ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับศาลโลก 2 สถาบัน เกิดคำถามว่า ICJ กับ ICC ที่มีคำสั่งเกี่ยวกับสงครามกาซาระหว่างอิสราเอลกับฮามาส จนเป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลกนั้นมีบทบาทต่างกันอย่างไร
คำตอบง่ายๆ คือ ICJ หรือ International Court of Justice เป็นศาลพิจารณาข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างรัฐ ในขณะที่ ICC หรือ International Criminal Court คือศาลที่ดำเนินคดีกับบุคคลในข้อหาก่ออาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรง
ICJ เป็นองค์กรหนึ่งของสหประชาชาติ ในขณะที่ ICC มีความเป็นอิสระทางกฎหมายจากสหประชาชาติ
ICJ เป็นศาลทั่วไป ส่วน ICC เป็นศาลเฉพาะทาง
ที่เป็นข่าวเกี่ยวกับสองศาลระดับโลกนี้ เป็นเพราะทั้งสองศาลมีบทบาทเกี่ยวข้องอย่างมากกับการเมืองที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในฉนวนกาซา
ศุกร์ที่ผ่านมา ICJ ได้ประกาศให้รัฐบาลอิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารในเมือง Rafah ทางใต้ของกาซาที่มีพรมแดนติดกับอียิปต์
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน หัวหน้าอัยการของ ICC ชื่อ Karim Kanh ได้ยื่นขอหมายจับผู้นำทั้งของรัฐอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาส ซึ่งมีส่วนร่วมในความขัดแย้งอันขมขื่นและร้ายแรงในปาเลสไตน์ โดยอ้างว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้กระทำการอันเป็นการเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามทั้งสิ้น
แต่อิสราเอลไม่ยอมรับคำสั่งของศาล ICJ ให้หยุดแผนปฏิบัติการบุกราฟาห์ อ้างว่าที่กล่าวหาว่าทหารอิสราเอลทำร้ายพลเรือนชาวปาเลสไตน์นั้นไม่เป็นความจริง
นายกฯ เบจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล บอกว่า ข้อกล่าวหาเรื่องนี้จากรัฐบาลแอฟริกาใต้ที่ส่งไป ICJ นั้นล้วนเป็นเรื่องบิดเบือน ไร้สาระและน่ารังเกียจ
ส่วนข้อกล่าวหาของหัวหน้าอัยการ ICC ที่ขอศาลให้ออกหมายจับทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลนั้น เนทันยาฮูก็โต้กลับอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยบอกว่าอัยการจงใจจะบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะอิสราเอลเป็นเหยื่อของการถูกโจมตีโดยฮามาส แต่ข้อหาของอัยการระบุถึงการที่ทหารอิสราเอลสังหารและทำร้ายพลเรือนชาวปาเลสไตน์ ตลอดถึงการไม่ให้ความสะดวกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปถึงชาวปาเลสไตน์เป็นจำนวนมากนั้นคืออาชญากรรมสงคราม
บทบาทของสองศาลระดับสากลจึงกลับมาอยู่ในความสนใจของชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง ทั้ง ICJ และ ICC เป็นสถาบันตุลาการระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในกรุงเฮก
ในหลักการของการก่อตั้งนั้น ศาลทั้งสองเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางกฎหมายสากล ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมและส่งเสริมหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ พอลงรายละเอียดจะเห็นว่า ICJ และ ICC เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน
ICJ เป็นองค์กรตุลาการหลักของสหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2488 โดยกฎบัตรสหประชาชาติ ประกอบด้วยผู้พิพากษา 15 คนที่ได้รับเลือกโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติและสภาความมั่นคงฯ
ส่วน ICC ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 เป็นองค์กรระหว่างประเทศอิสระที่ก่อตั้งขึ้นโดยสนธิสัญญาที่เรียกว่าธรรมนูญกรุงโรม
เป็นศาลอาญาระหว่างประเทศถาวรตามสนธิสัญญาแห่งแรกที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยยุติการไม่ต้องรับโทษสำหรับผู้กระทำผิดในอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรงที่สุด
ICC เป็นศาลอาญาที่พยายามกำหนดความรับผิดชอบทางอาญาส่วนบุคคลสำหรับอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรงที่สุด
องค์กรนี้มีพนักงานอัยการที่มีอำนาจดำเนินการสืบสวนอาชญากรรมภายในเขตอำนาจศาลของ ICC และศาลสามารถออกหมายจับบุคคลที่เชื่อว่าได้ก่ออาชญากรรมเหล่านั้น แต่ ICC ไม่มีกองกำลังตำรวจ ประเทศที่เป็นภาคีมีหน้าที่ปฏิบัติตามหมายจับที่ร้องขอ
การพิจารณาคดีจะดำเนินการพิจารณาคดีอาญา (โดยมีทนายความฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย) ต่อหน้าผู้พิพากษา ICC สามารถกำหนดโทษจำคุก สั่งปรับ และยึดทรัพย์สินที่ได้จากการก่ออาชญากรรมได้ อีกทั้งยังมีอำนาจออกค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายได้ แต่ไม่สามารถกำหนดโทษประหารชีวิตได้
ในขณะเดียวกัน ICJ ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบของรัฐมากกว่าความรับผิดชอบส่วนบุคคล คำวินิจฉัยของของ ICJ สามารถตัดสินได้ว่ารัฐภาคีในคดีนี้ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและการชดใช้ตามคำสั่ง (รวมถึงการค้ำประกันการไม่ทำซ้ำ และค่าตอบแทนทางการเงินหรือการชดใช้) สำหรับการละเมิดดังกล่าวหรือไม่ แต่ศาล ICJ จะไม่ระบุตัวผู้กระทำผิดเป็นรายบุคคลหรือระบุความรับผิดชอบส่วนบุคคล
หากรัฐเชื่อว่ามีสิทธิ์ที่ตกอยู่ในอันตราย สามารถขอให้ ICJ ออก “มาตรการชั่วคราว” เพื่อรักษาสิทธิ์เหล่านั้นจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ตัวอย่างเช่น มีการร้องขอและออกคำสั่งมาตรการชั่วคราวในกรณีระหว่างแอฟริกาใต้กับอิสราเอลเพื่อป้องกันการละเมิดอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ถูกกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง
ประเทศที่มีบทบาทสำคัญในความขัดแย้งระดับโลกวันนี้ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย และอิสราเอล ไม่ได้เป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรม
ด้วยเหตุนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จึงเคยกล่าวอ้างว่า ICC ไม่มีเขตอำนาจศาลในการออกหมายจับเกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซา
นอกเหนือจากข้อจำกัดเหล่านี้ ICC สามารถจัดการกับอาชญากรรมที่กระทำได้ทุกที่ในโลก หากสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติขอให้ทำเช่นนั้น
มีคำถามว่าคดีมาถึงศาลทั้งสองได้อย่างไร?
คดีของ ICJ จะเกิดขึ้นต่อศาลเฉพาะเมื่อได้รับความยินยอมจากรัฐผู้โต้แย้งเท่านั้น
นั่นหมายความว่ารัฐใดรัฐหนึ่งไม่สามารถถูก “ลาก” ขึ้นศาลได้ ตัวอย่างล่าสุดคือแอฟริกาใต้กับอิสราเอล
อิสราเอลให้ความยินยอมในการแก้ไขข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อหน้า ICJ เมื่อลงนามในสนธิสัญญาในปี 2493 โดยตกลงที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการทางกฎหมายนี้
คำตัดสินของ ICJ ในกระบวนพิจารณาที่มีการโต้แย้งมีผลผูกพันคู่กรณี แม้ว่าศาลจะไม่สามารถบังคับใช้คำตัดสินของตนได้ กรณีของ ICJ ประเภทที่สองเรียกว่า “ความคิดเห็นที่ปรึกษา”
กรณีเหล่านี้ไม่ใช่กรณีทั่วไป ดังนั้นจึงไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องกับ "ฝ่ายต่างๆ" แบบดั้งเดิมในข้อพิพาท เมื่อมีความขัดแย้งกันรุนแรงขึ้นระดับโลกก็คงจะได้เห็นบทบาทของ “สองศาลโลก” นี้กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งแน่นอน!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว