เป็นหญิงแกร่งแห่งปี ที่มีคิวงานแน่นที่สุด สำหรับ “สาวเนเน่” รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังเดินทางกลับจากร่วมคณะนายกรัฐมนตรีในการเยือนฝรั่ง อิตาลี และญี่ปุ่น รวม 10 วัน เจ้าตัวในฐานะรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็ลุยงานต่อที่ จังหวัดเพชรบุรี ทันที
เพื่อร่วมบรรยายในหัวข้อ “กุญแจความสำเร็จในการเป็นที่พึ่งของประชาชน” ในโครงการสถานียุติธรรม ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เป็นการรวมตัวกันของตัวแทนศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชนทั่วประเทศ
และหลังจากเดินสายออนทัวร์เมืองนอกมาหลายวัน ทันทีที่ได้ลงเครื่องบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าตัวก็บอกคิดถึงทุกคนที่สุด เมื่อเจอบรรดานักข่าวที่มารอดักสัมภาษณ์นายกฯ พร้อมมีเรื่องเม้าท์กันให้หายคิดถึง
โดยเฉพาะเรื่องที่เยือนกรุงโรม สาธารณรัฐอิตาลี ที่ Bvlgari High Jewelry Workshop ในการเยี่ยมชมห้องจัดแสดงเครื่องประดับ และพบหารือกับนาย Mauro di Roberto รองประธานธุรกิจบริษัท Bvlgari ที่มีผลิตภัณฑ์หลักภายใต้แบรนด์เครื่องประดับ Bvlgari คือ เครื่องประดับและนาฬิกาไลน์ Serpenti
ซึ่งนายกฯเสนอให้มีความร่วมมือกัน ระหว่าง Bvlgari กับอุตสาหกรรมเครื่องประดับของไทย โดยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการผลิตและเจียรไนอัญมณีระหว่างกัน เพื่อเป็นการเพิ่มและยกระดับอุตสาหกรรมอัญมณีของไทย
และสำหรับแบรนด์ดังกล่าว ซึ่งมีชุดเครื่องประดับคอลเลคชั่น LISA CLOSET ที่ศิลปินชื่อดังอย่าง “ลิซ่า Blackping” ใส่ เช่น สร้อยคอเพชร ต่างหู โดยทั้งชุดมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ซึ่ง รองฯเนเน่ ได้มีโอกาสใส่เครื่องประดับชุดดังกล่าว ในช่วงที่เข้าไปดูงานกับนายกฯ โดยจังหวะที่รองฯเนเน่ เข้าไปคือไปทำงาน และกำลังเก็บภาพไปฝากนักข่าว
แต่ทว่าผู้ที่ดูแลเครื่องประดับเห็นรองฯเนเน่ ดูสนใจชุดเครื่องเพชรดังกล่าวมากๆ เลยอนุญาตให้ลองใส่ได้ ท่ามกลางบรรดาหนุ่มตาน้ำข้าว ที่คาดว่าเป็นผู้ดูแลความปลอดภัยเครื่องประดับมูลค่าแสนแพง ที่ยืนจับจ้องอยู่ห่างๆ จนรองฯเนเน่ แอบกระซิบแบบติดตลก ว่า
“เป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุด เขินจังหนุ่มฝรั่งสองคนจ้องตาไม่กระพริบ ไม่ใช่เพราะสวยนะคะ แต่น่าจะเป็นห่วงชุดสร้อย กำไล แหวน สร้อยที่น้องลิซ่าใส่ แค่สร้อยก็ราคา 11 ล้านบาท”
งานนี้ทำ “สาวเนเน่” ยืนตัวเกร็ง ไม่กล้าขยับ กันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน
“เป็นกำลังใจให้เด็กทุกคน”
เมื่อผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ที่ทุกคนเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข ต่อไปจะเป็นวันที่เด็กๆ หลายคนรอคอย นั่นคือ วันเด็กแห่งชาติ ซึ่งจัดตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.ทุกปี โดยปี 68 ตรงกับวันที่ 11 ม.ค.นี้
บ๊ายบายปีมะโรง
ส่งท้ายปี 67 ต้อนรับปีใหม่ 68 มะเส็ง งูเล็ก ด้วยบทกลอนการเมืองจาก “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยกให้เป็น สส.ในตำนานท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่กล่าวขานโดยเฉพาะเวลาได้ลุกขึ้นอภิปรายในสภา ในฐานะฝ่ายค้าน ชาวบ้านหลายคนติดตามรับฟัง เพราะมีลีลาที่เป็นเฉพาะตัว
มือแทน 'อุ๊งอิ๊ง'
เป็นเสนาบดีมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จนมาถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สำหรับ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)