
ประเทศเพื่อนบ้านด้านตะวันตกของยูเครนที่เป็นสมาชิกนาโตเริ่มจะหวั่นไหวเพราะเห็นทหารัสเซียสามารถรุกคืบในยูเครนได้มากขึ้นในหลายเดือนที่ผ่านมา
ตั้งแต่ฟินแลนด์ทางเหนือมาจรดลิทูอาเนียทางใต้ที่เรียกว่าเป็นกลุ่มประเทศบอลติกรวมตัวกันเพื่อจะสร้าง “แนวป้องกันร่วม” เพื่อตั้งรับในกรณีที่รัสเซียทะลุทะลวงผ่านยูเครนมาได้
เป็น “แนวป้องกันร่วม” ทั้งที่เป็นกองกำลังโดรนและบังเกอร์ภาคพื้นดินรวมไปถึงรั้วลวดหนามที่จะขึงตลอดแนว
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดียูเครนเซเลนสกีเรียกร้องให้ประเทศตะวันตกส่งเครื่องบิน F-16 มาช่วย
มีการถกแถลงในเหล่าสมาชิกนาโตกันอย่างกว้างขวาง ทั้งที่เห็นด้วยและไม่ต่าง
ต่อมา ยูเครนก็ขอระบบต่อต้านอากาศยานมาเพิ่ม เพราะรัสเซียใช้วิธีการถล่มโจมตีทางอากาศหนักขึ้นทุกที
ล่าสุดรัสเซียทิ้งระเบิดใส่เมืองคาร์คีฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน
ขีปนาวุธไปลงในซูเปอร์มาร์เก็ตกลางเมือง สร้างความเสียหายกว้างขวางทั้ง ๆ ที่เป็นตลาด ไม่เกี่ยวกับสงครามแต่อย่างไร
คนที่ออกมาเชียร์ให้ตะวันตกต้องยกระดับความช่วยเหลือยูเครนให้มากกว่านี้คือเลขาธิการนาโต
ล่าสุดเขาเสนอให้ยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้อาวุธของตะวันตกโดยยูเครนต่อเป้าหมายในดินแดนรัสเซีย
เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เยนส์ สโตลเทนเบิร์กให้สัมภาษณ์นิตยสาร The Economist ของอังกฤษว่ารัฐบาลต่าง ๆ โดยเฉพาะทางตะวันตก (เน้นไปที่สหรัฐฯโดยไม่เอ่ยชื่อตรง ๆ) ที่ส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครน ควรทบทวนเงื่อนไขที่เป็นข้อจำกัดการใช้อาวุธเพื่อโจมตีเป้าหมายทางทหารของกองทัพมอสโกในดินแดนรัสเซีย
พูดง่าย ๆ คือเขาเห็นพ้องกับเซเลนสกีว่ายูเครนควรจะสามารถใช้อาวุธของตะวันตกในการสกัดการโจมตีของรัสเซียได้
เพราะตราบที่ยังมีเงื่อนไขดั่งว่า ก็จะเป็นการมัดมือชกสำหรับยูเครน
ทำให้กองทัพเคียฟไม่สามารถปกป้องตนเองจากการรุกรานของมอสโกได้เต็มที่
มองอีกแง่หนึ่ง นั่นคือการเปิดทางให้ยูเครนรุกกลับรัสเซีย จะด้วยปืนใหญ่, ขีปนาวุธหรือแม้แต่เครื่องบินรบหากได้รับมอบได้ทันการ
นอกจากจะให้สัมภาษณ์นิตยสารอังกฤษแล้ว เลขาฯนาโตพูดตอนไปเยือนบัลแกเรียต้นสัปดาห์ว่าการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2022 คือการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
เมื่อเป็นเช่นนั้นยูเครนก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเอง และเมื่อการรุกรานมาจากจุดต่าง ๆ ของรัสเซีย “รัสเซียก็ย่อมจะเป็นเป้าหมายอันชอบธรรมนอกยูเครน”
นั่นคือการย้ำว่าการกระทำเช่นนี้เป็น “การป้องกันตนเอง” ไม่ใช่การรุกราน
