ขณะที่ดวงเมืองพระเสาร์จร(7)จะเขย่าใหญ่รัฐบาล-พรรคร่วม-นโยบายรัฐบาลระหว่าง 19 มิถุนายน-1 ธันวาคม 2567 ตามที่ได้ทำนายไว้แล้ว
ตอนนี้มาดูกันถึงลีลาเคราะห์และเกณฑ์ที่จะช่วยคานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีว่าจะเป็นอย่างไร และกระทบความเป็นนายกฯ-พระยาของท่านหรือไม่ซึ่งขอสรุปเบื้องต้นง่ายๆคือ
ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีตั้งแต่วันเกิดที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นมาแล้วและจะกินเวลายาวนานหนึ่งปีถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่านมีแนวโน้มคลอนแคลน-ไร้เสถียรภาพ ต้องพบกับการบั่นทอนเป็นระยะๆ ด้วยหลักโหรดังนี้
ก.ตั้งแต่วันเกิดที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2568 อายุเจ้าชะตาย่าง 63 ปี ทักษาจรตกภูมิเสาร์(7)มีคำทำนายเรื่องใหญ่ในชีวิตที่จะเกิดในหนึ่งปีนี้ตามลิลิตทักษาพยากรณ์ นิพนธ์โดยสมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี(จุ้ย ต้นราชสกุลมนตรีกุล)ว่า… ตกหรดีโสรา เกรงภยาภัยหลากๆ ประหยัดปากจงหนัก เสียของรักใหญ่ยุ่ง เพราะเพื่อนฝูงมูลนาย ทรัพย์เสียหายหลายด้าน อย่าเข้าบ้านผิดเวลา หินลาภาจักได้…
สรุปคือ ให้ระมัดระวังคำพูดซึ่งทางโหรหมายถึงพระพุธ น่าจะรวมถึงเอกสาร-หนังสือ-ลายเซ็นด้วยเพราะ มีโอกาสเสียของรักชิ้นใหญ่อันเนื่องจากเพื่อนฝูงหรือพวกเจ้ามูลนาย
เพ่งเล็งไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นของรักชิ้นใหญ่มีโอกาสจะกระทบกระเทือนจากกลุ่มมูลนายคือสมาชิกวุฒิสภาสี่สิบคนที่ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของท่านจากการลงนาม(ลายเซ็น)สนองพระบรมราชโองการฯแต่งตั้งคุณพิชิต ชื่นบานเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นี่เป็นตุ๊กตาตัวแรกที่ตั้งไว้
ข.อีกหนึ่งเคราะห์รออยู่หนึ่งปีระหว่างวันเกิดที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567-15 กุมภาพันธ์ 2568 จะออกแนวอึดอัดใจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี-ไม่เป็นไปดังใจ-มีปัญหากับเพื่อนหรือพรรคร่วมรัฐบาล จังหวะร้ายๆมีโอกาสตกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ (พระราหูเดชจร8เดินในราศีมีน-ภพวินาสน์ดวงชะตา)
ค.อีกหนึ่งเคราะห์ที่รอเกิดซ้ำในหนึ่งปีวันเกิดคือเคราะห์จากพระพุธ(4)เสีย คือระหว่างวันเกิดที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 - 15 กุมภาพันธ์ 2568 พระพุธ(4)เป็นกาลกิณีจร มีโอกาสเกิดเรื่องเอกสารลายเซ็นต์หรือหนังสือหรือคำพูดพาเดือดร้อนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปตามลีลาการเดินของพระพุธ(4)ในดวงชะตาคือ
ค.1เกิดขึ้นแล้วระหว่าง 3 มีนาคม- 7 พฤษภาคม 2567 เคราะห์จากการ เลือกทำ-ปรับครม.เอง-ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเอง จนเกิดเหตุไม่คาดฝันดร.ปรานปรีย์ พหิทธานุกรลาออกจำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ(พระพุธกาลกิณีจร4สวนกับพระราหูเดชจร8ในราศีมีน-ภพวินาสน์ดวงชะตา)
ค.2เคราะห์เกิดซ้ำอีกใส่ตัวเองคือระหว่าง 7 พฤษภาคม-24 พฤษภาคม 2567 (พระพุธ4กาลกิณีจรทับลัคนาที่ราศีเมษ) เหตุการณ์ทะยอยเกิดคือ
---8พฤษภาคม 2567คุณกฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในระดับโทรศัพท์ห้ามไม่ทัน
---21พฤษภาคม 2567คุณพิชิต ชื่นบานชิงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
---23พฤษภา2567 ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องสมาชิกวุฒิสภา40คน(เลขสี่-กาลกิณีวันเกิด)ยื่นเรื่องให้พิจารณากรณีตั้งคุณพิชิต ชื่นบานเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทำให้ท่านสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรีหรือหลุดจากนายกรัฐมนตรีหรือไม่
และต่อไปนี้คือรอบใหญ่ของเคราะห์ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ท่านต้องฟันฝ่ากว่าที่ผ่านมาคือ
ง.ยกการ์ดปิดหน้าสูงๆตั้งแต่ 10 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป(พระพุธ4กาลกิณีทับ๒)
จ.เคราะห์ในตำแหน่งนายกฯจะเริ่มหนักขึ้นระหว่าง27มิถุนายน-1กันยายน2567(พระพุธกาลกิณีจร4เดินในราศีกรกฎแถมเดินผิดปกติ ทับและเล็งดาวสำคัญหลายดวงของดวงชะตา )นำความยึกๆ ยักๆของโชคร้าย-ปัญหาอุปสรรคจากพิษเอกสารเลยเซ็นที่รับสนองพระบรมราชการโอการฯตั้งคุณพิชิต ชื่นบานสู่ดาวสำคัญหลายดวง
รวมทั้งดาวประจำชีพ(พระอังคาร๓ที่สถิตมังกร)และดาวการงาน(พระเสาร์๗ที่สถิตราศีมังกร)-และนำโชคร้ายสู่เพื่อนฝูงมิตรสหายที่น่าจะรวมทั้งเพื่อนคณะรัฐมนตรี(ทับพระราหู๘-คู่ศัตรู)
สำคัญคือเคราะห์เรื่องคดีความอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน(พระพุธ 4 กาลกิณีจรเล็งพฤหัสบดี ๕ ที่สถิตราศีมังกร)
ฉ.ช่วงเคราะห์หนักที่สุดในตำแหน่งนายกฯระหว่าง1-19กันยายน2567 ถึงขนาดอาจต้องหยุดทำงานหรือไม่ก็มีโอกาสหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยหลักโหรคือ
พระพุธกาลกิณีจร 4 เข้าไปเดินในราศีสิงห์เล็งพระศุกร์๖ดาวเดชซึ่งเป็นตัวแทนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี-ตะบะ-บารมีของท่าน มีโอกาสรักษาตำแหน่งไว้ไม่ได้ตามโฉลก..กาลีต้องเดชธำรง เดชไว้มิคง ด้วยถูกเบียดเบียนบีฑา วิวาทวิบัตินานา อริพาลา จะรุมให้ร้อนรำคาญ…
แล้วช่วงนี้มีอะไรพอจะคานอำนาจร้ายของกาลกิณีได้หรือไม่
ตำราบอกว่ามี แล้วท่านก็มีเสียด้วยคือพื้นดวงชะตาเดิมมีพระเกตุ(๙)วิญญาณธาตุ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือของเก่าสถิตในราศีสิงห์รองรับอยู่พอคานอำนาจร้ายจากกาลกิณีให้อ่อนลงได้ นี่เป็นหลักตามปกติทั่วไป
เพียงแต่กาลกิณีที่มารอบ 1-19 กันยายน 2567นี้ไม่ใช่ธรรมดา แต่ร้ายแรงกว่าปกติถึงสี่เท่า เพราะได้มาตรฐานมหาจักรดวงเบ้อเร่อที่หาดาวมาคานความร้ายกาจได้ยาก
สิ่งเดียวที่พอจะคานอำนาจกาลกิณีมหาจักรได้คือพื้นดวงชะตาเดิมต้องมีพฤหัสบดีเป็นมหาจักรกุมลัคน์ตั้งแต่เกิด แต่ท่านนายกฯเศรษฐาไม่มี
ระยะนี้จึงน่าหวาดเสียวแทนยิ่งนัก
ช.หากผ่านไปได้ ก็ยังจะมีเคราะห์รออยู่อีกคือระหว่าง5-24ตุลาคม 2567(พระพุธกาลกิณีจร4เล็งลัคนา)
ซ.แต่ถ้าพอจะอุ่นใจได้บ้างก็ให้ดีฝ่าไปถึงวันที่1ธันวาคม2567(หรือหลังจากนั้นประมาณเจ็ดวัน) เมื่อพระเสาร์(7)จรเริ่มเดินปกติที่การบริหาราชการแผ่นดินของรัฐบาลจะนิ่งขึ้นหลังจากผ่านการเขย่าขนาดหนักแล้ว ซึ่งถ้าท่านนายกฯรอด-ตีฝ่ามาได้อาจทำให้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่านนิ่งขึ้นบ้าง
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ยังไม่น่าไว้วางใจนัก
ด้วยตั้งแต่เกิดที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567-15กุมภาพันธ์ 2568 ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของคุณเศรษฐา ทวีสิน เปรียบได้กับวิมาณบนทรายที่คลื่นจะซัดให้หายไปได้ตลอดเวลา
ขอให้ทานนายกฯเศรษฐา ทวีสิน โชคดีในการฟันฝ่า สำคัญคือครูโหรผู้ล่วงลับ เทพย์ สาริกบุตร เคยสอนไว้ว่า ครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องของดวงชะตา อีกครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องของการกระทำ สำคัญกว่านั้นคือครึ่งแรกไม่รู้ว่าผู้เขียนจะแม่นหรือไม่???
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมดปัญญา...เทวดาต้องรอด
เวลานี้ มีคนบางคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วปรากฏว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ไม่มีหน่วยงานใด ไม่มีกฎหมายมาตราใดจะเอาโทษเขาได้
ว่าด้วยความสำคัญของ 'จังหวะ' และ 'โอกาส'
อาทิตย์นี้...ก็ 22 ธันวา.เข้าไปแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงช่วงจังหวะ คริสต์มาส ที่คงมีโอกาสได้ยิน ได้ฟัง บทเพลงอันสุดจะซาบซึ้ง ตรึงใจ ไม่ว่าประเภท จงกระเบน-จงกระเบน (Jingle Bells)
ตั้ง'นายพล'ไปต่อ
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 นาย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
ลัคนามังกรกับเค้าโครงชีวิต ปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ลูกหลาน-ความรัก-ความหวัง ตลอดปียังอดเอาทุกข์นำหน้าชีวิตไม่ได้- ตั้งแต่พฤษภาคมเป็นต้นไประวังป
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน