่าจะยอมรับได้ เมื่อ “ขาไก่” พยายามทำตัวให้เทียบเท่ากับ “ตัวไก่”
สุนทรพจน์พยายามใช้คำว่าประชาธิปไตยเพื่อกลบเกลื่อนความเป็นไต้หวันที่เป็นไท ไม่อยู่ภายใต้จีน แตกต่างจากรัฐบาลจีน
รัฐบาลจีนยึดนโยบายจีนเดียว (one-China policy) ในเชิงอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนของจีน โดยยึดขอบเขตดินแดนตั้งแต่ญี่ปุ่นประกาศแพ้สงครามเมื่อปี 1945 ไต้หวันซึ่งครั้งหนึ่งเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น บัดนี้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจีนดังเดิมแล้ว แต่ประวัติศาสตร์ไม่หยุดเพียงเท่านี้ สงครามกลางเมืองจีนทำให้ไต้หวันตกอยู่ในมือของพวกชาตินิยมเจียง ไคเช็ก ที่จีนถือว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน เป็นรัฐบาลเถื่อน สักวันจะต้องนำไต้หวันกลับมาอยู่ในอ้อมอกแผ่นดินแม่ ให้จีนเป็นจีนที่ครบบริบูรณ์
ไต้หวันจึงเป็น “ติ่ง” ของการปฏิวัติคอมมิวนิสต์จีนที่รอวันสำเร็จ
ควรย้ำว่านโยบายจีนเดียว (one-China policy) เริ่มต้นเมื่อปี 1972 เป็นข้อตกลงระหว่าง Richard Nixon กับประธานเหมา เจ๋อตง (Mao Tse-tung)
เนื่องจากทศวรรษ 1970 สหรัฐกับจีนร่วมมือกันต้านสหภาพโซเวียต (ผู้นำโลกเสรีร่วมมือกับคอมมิวนิสต์จีน) รัฐบาลนิกสันปรับเปลี่ยนนโยบายในปี 1972 สหรัฐอเมริกายอมรับว่า “ไม่ว่าจะฝั่งใดของช่องแคบไต้หวันเป็นจีนหนึ่งเดียว ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน สหรัฐจะไม่ท้าทายท่าทีดังกล่าว”
จนทุกวันนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังอยู่ รัฐบาลสหรัฐทุกชุดยอมรับ
ท่าทีของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือ DPP แม้เห็นด้วยกับหลักการจีนเดียว แต่ต่างกันในรายละเอียด มีนาคม 2015 ไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ผู้นำพรรค DPP เคยแสดงความเห็นว่า ไต้หวันยังต้องปกครองตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป ความสัมพันธ์กับจีนต้องเกื้อหนุนความมั่นคงและเสถียรภาพภูมิภาค เป็นประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่ายจริงๆ
ความจริงคือ ไต้หวันในวันนี้มีระบอบการปกครองของตนเอง คนไต้หวันเลือกรัฐบาลและดำเนินนโยบายอย่างอิสระ แต่ในทางกฎหมายระหว่างประเทศกับทางประวัติศาสตร์นั้นไต้หวันในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอวันสิ้นสุดสงครามกลางเมือง
โทษจีนเป็นภัยคุกคาม:
ประโยค “จีนต้องการผนวกไต้หวัน” เราจึงต้องเตรียมพร้อมป้องกันตัวเอง Global Times วิพากษ์ส่วนนี้ว่าเป็นการโยนความผิดแก่จีนโดยตรง ถือความต้องการส่วนตนเป็นที่ตั้ง (ต้องการเอกราช)
ชาวไต้หวันที่ต้องการเอกราชสามารถวาดฝันได้ แต่เมื่อตื่นจากหลับต้องคิดต่อในโลกแห่งความจริงว่าหากประกาศเอกราชจะส่งผลเช่นไร (ไต้หวันสามารถประกาศเอกราชและต้องยอมรับสงครามที่เกิดขึ้น) หรือแม้กระทั่งดำเนินนโยบายที่สุ่มเสี่ยง คุกคามจีนในทางใดทางหนึ่ง รัฐบาลจีนตอบโต้แน่นอน
เรื่องนี้ชาวไต้หวันน่าจะเข้าใจดี
แต่ไหนแต่ไรจีนทำการซ้อมรบมุ่งเป้าไต้หวัน หลังแนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรและคณะเยือนไต้หวัน เข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) เมื่อสิงหาคม 2002 ทางการจีนตีความว่าเป็นคณะบุคคลระดับสูงสุดในรอบ 25 ปีที่เยือนไต้หวัน รัฐบาลจีนพยายามคัดค้านการเยือนลักษณะดังกล่าว จึงตอบโต้ด้วยมาตรการสมน้ำสมเนื้อ ทำการซ้อมรบ 3 เหล่าทัพ 4 วันใน 6 เขตพื้นที่รอบไต้หวัน และนับจากนั้นเป็นต้นมาจีนส่งเครื่องบินเรือรบวนเวียนรอบไต้หวันแทบไม่เว้นวัน
นี่คือผลลัพธ์ที่รัฐบาลไต้หวันกับสหรัฐไม่ฟังคำเตือนจีนในครั้งนั้น
ส่วนรอบนี้จีนทำการซ้อมรบใหญ่อีกครั้งรอบเกาะไต้หวันด้วยกระสุนจริง ประกาศชัดว่าเพื่อตอบโต้สุนทรพจน์รับตำแหน่งของประธานาธิบดีไล่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เส้นทางสายไหมตะวันออกแห่งศตวรรษที่21
BRI จะเป็นแค่การพัฒนาร่วมหรือเป็นยุทธศาสตร์ครองโลกของจีนเป็นที่ถกแถลงเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรนานาชาติเฝ้าติดตาม จริงหรือเท็จกาลเวลาจะให้คำตอบ
ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู2024 (2)
เนทันยาฮูย้ำว่า อิสราเอลหวังอยู่ร่วมกับนานาชาติโดยสันติ แต่กระแสโลกต่อต้านอิสราเอลส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของอิสราเอล นโยบายกับความจริงจึงย้อนแย้ง
ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู 2024 (1)
บัดนี้สถานการณ์ชี้ชัดแล้วว่าอิสราเอลกำลังจัดการฮิซบุลเลาะห์ต่อจากฮามาส ทำลายอิหร่านกับสมุนให้เสียหายหนัก
เลือกตั้งสหรัฐ2024เลือกสังคมนิยมหรือฟาสซิสต์
ทรัมป์ชี้ว่าแฮร์ริสเป็นพวกสังคมนิยม ส่วนแฮร์ริสชี้ว่าทรัมป์เป็นเผด็จการ สหรัฐกำลังเข้าสู่การเลือกระหว่าง “สังคมนิยม” กับ “ฟาสซิสต์”
ทรัมป์จะเป็นเผด็จการหากชนะอีกสมัย?
หากได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยและปกครองแบบเผด็จการ ก็ต้องถือว่าเป็นเผด็จการที่มาจากความต้องการของคนอเมริกันตามระบอบประชาธิปไตยสหรัฐ
ทรัมป์คุกคามโลกเสรีประชาธิปไตย?
การที่ทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อรัสเซีย จีน อาจไม่ปกป้องสมาชิกนาโต ชวนให้ตั้งคำถามว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามโลกเสรีประชาธิปไตยหรือไม่