เป็นที่แน่ชัดแล้ว อ.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ในรัฐบาลทักษิณและ พล.อ.ประยุทธ์ จะหวนคืนทำเนียบฯ อีกครั้งในวัย 73 ปี ในฐานะที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ในรัฐบาลเศรษฐา ที่หวังใช้บริการ “เนติบริกร” มาช่วยเหลือคดีที่ 40 สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตรวจสอบการกระทำของนายกฯ ว่าผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่
แม้ อ.วิษณุ ไม่ได้ตอบชัดเจนว่า จะไม่เป็นหัวขบวนช่วยคดีนายกฯ แต่ในการเมืองย่อมรู้ว่าการเข้ามาของ "เนติบริกร" ผู้นี้ย่อมเป็นสัญญาณบวกในทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย ที่ไม่เคยแพ้คดีในศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ หรือความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบุคคลในองค์กรอิสระที่ยังเป็นมรดกของ คสช.อยู่ในเวลานี้
ย้อนกลับไปถึงฉายา “เนติบริกร” ที่ถูกตั้งโดยสื่อประจำทำเนียบฯ ในปี 2545 โดยเจ้าตัวบอกว่ามีหน้าที่ดังนี้ 1.เชิญองค์กรมาหารือร่วมกัน เพื่อรวบรวมความเห็นแง่มุมต่างๆ เสนอรัฐบาล
2.เชิญหน่วยงานต่างๆ มาตกผลึกในเชิงบูรณาการในเรื่องกฎหมาย เพราะปล่อยไปตามปกติจะเกิดความเห็นต่างๆ ไม่รู้จบ
3.ลงไปตรวจสำนวนหรือความเห็นคำฟ้อง คำร้อง คำให้การที่กล่าวหานายกฯ หรือรัฐบาล และต้องยื่นต่อศาล และองค์กรอิสระ
4.แนะนำเชิงป้องกันก่อนจะเกิดเรื่องราว ทำนองกันไว้ดีกว่าแก้นั่นเอง 5.ประสานงานกับสภาฯ และ 6.ให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์เพื่อชี้แจงภารกิจงานต่างๆ
“หน้าที่เนติบริกรไม่มีหน้าที่วิ่งคดี ช่วยพลิกคดี หรือทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูก แต่อาจมีบ้างที่มีทางเลือกหลายทาง ก็จะแนะนำให้ใช้ทางใดทางหนึ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์และได้เปรียบที่สุด งานเนติบริกรส่วนใหญ่ก็ทำก็เป็นเรื่องอย่างนี้แหละครับ จึงไม่ใช่ 'บริกร' ที่รับใช้ทุกเรื่อง" อ.วิษณุเขียนไว้ในหนังสือ “ชีวิตดั่งหาดทรายและทะเล”
แม้ อ.วิษณุจะบอกว่าไม่มีหน้าที่ “ช่วยผิดให้เป็นถูก” แต่ในทางการเมืองไม่ได้มองว่า อาจารย์เป็นแค่เพียงเกราะธรรมดา แต่เป็น “เกราะเพชรเจ็ดสี” สำหรับรัฐบาลชุดนี้เลยทีเดียว.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อายุไม่ถึงไปนิดเดียว
ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ทั่วประเทศ หลายสนามสู้กันดุเดือด มีการเมืองระดับชาติเข้าไปผสมโรง
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล
หลอกแล้ว หลอกอีก หลอนต่อ
ควันหลงเวที “ทักษิณ ชินวัตร” เทวดาชั้น14 เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ที่บอกว่าไปช่วย “ศราวุธ เพชรพนมพร”ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรฯ ของพรรค หาเสียงดูเหมือนเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง
“ต๋อม เวอร์ชันดุ”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีของเหล่าผู้ช่วยหาเสียง ดุเดือด แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน และเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาชน นำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้ช่วยหาเสียง ได้เดินหน้าจัดเต็มขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างดุเดือด
โชว์ลีลารำวง
เมื่อสวมหมวกหลายใบ ภารกิจของ “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเยอะหน่อย ไม่ว่าจะในฐานะสส. ที่ขาดไม่ได้ต้องร่วมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งงานกฐิน
ไม่มีเกาะ ไม่มีเขา
เป็นเรื่้องที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในรัฐบาลชุดนี้กับประเด็นร้อนๆ ที่ดินเขากระโดง อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดศึกกับกรมที่ดิน