
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ไว้ลายผลงานครั้งสุดท้ายสำหรับกลุ่ม 40 สว. หลังยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยการกระทำขัดรัฐธรรมนูญของ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และคุณสมบัติของ พิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในมาตรา 160 (4) (5) ว่ามีความซื่อสัตย์สุจริต และไม่มีการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
มีคำถามเกิดขึ้นว่า สว.ชุดดังกล่าวมีหมุดหมายอะไร ทำหน้าที่หรือต้องการส่งสัญญาณไปถึง นายใหญ่ ว่าอย่าเหลิงอำนาจเกินไประหว่างการพักโทษ เพราะสุดท้ายอาจกลับไปอยู่เรือนจำได้ทุกเมื่อ
มีกระแสข่าวว่าในวันที่ 23 พ.ค.นี้ องค์คณะศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาคำร้องของกลุ่ม 40 สว. จะนัดหารือลงมติรับคำร้องหรือไม่ และอาจจะพิจารณาให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ อย่างเช่นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ และศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม ก่อนตัดสินว่าทั้ง 2 คน จะพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่
หากสุดท้ายนายกฯ มีความผิดด้วย จะส่งผลให้ ครม.พ้นสภาพไปด้วย และเปิดโอกาสให้มีครม.ใหม่ คราวนี้แหละจะเกิดความวุ่นวายและแรงกระเพื่อมขึ้น รวมถึง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร จะพร้อมมารับเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ หรือ จะใช้บริการแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคร่วมรัฐบาล หรือจะเคลียร์ทางให้ใครบางคนลาออกจากตำแหน่ง และหวนกลับมาให้ FC หายคิดถึงหรือไม่ หรือจะไปอีกทางหนึ่ง พรรคเพื่อไทยจะหันไปจับมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อสั่งสอนฝ่ายอนุรักษนิยม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกฯ อาจจะยืนยันว่าไม่มีความผิด เพราะได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยคุณสมบัติของ “พิชิต” แล้ว แต่ทาง สว.เห็นต่าง เพราะผู้ชงเรื่องคือสำนักงานเลขาธิการ ครม. ถามไม่ครบประเด็น เพราะหลีกเลี่ยงมาตรา 160 (4) (5) ถามเฉพาะมาตรา 160 (6) และ (7) ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลมองว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะเคยติดคุกพ้น 10 ปีมาแล้ว และไม่ถูกต้องคำพิพากษาให้จำคุก ไม่รวมถึง “คำสั่งจำคุก” จึงต้องดูว่านายกฯจะแก้ต่างอย่างไร หรือจะอ้างว่า บกพร่องโดยสุจริต เพราะไม่รอบคอบในการยื่นตรวจสอบให้ครบทุกประเด็นเพื่อขอความเห็นใจจากศาล ขณะที่คำถามที่สังคมอยากรู้ว่า ใครเป็นมือดีส่งเรื่องให้คณะกฤษฎีกากันแน่ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการวางยานายกฯ ผ้าขาวม้า และ ครม.คนอื่นๆ หรือไม่
ขณะที่ตัว พิชิต อาจลำบากหากปล่อยไปถึงวันตัดสิน อาจมีความเป็นไปได้เพื่อลดกระแสกดดันนายกฯ และรัฐบาล ด้วยการอาจชิงลาออก และรอไปลุ้นว่าศาลจะจำหน่ายคดีหรือไม่ เหมือน กรณี นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย เคยใช้แนวทางนี้กับศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว
๐ แม้จะสร้างความฮึกเหิม สำหรับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ประกาศว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะกวาด สส. 270-300 ที่นั่ง ผ่านมหกรรมนโยบายพรรคก้าวไกล Policy Fest ครั้งที่ 1 “ก้าวไกล Big Bang” แต่ก่อนจะไปจุดนั้น อาจต้องแก้ไขเรื่องความ อ่อนหัดทางการเมือง หลังเสียท่าให้แก่ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี ใช้แท็กติก กฎหมายชิงลาออกให้เลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน ทิ้งให้พรรคก้าวไกลที่มี สส.ปทุมธานีถึง 6 คน แต่ไร้ความสามารถหาตัวสมัครได้ทัน เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ปชป. สอนมวยว่า เมื่อพรรคก้าวไกลมีมติไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรค ทำให้มวลชนที่เคยเลือกพรรคก้าวไกลรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครคนใด ทำให้มวลชนหรือฐานคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกลไม่มีตัวเลือก
อยากจะนำเสนอไปยังพรรคก้าวไกลว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลคือขั้วทางการเมือง ต้องประกาศให้ชัดว่าพรรคก้าวไกลคือทางเลือกหนึ่งของประชาชน ต้องแข่งขันกับขั้วอนุรักษนิยมใหม่ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหรือหัวขบวน
“ถ้าหากพรรคก้าวไกลตั้งความหวังเลือกตั้งครั้งหน้าได้ สส. 270 คน ต้องปรับปรุงแนวทางการต่อสู้ และนำบทเรียนทางการเมืองในอดีตมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อลบภาพความไร้เดียงสาทางการเมืองออกไปให้ได้”
หรือจริงๆ แล้วพรรคก้าวไกลยังรอผสมพันธุ์กับพรรคเพื่อไทยอยู่ เพราะระบบตรวจสอบทักษิณแทบไม่ทำงาน ส่วนงานตรวจสอบ “นายกฯ” และ “รมต.พิชิต” ก็ถูก 40 สว.ตัดหน้าตรวจสอบสร้างแต้มไปก่อนแล้วด้วย.
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
เข้าใจคนชายแดน
ถ้าเอ่ยชื่อ กวาง–ไตรศุลี ไตรสรณกุล นาทีนี้ หลายคนคงนึกถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหญิงของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานเงียบ สุขุม แต่เดินเกมเร็ว ไม่หวือหวา ทว่าจับงานอยู่หมัด
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”