รัสเซียก็อ้างมาตลอดเช่นกันว่าการส่งทหารเข้ายูเครนนั้นเป็นการ “ป้องกันตนเอง” จากการรุกรานของตะวันตกที่ใช้ยูเครนเป็นทางผ่านเหมือนกัน
ตกลงทุกประเทศต่างก็ “ป้องกันตนเอง” กันทั้งนั้น
ไม่มีใครยอมรับว่า “รุกราน” ใครเลย
เลขาฯ นาโต้ บอกว่า “ตอนนี้ เราเห็นภาพที่ว่าชัดเจนแล้วว่ารัสเซียใช้วิธีการโจมตีทางอากาศโดยไม่เลือกว่าเป็นเป้าหมายทางทหารหรือพลเรือน ดูตัวอย่างการถล่มในคาร์คิฟเป็นตัวอย่าง”
เขาอ้างว่าทหารรัสเซียตั้งอยู่ในดินแดนรัสเซียเพื่อทำการโจมตี จากบริเวณชายแดนเข้าใส่ยูเครนและแนวหน้าการรบนั้นก็อยู่ที่แนวพรมแดนติดกับยูเครนนั่นเอง
“หากคุณไม่สามารถโจมตีกองกำลังรัสเซียที่อีกฝั่งหนึ่งของแนวหน้าการรบได้เพราะพวกเขายืนอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าคุณได้ลดทอนความสามารถของกองกำลังยูเครนในการปกป้องตนเอง”เขายืนยัน
สโตลเทนเบิร์กยังพยายามยืนกรานว่านาโตไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับรัสเซีย
แต่พันธมิตรนาโตย่อมมีสิทธิ์ที่ช่วยยูเครนคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการป้องกันตนเองด้วยการจัดหาการสนับสนุนทางทหารให้
เลขาฯนาโตพูดชัดถ้อยชัดคำอย่างนี้ไม่กี่ชั่วโมงหลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนเรียกร้องพันธมิตรของยูเครนให้ช่วยประเทศของเขาป้องกันตนเอง
จาก”เหล่าผู้ก่อการร้ายรัสเซีย”
เหตุที่เซเลนสกีย้ำถึงเรื่องนี้ก็เพราะต้องการจะให้ปรับเปลี่ยนนโยบายของประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐฯ ที่ห้ามไม่ให้ยูเครนใช้อาวุธที่ตนมอบให้ในการโจมตีเป้าหมายที่ตั้งอยู่ภายในดินแดนของรัสเซีย
เซเลนสกีบอกว่าทหารยูเครนฃรู้ชัดเจนว่าทหารรัสเซียวางกำลังกระจุกตัวอยู่ที่จุดไหนบ้าง
อีกทั้งฝ่ายยูเครนก็คุ้นเคยกับตำแหน่งพื้นที่ต่าง ๆ ที่รัสเซียใช้ปล่อยขีปนาวุธใส่ยูเครน
และไม่ว่ารัสเซียจะจอดเครื่องบินรบที่พร้อมขึ้นบินเพื่อถล่มยูเครนก็เป็นที่ล่วงรู้ของฝ่ายยูเครน
ล่าสุด สื่อเยอรมัน Der Spiegel อ้างคำพูดของคนระดับนำของโปแลนด์ว่าหากรัสเซียสามารถยึดพื้นที่สำคัญ ๆ ในยูเครนเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญกลุ่มประเทศสมาชิกบอลติกและโปแลนด์จะ “ส่งรองเท้าบู๊ทลงพื้นดินยูเครน” แน่นอน
นั่นแปลว่าจะมีการส่งทหารเข้ายูเครนเพื่อป้องกันตัวเองจากการรุกคืบของรัสเซียสู่ดินแดนของตน
“เราจะไม่ยอมให้รัสเซียยึดกรุงเคียฟ” สื่อเยอรมันอ้างคำพูดของผู้นำคนหนึ่งของโปแลนด์
นี่คือสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นทุกขณะในประเทศรอบ ๆ ยูเครนที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับ “ฉากทัศน์อันไม่พึงปรารถนา” อย่างน่ากังวลยิ่ง!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ

