ขออนุญาตสวมหมวกคนขี้บ่นนิดหนึ่งครับ ในฐานะบ้านอยู่เมืองทองธานี เวลาบอกใครว่าอยู่เมืองทองฯ ส่วนใหญ่เขาจะพูดว่า “โห…ไกลจัง!!” ผมเลยต้องตอบกลับไปว่า “บ้านคุณก็ไกลสำหรับผมเหมือนกัน!!”
สำหรับใครที่รู้จักเมืองทองฯ จริงๆ จะบอกว่า “อาหารการกินเยอะดีนะ” อันนี้ผมไม่เถียง และค่อนข้างจะอวดด้วย
แต่มีอีกประเภทหนึ่งจะพูดว่า “โห…เมืองทองฯ รถติดจัง!!” อันนี้ผมจะสวนกลับ “ติดเพราะคนที่มางานเมืองทองฯ นั่นแหละ” ซึ่งคนที่มางานเมืองทองฯ มักเอารถมา และจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมขับรถที่ยิ่งกว่าเห็นแก่ตัว สำหรับพวกเราชาวเมืองทองฯ (ส่วนมาก) จะรู้ระบบ รู้การจราจร รู้เลนไหนควรและเลนไหนไม่ควรขับขี่ รู้จังหวะเลี้ยวไม่ให้เดือดร้อนคนอื่น
แต่เท่าที่สังเกตคนมางาน (ส่วนใหญ่) เลี้ยวรถเหมือนกลัวไม่ได้เลี้ยว ทั้งๆ ที่มันไปไม่ได้ เลยทำให้รถวิ่งตรงไปไม่ได้ ส่วนคนที่ลงทางด่วนในเมืองทองฯ ล้วนแต่อยากแย่งเลี้ยวขวาเข้า Impact ให้ได้ ไม่ว่าจะข้าม 2-3 เลนก็ตาม เลยทำให้รถวิ่งตรงไปไม่ได้
ขอแอบบอกคนที่กลัวไม่ได้เลี้ยว ทั้งในเมืองทองฯ และที่ลงทางด่วน สำหรับในเมืองทองฯ คุณเลี้ยวได้ครับ แต่ขอให้ดูจังหวะก่อน และขอให้นึกถึงรถที่วิ่งตรง อย่ากลัวไม่ได้เลี้ยว จนจี้เลี้ยวตั้งแต่เกือบปากซอยเมืองทองฯ มันน่าอายครับ ส่วนคนที่ลงทางด่วน ในการรีบเลี้ยวเข้า Impact เหมือนเป็นการต่อสู้เพื่อชิงความได้เปรียบ แต่สิ่งที่เกิดคือ สร้างความรำคาญให้คนอื่น คุณตรงไปและกลับรถได้ครับ
แต่พูดไปก็เท่านั้น ผมแอบบอกความในใจชาวเมืองทองฯ เวลาใครบอกว่า “เมืองทองฯ รถติดจัง… อยู่ได้ไงเนี่ย?” พวกเรารู้เวลา รู้เส้นทางหลีกเลี่ยงการมาเยือนของท่านกันครับ ลองดูทะเบียนรถที่ทำให้รถติดในเมืองทองฯ (ในวันมีงาน) น้อยคันจะมีทะเบียนรถนนทบุรีนะครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจัดระเบียบการจราจรในเมืองทองฯ ก็มี 2-3 แบบเหมือนกัน ถ้าปล่อยให้เมืองทองจัดการเอง จะเป็น รปภ.ยืนโบกรถแบบงงๆ และเน้นให้เพื่อนถ่ายรูปให้ แต่ถ้าตำรวจจราจรมาเองจะเรียบร้อยแล้วไปได้ดี หรือถ้าเมืองทองฯ จัดชุดพิเศษยืนโบกรถคู่กับตำรวจจะไปได้ดีมากครับ
เอาล่ะ ขอถอดหมวกคนขี้บ่นและเข้าเรื่องของเราดีกว่าครับ
เราเข้าเดือนมิถุนายนเต็มตัว ซึ่งแปลว่าเป็น Pride Month หลายคนคงสงสัยว่า Pride Month คืออะไร มาจากไหนอย่างไร ทำไม Pride Month เป็นเดือนแห่งการฉลองการยอมรับ การเผยแพร่ และการรณรงค์เรื่องราวชาว LGBTQ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender and Queer Community)
สัญลักษณ์ของ LGBTQ Pride คือ ธง ป้าย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ออกเป็นสายรุ้ง แต่สายรุ้งในที่นี้มี 6 สี สีแดง เป็นสัญลักษณ์ “ชีวิต” สีส้ม เป็นสัญลักษณ์ “การเยียวยา การรักษา” สีเหลือง เป็นสัญลักษณ์ “แสงพระอาทิตย์” สีเขียว เป็นสัญลักษณ์ “ธรรมชาติ” สีน้ำเงิน/ฟ้า เป็นสัญลักษณ์ “ความสามัคคี การประสานกัน” และสีม่วง เป็นสัญลักษณ์ “วิญญาณ” (วิญญาณของคนนะครับ ไม่ใช่ผี)
ธงรุ้งเดิม (Rainbow Flag) ที่ศิลปิน Gilbert Baker สร้างขึ้นมาเมื่อปี 1978 มีสีทั้งหมด 8 สี นอกจากสีที่ผมเล่าไปแล้ว ยังมีสีชมพู (ชมพูแบบ Hot Pink เลยครับ) เป็นสัญลักษณ์ “sex” ซึ่งตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าเป็น “sex” ที่แปลว่าเพศ หรือ “sex” ที่แปลว่า เพศสัมพันธ์ ส่วนอีกสีเป็นสีเขียวอมฟ้า (turquoise) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ “ศิลปะ”
คำถามถัดมาคือทำไม Pride Month ต้องเป็นเดือนนี้?
เพราะเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ปี 1969 ตำรวจนิวยอร์กบุกและพยายามกวาดล้างจัดระเบียบบาร์เกย์แห่งหนึ่งใน West Village ชื่อ The Stonewall Inn ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมของตำรวจในยุคนั้นที่ปกติ แต่ในครั้งนี้ถือว่าไม่ปกติ เพราะวันนั้นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่อสู้กลับ ไม่ยอมเป็นเหยื่อ ไม่ยอมก้มหัวให้การกระทำที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นการริเริ่มชุมนุมที่เรียกว่า The Stonewall Riots (หรือ the Stonewall Uprising) ที่ยื้อออกไปหลายวันทีเดียว และเป็นการริเริ่มการเรียกร้องสิทธิชาวเกย์ (Gay Liberation Movement) ในปัจจุบัน The Stonewall Inn เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2015 และในปี 2016 ประธานาธิบดี Barack Obama ยกระดับให้เป็นแหล่งประวัติศาสตร์ระดับประเทศ
Pride Month ครั้งแรกเกิดขึ้นในยุคประธานาธิบดี Bill Clinton ที่กำหนดเดือนมิถุนายนให้เป็น Gay and Lesbian Pride Month ในวันที่ 11 มิถุนายน ปี 1999 ส่วนในยุคของ Obama เพิ่มเป็น Lesbian, Gay, Bisexual and Transgender Pride Month และตอนนี้เป็น Pride Month
ตลอดเดือนนี้แทบทั่วโลกจะเห็นการแสดงตนด้วยการโบก Rainbow Flag บ้าง ใส่เสื้อ Rainbow หรือแต่งบ้าน/ร้านให้ออกสีรุ้งครับ และคนในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเกย์เท่านั้นที่อยากจะมีส่วนร่วม จะมีกลุ่มคนที่ชอบโชว์ความใจกว้างและความทันสมัย เลยแต่งสีรุ้งกับเขาด้วย และแต่งบ้าน/ร้านเหมือนกัน ทำให้ถูกมองว่าโหนกระแสเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองหรือเปล่า
Business Insider เขียนถึงเรื่องนี้ครับ บอกว่าหลายบริษัทที่แสดงตนร่วม Pride Month อาจไม่ได้ทำเพื่อสังคม เท่ากับทำเพื่อ “ไม่ให้โดนด่า”…ว่ากันไปครับ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'BRO!!!!!'
เกือบ 2 สัปดาห์กับผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไป เว้นบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมา พวกนี้ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่า
“ถ้าไม่เลือกเรา...เขามาแน่”...ทำให้เขาชนะขาดลอย
ผมไม่แน่ใจว่ากว่าแฟนคอลัมน์จะได้อ่านบทความนี้ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นมันแห้งเกินไปหรือเปล่า เพราะกว่าจะถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ เรื่องนี้อาจจะเก่าไปแล้วก็ได้
ผมจะไม่แปลกใจถ้าTrumpชนะ….แต่ผมจะแปลกใจถ้าHarrisแพ้
อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะได้รู้กันว่าใครจะเป็นผู้นำ “The Free World” ระหว่างอดีตประธานาธิบดี กับอดีตรองประธานาธิบดี
Thank you, Fernando
โค้งสุดท้ายในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐมาถึงแล้ว ผมขอประกาศตัวว่า ผมไม่ใช่นักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมาครับ บ้านเมืองเราเต็มไปด้วยนักวิเคราะห์ที่จะฟันธงและวิเคราะห์อย่างหนึ่ง….
28 ยังแจ๋ว!!!!
ผมขออนุญาตเขียนเรื่องเบาๆ อีกสักครั้งหนึ่งครับ ไม่เขียนวันนี้ผมไม่รู้จะเขียนตอนไหน และเอาเข้าจริงผมอยากพาแฟนๆ ทั้งหลายออกจากโลกข่าวดิไอคอนกรุ๊ปครับ
8ปีที่แล้ว….ที่ไม่มีวันลืม
ในชีวิตทุกคนมักจะมีอยู่ไม่กี่เหตุการณ์ที่ทำให้เราจำบรรยากาศ จำบริบท จำความรู้สึก และจำทุกรายละเอียด เมื่อเรารำลึกถึง หรือนึกถึงอีกที