บันทึกหน้า 4

ส่วนกระแสข่าวว่า บิ๊กป้อม- พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยู่เบื้องหลังกลุ่ม 40 สว.ยื่นศาล รธน.เชือด เศรษฐา-พิชิต คงไม่ใช่การจินตนาการอย่างที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ มองว่าไม่เห็นความเชื่อมโยงกับพรรคร่วม หรือที่นายเศรษฐาระบุว่า พรรค พปชร.ก็ร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ตนเองก็ทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรฯ ได้โอเคไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่อย่าลืม บิ๊กป้อม ไม่ได้ไฟเขียวให้ สส.พปชร.โหวตนายเศรษฐาเป็นนายกฯ เป็นเรื่องของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในขณะนั้น เดินเกมตาม ดีลลับลังกาวี ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่พา สส.โหวตหนุนนายเศรษฐา และไม่ให้ บิ๊กป๊อด-พัชรวาท ในฐานะรองนายกฯ กำกับดูแล ก.เกษตรฯ ทั้งที่อยู่พรรคเดียวกัน แต่ดันให้ นายภูมิธรรม กำกับดูแล ก.เกษตรฯ แทน ความคับแค้นของ 2 พี่น้องยังฝังใจ สบโอกาสเมื่อไหร่ก็พร้อมรื้่อนั่งร้านท่ามกลางข่าว เบี้ยวดีล...0

จับตา วันที่ 29 พ.ค.นี้  อัยการสูงสุด (อสส.) จะมีคำสั่งคดี นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาตาม ป.อาญา มาตรา 112 อย่างไร จากกรณีที่ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2558 โดย อสส. (ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อสส.ในขณะนั้น) มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณแล้ว แต่ทักษิณยื่นขอความเป็นธรรมและใช้สิทธิ์ชี้แจงข้อกล่าวหา ล่าสุดทักษิณขอเลื่อนอีก อ้างว่าติดโควิด หากมีเหตุผลก็เลื่อนได้ แต่สุดท้ายว่า อสส.ต้องสั่งฟ้องแน่ เพราะอสส.คนก่อนก็เคยสั่งฟ้องไปแล้วคำสัมภาษณ์เจตนาชัดเจนว่า เขา นั่นหมายถึงใคร ซึ่งคล้ายกับกลุ่ม 3 นิ้วที่กล่าวหาสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสียหาย และศาลคงให้ประกันตัว โดยมีเงื่อนไขเหมือนคดี ม.112 อื่นๆ ที่หากทำผิดเงื่อนไขก็ต้องเพิกถอนการประกันตัว เพราะหลักกฎหมายต้องการ มิให้เกิดความเสียหายเพิ่มอีกในระหว่างการพิจารณาคดี คนที่โดน ม.112 แล้วโดนเพิกถอนประกัน ต้องเข้าใจหลักการนี้ด้วย...0

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ  สำหรับ โจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจากถูกให้ออกจากราชการ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ไปรณรงค์ล่าชื่อประชาชนถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.ที่โรงแรมเจ.เอ.พลัส พัทยา จ.ชลบุรี ยกพระราชดำรัส ร.9 ผิดแบบ ดำเป็นขาว ขาวเป็นดำ ทำให้ นายสนธิญา สวัสดี เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ขณะที่ คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้มีความเห็นทางกฎหมาย กรณีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอหารือเกี่ยวกับการให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน สรุปว่า นายกฯ ต้องนำความกราบบังคับทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการฯ แต่ก็ไม่กำหนดกรอบเวลา ส่วนการดำเนินการทางวินัยตาม ม.120 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 หากรอผลการสอบของกรรมการสอบสวนวินัยย่อมชอบธรรม แต่กรณีนี้เป็นการดำเนินการตาม ม.131 "ข้าราชการตำรวจต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาหรือถูกฟ้องคดีอาญา ผู้บังคับบัญชามีอำนาจสั่งพักราชการหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยได้"  หาก โจ๊ก ไม่เห็นด้วยก็ไปฟ้องศาลปกครอง แต่ กม.ต้องยึดเจตนารมณ์เป็นหลัก...0

แซมซาย